ส.อ.ท.เผยยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ 107,103 คัน ลดลงร้อยละ 24.63 โดยเป็นยอดขาย 48,092 คัน ลดลงร้อยละ 12.26 และส่งออก 62,321 คัน ต่ำสุดรอบ 33 เดือน ลดลงถึงร้อยละ 28.13 พร้อมจี้รัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อซื้อรถกระบะให้เร็วขึ้นเป็นภายใน 2 เดือน ขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าม.ค.68อยู่ที่ 1,665 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 155.37 แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 7,022 คัน ลดลงร้อยละ 28.08
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2568 มีทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 24.63 แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์ขายในประเทศลดลงร้อยละ 31.78 ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 21.10 ตามยอดส่งออกที่ลดลง
โดยยอดการผลิตรถยนต์นั่งในเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ 35,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 31.98 โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง ICE (Internal Combustion Engine) มีจำนวน 15,970 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 51.09 รถยนต์นั่ง BEV (Battery Electric Vehicle ) มีจำนวน 1,665 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 155.37 ,รถยนต์นั่ง PHEV ( Plug-in Hybrid Electric Vehicle )มีจำนวน 2,165 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 439.90 รถยนต์นั่ง HEV ( Hybrid Electric Vehicle ) มีจำนวน 15,914 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 15.36 ,รถยนต์บรรทุก เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 71,389 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 20.31 ,รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 70,604 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 18.65
แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศในเดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 32,059 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 31.78 แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศ 21,760 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 12.68 ,รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9,514 คัน ลดลงจากข่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 50.62
การผลิตเพื่อส่งออกในเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ 75,044 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 21.10 แบ่งเป็นรถยนต์นั่งในเดือนมกราคม 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 13,954 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 49.42 ,รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 61,090 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 9.52
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,092 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 12.26 เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศปี 2567 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ร้อยละ 2.5 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ จึงขอให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อซื้อรถกระบะให้เร็วขึ้นจาก 4 เดือนร่นเวลาเป็น 2 เดือนเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตมากขึ้น มีการจ้างงานมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราสูงขึ้น ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เร็วขึ้น
สำหรับรถยนต์รถยนต์นั่งที่ขายในประเทศได้ในเดือนมกราคม 2567 มีจำนวน 30,610 คัน คิดเป็นร้อยละ 63.65 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 10.92 แบ่งเป็นรถยนต์นั่งสันดาปภายใน (ICE) 12,010 คัน เท่ากับร้อยละ 24.97 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 16.44 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV) 7,022 คัน เท่ากับร้อยละ 14.60 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 28.08 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 965 คัน เท่ากับร้อยละ 2.01 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 884.69 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสม (HEV) 10,613 คัน เท่ากับร้อยละ 22.07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.77 ,รถกระบะมีจำนวน 12,261 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.51
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนมกราคม 2568 ส่งออกได้ 62,321 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 28.13 ต่ำสุดในรอบ 33เดือน เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกมาแข่งขันมากขึ้นในประเทศคู่ค้า และรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือนธันวาคมมีวันหยุดมาก บางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกไปได้น้อยในตลาดออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมกราคม 2568 แบ่งเป็นรถกระบะ 38,491 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 61.76 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 25.40 , รถยนต์นั่ง ICE 13,151 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 21.10 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 33.80 , รถยนต์นั่ง HEV 2,477 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 3.97 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 49.99 และรถ PPV 8,202 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.16 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 20.38
ส่งผลให้เดือนมกราคม 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 68,069.18 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ20.63
