คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ประกาศรับสมัครผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์-21 มีนาคม 68
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ประธานอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่าคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) สังกัดกระทรวงพลังงาน ระหว่างวันที่ 17 ก.พ.-21 มี.ค. 2568 โดย สกนช.มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. คุณสมบัติของผู้สมัคร
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์
(3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงาน ก.พ.รับรอง
(4) สามารถทำงานให้แก่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เต็มเวลา
(5) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เหมาะสมกับกิจการของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และมีประวัติการทำงานหรือผลงานสำคัญที่แสดงถึงการบริหารจัดการองค์กร การบริหารบุคคล การบริหารงบประมาณ รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ ดังนี้
(5.1) มีความรู้ ความเข้าใจในงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง และ/หรือด้านบริหารจัดการการเงิน และนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง
(5.2) เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยนับ
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ก่อนวันประกาศรับสมัคร
(5.2.1) กรณีเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารหน่วยงานภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การมหาชน ต้องเป็นตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าระดับรองหัวหน้าหน่วยงาน หรือเทียบเท่า
(5.2.2) กรณีเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน ต้องเป็นตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร หรือเทียบเท่า
(5.3) มีวิสัยทัศน์ มนุษยสัมพันธ์ ความเป็นผู้นำ และความสามารถในการประสานงานที่ดี
(6) มีสุขภาพแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่
(7) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(8) ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(9) ไม่เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหยหมายของศาล
(10)ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(11 )ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
(12)ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวย ผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(14 )ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติ
ไม่เหมาะสม
สำหรับเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้าง ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีสัญญาจ้างกับสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งผู้บริหารในหน่วยงานภาครัฐหรือในภาคเอกชนอื่น ๆ มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการได้ โดยไม่ต้องลาออกจากสำนักงานหรือบอกเลิกสัญญาจ้างกับสำนักงาน หรือลาออกจากหน่วยงานนั้นๆ
แล้วแต่กรณี แต่หากได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว จะต้องลาออกหรือบอกเลิกสัญญาจ้างกับสำนักงานหรือหน่วยงานนั้น ๆ ก่อนหรือในวันที่ลงนามในสัญญาจ้างหน้าที่ความรับผิดขอบของผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง
สำหรับเงื่อนไขการจ้าง
(1) ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และเมื่อครบกำหนดตามสัญญาจ้าง หากมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกินสองวาระติดต่อกัน ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
(2) การจ้างตามสัญญาจ้างปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน และมีข้อกำหนดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การปฏิบัติงาน เป้าหมาย
ตัวชี้วัด ผลผลิต และกรอบวงเงินค่าตอบแทนของผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเปิดรับสมัครผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)