ยังไม่จบ ปมขนส่งรถไฟญี่ปุ่น Kiha 20 คัน จากญี่ปุ่น หลังเอกชนไม่ทำตามเงื่อนไขและขอแก้สัญญา “วีริศ”ตั้งประธานตรวจรับงานใหม่ โยนประเมินต้องปรับหรือไม่ ชี้ต้องเร่งปรับขนาดล้อเพื่อนำมาใช้งาน
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
เพื่อดูขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ Kiha 40 และ 48 จำนวน 20 คัน ซึ่งรฟท.ได้รับมอบ (บริจาค) จากบริษัท East Japan Railway Company หรือJR East โดยให้รฟท.ดำเนินการขนส่งเอง
นายวีริศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งประธานตรวจรับเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนจากนี้อยู่ระหว่างรอประธานแจ้งให้ผู้รับจ้างทำแผนมาเสนอในเรื่องของกรอบเวลา ส่วนเรื่องจะดำเนินการปรับหรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องรอประธานเป็นผู้สรุป
อย่างไรก็ตาม จะเร่งรัดให้รีบทำแผนมาเสนอโดยเร็วที่สุด ส่วนการรถไฟฯ ก็จะเร่งดำเนินการบีบล้อ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 30-45 วันต่อโบกี้ เมื่อแล้วเสร็จก็จะนำเข้าไปตรวจสอบและประกอบที่โรงงานมักกะสันตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ รฟท.ได้ ทำสัญญาจ้าง บริษัท กรีน เจเนอเรชั่น เวิลด์ไวด์ จำกัด วงเงิน 48.6 ล้านบาท ทำการขนส่งขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ Kiha จำนวน 20 คันจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย โดยก่อนนำลงเรือ ที่ญี่ปุ่น จะต้องดำเนินการถอดแคร่ (Bogie) ออกจากตัวรถ(Body) และ เมื่อถึงไทย ให้นำแคร่ไปดำเนินการปรับขนาดฐานเพลาล้อจาก 1.067 เมตร ให้เป็น ขนาด 1.00 เมตร ให้เท่ากับขนาดความกว้างของรางรถไฟประเทศไทย ที่โรงงานมักกะสัน เมื่อปรับเพลาล้อเสร็จก่อน จึงนำแคร่กลับมาประกอบกับตัวรถในลานสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จากนั้นจึงนำขบวนรถไฟทั้ง 20 คันแล่นมาตามรางรถไฟและนำมาปรับปรุงตัวรถที่โรงงานมักกะสันต่อไป
ซึ่งกระบวนการถอดและประกอบแคร่นั้น จะต้องมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นควบคุมงาน แต่บริษัทผู้ขนส่งไม่ได้ดำเนินการถอดแยกตามเงื่อนไข และเสนอขอแก้ไขสัญญา แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้ขบวนรถไฟทั้ง 20 คัน ที่ขนส่งมาถึง แหลมฉบังตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2567 ต้องจอดนิ่งมากว่า 7 เดือนแล้ว
