เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์PPเกรดพรีเมียมเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 โตขึ้นแตะ 3.1 หมื่นล้านบาท
นายคอร์โซ อูซีลลี่ ประธานบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers กล่าวว่าในปี2567 เป็นอีกปีที่ท้าท้ายสำหรับบริษัทและผู้ประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีทั้งหลาย แม้เราจะเคยผ่านวัฏจักรทั้งขึ้นและลงมาแล้วหลายครั้ง เรียนรู้วิธีบริหารจัดการเป็นอย่างดี แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รูปแบบของวัฎจักรเปลี่ยนแปลงไป ทำให้การรับมือยากกว่าเดิม สาเหตุสำคัญ คือ มีคู่แข่งในตลาดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ต้นทุนทางพลังงานที่สูงขึ้น ปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กดดันให้อุตสาหกรรมพลาสติกต้องปรับตัวอย่างสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก
บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความพิเศษ (Specialty) และมีคุณภาพที่แตกต่างจากคู่แข่ง (Differentiated) ในท้องตลาด โดยปีที่ผ่านมา HMC Polymers สามารถผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพรีเมียมได้อีกหลายเกรด ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้งานสายการผลิตที่ 4 อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมต่อยอดผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก PP เพื่อความยั่งยืนหรือ Sustainable PP Products เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ในส่วนของผลประกอบการ เราทำได้ดีกว่าที่คาดไว้
นางสาวอังคณี สุนทรสวัสดิ์ รองประธาน สายการเงิน บัญชีและงานสนับสนุนองค์กร HMC Polymers กล่าวถึงภาพรวมและแผนกลยุทธ์การเงินในปี 2568 ว่า ในปี2567 ภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังคงอ่อนตัว แต่บริษัทฯรายได้รวม 2.6 หมื่นล้านบาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา( EBITDA )ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน และในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้โตขึ้นมาอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท
โดยวางกลยุทธ์รับมือกับทุกสถานการณ์ดังนี้ คือ 1. การบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มรายได้ มุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์เกรดพิเศษและเกรดคุณภาพ พร้อมต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก PP เพื่อความยั่งยืนตอบรับกระแสรักษ์โลก
2. การบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด เพื่อสร้างและเพิ่มกระแสเงินสดอันเป็นการสะท้อนสภาพคล่อง 3.การบริหารจัดการงบลงทุน ด้วยความระมัดระวัง โดยบริษัทฯ ยังไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ภายหลังจากการก่อสร้างสายการผลิตที่ 4 ของโรงงาน PP แล้วเสร็จในปี 2565 โดยงบลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การซ่อมบำรุงเครื่องจักร และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
4. การจัดหาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนจากหลายสถาบันการเงิน รวมถึงการออกหุ้นกู้ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้มาแล้ว 2 ครั้ง คือ ในปี 2563 และปี 2566 ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ดังนั้น ในปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นายพรชัย พิชิตวุฒิกร รองประธานอาวุโส สายงานกลยุทธ์ นวัตกรรม และพาณิชยกิจ HMC Polymers กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจผันผวน บริษัทยังคงรักษาความเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติก PP เกรดพรีเมียมเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มการแพทย์และสุขอนามัย กลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบคงรูปและแบบยืดหยุ่น และกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก PP เพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainable PP Products ทั้ง 3 ประเภท อันได้แก่ Bio-Circular PP, Advance Recycling PP และ Mechanical Recycling PP ได้รับการตอบรับจากลูกค้ารายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย เป็นต้น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสู่การวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
โดยในปลายปี 2567 บริษัทได้กำหนด Roadmap และเป้าหมายกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนขององค์กรทั้ง 3 เสาหลักไว้ชัดเจนถึงปี 2573 คือ คือ เสา Circularity :เพิ่มสัดส่วนยอดขายของผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก PP เพื่อความยั่งยืน (Sustainable PP Products) เป็นร้อยละ 5 จากยอดขายทั้งหมด
เสา Carbon Reduction : บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอน 20% ใน Scope 1 และ Scope 2 และเสา Connectivity : บรรลุเป้าหมายร้อยละ 70 ของงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างตามแนวทางความยั่งยืน