- • ลดดอกเบี้ยจาก 18% แต่ไม่ต่ำกว่า MLR+2%
- • ทอท. ยืนยันไม่ใช่การแก้สัญญา แต่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
- • อัตราดอกเบี้ย 3% ที่กล่าวถึง ไม่ใช่ต้นทุนทางการเงินของ ทอท.
ทอท.เปิดโต๊ะเจรจา”คิงเพาเวอร์”และผู้ประกอบการทุกราย ลดดอกเบี้ยค่าปรับจ่ายค่าตอบแทนล่าช้า ลงจาก 18% ขีดเส้นไม่ต่ำกว่า MLR+2 “กีรติ”ยันไม่กระทบต้นทุนการเงิน ที่ระดับ 3% ย้ำไม่ใช่การแก้สัญญาแต่เพื่อให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจต่อไปได้
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า กรณีที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) มีปัญหาสภาพคล่อง และมีการเจรจากับทอท.เพื่อขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทนและปรับสัญญานั้น ผู้ประกอบการคู่สัญญาของทอท.มีปัญหาสภาพคล่องมาตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 ซึ่ง ทางคิงเพาเวอร์ฯ ได้ยื่นเสนอขอเจรจาลดค่าปรับ กรณีจ่ายค่าตอบแทนล่าช้า ซึ่งตามสัญญา กำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะอยู่ที่ 18% ต่อปี หรือ 1.5% ต่อเดือน ของยอดที่ค้างชำระ โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยค่าปรับ ซึ่งจะไม่ต่ำกว่า MLR+2
ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค. 2568 คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีมติบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการและสายการบินจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของทอท.ทั้ง 6 แห่งที่ขาดสภาพคล่อง โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีหลักประกันสัญญาและวงเงินของหลักประกันสัญญาต้องครอบคลุมเงินต้นรวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราดอกเบี้ย 18%
โดยอัตราดอกเบี้ย คำนวนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู่ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง และบวกเพิ่มอีกร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะต้องไม่น้อยกว่าต้นทุนทางการเงิน ของทอท. ที่ประมาณ 3% ซึ่งกรณี MLR+2% ไม่กระทบต่อต้นทุนทางการเงินของทอท.
@เผยยอดหนี้ค้างจ่ายค่าตอบแทนรวมทุกสัญญา 5 พันล้านบาท
ดร.กีรติกล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการค้างชำระจ่ายค่าตอบแทนรวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยเป็นของคิงเพาเวอร์จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับโครงสร้างดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะไม่รวมในส่วนนี้ โดยผู้ประกอบการรายใดต้องการ ก็ต้องยื่นเสนอและเข้าเจรจา นับจากเดือนก.พ. 2568 เป็นต้นไป
“การปรับลดดอกเบี้ยค่าปรับดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทอท. เพราะทอท.จะยังคงได้รับรายได้เหมือนเดิม ขณะที่ต้องมองว่า หากเอกชนสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ ก็คงไม่ยอมค้างจ่ายเพื่อเสียค่าปรับ ผิดนัดชำระ 18% ดังนั้นตอนนี้เมื่อธุรกิจมีผลกระทบ หลักการของทอท.คือต้องพยายามทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เป็นการดำเนินธุรกิจปกติ ทั่วโลกเป็นเหมือนกันผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีหลายรายก็มีปัญหาสภาพคล่อง ส่วนทอท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องยึดมั่นในสัญญาไม่สามารถเจรจาเพิ่มเติมได้ ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด “