xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ” เช็กแผนพัฒนาคมนาคมภาคใต้ ของบกลางศึกษา "ทางคู่, มอเตอร์เวย์" เชื่อมหาดใหญ่ ชายแดนมาเลย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • ขอรับงบประมาณปี 2568 ศึกษาโครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก
  • • วางแผนลงทุน 40,000 ล้านบาท สร้างมอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-ด่านศุลกากรสะเดา 2 เพื่อเชื่อมต่อชายแดนมาเลเซีย


"สุริยะ-มนพร" เช็กแผนพัฒนาคมนาคมภาคใต้ ชงของบกลางปี 68 ศึกษารถไฟทางคู่ "ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก" จ่อทุ่ม 4 หมื่นล้านผุดมอเตอร์เวย์ "หาดใหญ่ -ด่านศุลกากรสะเดา 2" เชื่อมเดินทางชายแดนมาเลเซีย

วันที่ 17 ก.พ. 2568 ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานหาดใหญ่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่และประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงการสำคัญต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้มีประสิทธิภาพเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนน และลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้

นายสุริยะกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ณ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. 2568 ซึ่ง จ.สงขลา โดยเฉพาะหาดใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินจากการค้า การลงทุน และกระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งสำคัญๆ หลายโครงการทั้งในพื้นที่ และการเชื่อมต่อการเดินทาง ขนส่งสินค้ากับมาเลเซีย เมื่อโครงการเหล่านี้ก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยผลักดันให้ภาคใต้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด

ในส่วนของระบบราง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เร่งก่อสร้างโครงข่ายรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งทางรางรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า สอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ต้องการลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และสามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศ

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ในพื้นที่ภาคใต้ มี 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 30,422 ล้านบาท ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,772 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเตรียมนำเสนอ ครม. อนุมัติโครงการ

นายสุริยะกล่าวว่า ให้ รฟท.เร่งจัดทำข้อมูลตามข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นประกอบการประมวลเรื่องนำเสนอ ครม.ตามขั้นตอนโดยเร็ว และให้เตรียมความพร้อมสำหรับงานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและการจัดทำเอกสารประกวดราคางานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันที เมื่อ ครม.มีมติอนุมัติโครงการ

นอกจากนี้ รฟท.เตรียมขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง เพื่อดําเนินงานศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ระยะทาง 216 กม. เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเชีย การค้าชายแดน การท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีแผนเปิดให้บริการในปี 2577


@จ่อทุ่ม 4 หมื่นล้านผุดมอเตอร์เวย์ "หาดใหญ่-ด่านศุลกากรสะเดา 2"

สำหรับโครงการทางถนน กรมทางหลวง (ทล.) มีแผนก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ สาย อ.หาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย (M84) เชื่อมต่อเมืองหาดใหญ่ กับด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่ 2 วงเงิน 40,787 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อขออนุมัติโครงการ โดยมีแผนก่อสร้างในปี 2570-2573

นอกจากนี้ ยังมีโครงการแก้ไขปัญหาจราจร ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ (ด้านตะวันออก) ทล.425 ตอน บ.พรุ-ทางเข้าสนามบินหาดใหญ่ กม. 24+148.450 - 31+331.426 ด้านซ้ายทาง ผลงาน 23.973% และ กม.24+148.450 - 31+331.426 ด้านขวาทาง ผลงาน 0.511% และมีแผนขอรับงบประมาณในปี 2569 สำหรับด้านตะวันออก กม.0+000 - 24+151 ระยะทาง 24.15 กม. วงเงิน 9,380 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอขอพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน และด้านตะวันตก กม.31+331 - กม.65+530 ระยะทาง 34.20 กม. วงเงิน 9,500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมรายงาน EIA เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.)

“ให้กรมทางหลวงกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด สำหรับโครงการที่มีความล่าช้าในการดำเนินงาน เช่น จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามแผนโดยเร็ว”


@สะพานสงขลา เริ่มสร้างปลายปี 68

สำหรับโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง มีจุดเริ่มต้นโครงการที่แยกออกจากถนนทางหลวงชนบท พท.4004 ประมาณ กม. 3+300 บริเวณบ้านแหลมจองถนน ต. จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และสิ้นสุดโครงการที่ถนน อบจ. สงขลา (ถนนรอบเกาะใหญ่) บ้านแหลมยาง ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 4,825.423 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. เพื่อเห็นชอบแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดี ทะเลสาบสงขลา ก่อนที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะเจรจาเงินกู้กับธนาคารโลก ทั้งนี้ มีแผนก่อสร้างปลายปี 2568 - 2571 ให้ทช.ประสานการดำเนินงานร่วมกับ สบน.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาและเริ่มก่อสร้างได้ตามแผนในปี 2568


@ขยายสนามบินหาดใหญ่ 10.5 ล้านคน/ปี

ด้านการเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานหาดใหญ่ ที่ปัจจุบันมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.5 ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบิน 12 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ทั้งนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) มีแผนเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานระยะสั้น (1-2 ปี) โดยปรับปรุงอาคารผู้โดยสารชั้น 2 และปรับปรุงถนนระบบภายใน และแผนระยะกลาง (3-5 ปี) ก่อสร้างอาคารบริการผู้โดยสารและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาความคุ้มค่าการลงทุน)

สำหรับแผนระยะยาว ทอท.มีการจัดทำแผนแม่บทเพื่อให้ท่าอากาศยานหาดใหญ่สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 10.5 ล้านคนต่อปี และรองรับปริมาณเที่ยวบินได้ 21 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ประกอบด้วย การก่อสร้างทางขับขนาน และขยายลานจอดอากาศยาน การขยายและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร การก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์และคลังสินค้า การปรับปรุงอาคารอเนกประสงค์ และระบบสาธารณูปโภค โดยมีวงเงินจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บท จำนวน 19.995 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ปี 2568-2569


นอกจากนี้ ได้ติดตามโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่สำคัญ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี นราธิวาส) ระหว่างปี 2566 -2569 มีปริมาณวัสดุขุดลอก 18.724 ลบ.ม. วงเงินงบประมาณ 1,833.664 ล้านบาท โดยกำชับให้กรมเจ้าท่า (จท.) ให้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำสำคัญให้เป็นไปตามที่ออกแบบไว้ โดยเฉพาะร่องน้ำสงขลา (ร่องนอก) ให้มีความลึก 9 เมตร จากระดับน้ำลงต่ำสุด ตามมติ ครม. ภายในปี 2570 เพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าชายฝั่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น