ผ่านวาระแรก! แก้ พ.ร.บ.การท่าเรือฯ "สุริยะ-มนพร" เรียกหารือผังท่าเรือกรุงเทพ ยันเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่กระทบชุมชน

ผ่านสภาฉลุย! แก้ พ.ร.บ.ท่าเรือฯ "สุริยะ-มนพร" เรียกหารือผังแต่ ยังไม่สรุป ใช้พื้นที่ ท่าเรือกรุงเทพ พัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร ยันไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่พื้นที่มีมวลชน ที่จะมีผลกระทบและเกิดปัญหาแน่นอน

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับดูการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เรียกนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการ กทท.และผู้บริหาร ท่าเรือกรุงเทพไปหารือ ในประเด็นการใช้พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) พัฒนาเชิงพาณิชย์ และดำเนินนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ของรัฐบาล

โดยพบว่า มีผังในการใช้พื้นที่สำหรับสถานบันเทิงครบวงจร กำหนดเป็นพื้นที่สีเหลือง ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนของท่าเทียบเรือ-โรงพักสินค้าริมน้ำ 1-9 และโรงพักสินค้าหลังท่าและคลังสินค้าต่างๆ พื้นที่รวมเกือบ 600 ไร่ มีความยาวหน้าท่ากว่า 1,000 เมตร ซึ่งเรือสินค้าทั่วไปเทียบท่าได้พร้อมกัน 9 - 10 ลำ

ขณะที่พื้นที่สำหรับท่าเรือและกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง จะอยู่ฝั่งตะวันออก (ผังพื้นที่สีแดง) โดยกำหนอเป็นพื้นที่ของท่าเทียบเรือตู้สินค้า (Containerfeeder และเรือ Container Motor Barge) ทั้งนี้ มีการสั่งการให้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดำเนินการย้ายกิจกรรมที่อยู่ในพื้นที่สีเหลืองออก และส่งมอบพื้นที่ดังกล่าว ให้ได้ภายในปี 2571

@"สุริยะ" ยัน "เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ใช้พื้นที่เท่าที่จำเป็น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มีการประชุมพูดคุยเฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์การใช้พื้นที่ของ กทท.ว่า จะปรับปรุงอย่างไรให้สามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ กทท.มีประสิทธิภาพขึ้นมา ถ้าลดพื้นที่ลงได้ และหากมีการทำ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ จริงๆ กทท.จะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง มีรายได้เพิ่มเติมขึ้นมา ก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวออกมาว่าจะมีการใช้พื้นที่หน้าท่าทั้งหมดจะเป็น เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ทั้งหมด จริงหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ในรายละเอียดไม่ทราบ ส่วนจะมีการโยกย้ายบางเนื้องานออกไปหรือไม่ ก็คง มี แต่จะย้ายเท่าที่จำเป็น


@"มนพร"ยันใช้พื้นที่ไม่กระทบชุมชน

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 68 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการแห่งพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ ในปี 68 ซึ่งจะทำให้การท่าเรือฯ สามารถจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ทั้งในและนอกราชอาณาจักร เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องในกิจการของการท่าเรือฯ โดยการพัฒนาท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ดังกล่าว จะทำมาซึ่งการเติบโตของผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GPD) รวมถึงสร้างโอกาสให้กับประชาชนได้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการประชุมคณะอนุกรรมการชุดหนึ่งที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีนายสุริยะ เป็นประธาน ตอนนี้คณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุดได้แก่ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ และจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ, คณะอนุกรรมการพิจารณาพัฒนาศักยภาพพื้นที่บริเวณชุมชนคลองเตย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ในปัจจุบัน, คณะอนุกรรมการจัดระเบียบด้านการจราจรและสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) อย่างยั่งยืน และคณะอนุกรรมการด้านการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในท่าเรือกรุงเทพและการประชาสัมพันธ์ ประชุมอยู่ รอเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่อีกที

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับพื้นที่หน้าท่าเรือคลองเตยใหม่ เพื่อรองรับนโยบาย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ นางมนพรกล่าวว่า ยังไม่มีการปรับพื้นที่ เพียงแต่มีการบูรณาการพื้นที่โกดังเก่าที่ไม่ได้ใช้ เอามาทำประโยชน์ โกดังที่ไม่มีสัญญาเช่า ไม่มีเอกชนใช้ พื้นที่หน้าท่ายังอยู่ แต่หน้าท่่มันมีพื้นที่กว้าง แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ ซึ่งแผนเดิมของ กทท. ก็มีกำหนดอยู่แล้ว เราจะต่อยอดว่า จะใช้พื้นที่ตรงไหนแน่ ตอนนี้ยังไม่จบ คณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุดกำลังทำการบ้านอยู่ หลักการคือ ไม่ใช้พื้นที่ทังหมด แนวทาง ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ใช่พื้นที่มีมวลชน ที่จะมีผลกระทบและเกิดปัญหา