“เจ้าสัวธนินท์”เชื่อมั่นศก.ไทย เสนอรัฐอัดงบภาคท่องเที่ยว-เกษตร

“ธนินท์”เจ้าสัวCP มั่นใจเศรษฐกิจไทยมีอนาคต แม้โลกปั่นป่วนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีและการเมือง แนะรัฐอัดงบประมาณภาคท่องเที่ยวและการเกษตร ที่เป็นครื่องจักรสำคัญต่อการเติบโตGDP พร้อมแนะใช้เทคโนโลยี AIในภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ดันประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศมั่นคง

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือCP กล่าวสัมมนาในงาน "Chula Thailand Presidents Summit 2025" ว่า เศรษฐกิจไทยยังมีอนาคต แม้ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ การเมืองที่ปั่นป่วน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว แต่ภายใต้วิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ โดยมีภาคการท่องเที่ยวและการเกษตรเป็นเครื่องจักรที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยที่ได้เปรียบ

โดยภาคการท่องเที่ยว จะเป็นภาคส่วนที่สร้างรายได้เข้าประเทศได้เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐมาถูกทางแล้วในเรื่องของมาตรการฟรีวีซ่า แต่ต้องตั้งเป้าหมายของการท่องเที่ยวจะไปถึงระดับใด มีงบประมาณสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วย

ส่วนภาคการเกษตรนั้น สินค้าเกษตรของประเทศไทยเหมือนเป็นน้ำมันบนดิน ที่ใช้ไม่หมด โดยประเทศไทยมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับหลายประเทศ เนื่องจากไทยไม่มีเรื่องภัยพิบัติที่รุนแรงอย่างแผ่นดินไหวเหมือนต่างประเทศ มีเพียงปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม จึงอยากเสนอรัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาทำระบบชลประทาน ซึ่งช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้


นายธนินท์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือ การพัฒนาภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การรถแทรกเตอร์ไร้คนขับ โดรนเพื่อการเกษตร โดยกลุ่ม CP ได้มีการนำโดรนเข้ามาใช้ในพื้นที่การเกษตรทั้งไทย จีน และรัสเซีย ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ซึ่งการทำธุรกิจของCPตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ บางคนมองว่าเป็นการผูกขาด แต่เราไม่ใช่ผูกขาดเป็นการทำธุรกิจแนวดิ่ง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ทุกขั้นตอนสอดคล้องกัน

อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยี AI ได้นั่นจำเป็นต้องใช้เงินทุน ดังนั้น ต้องสร้างให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เริ่มจากมีความรู้ก่อน และดึงคนเก่งเข้ามาทำงานในประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันไทยยังขาดแคลนแรงงาน แต่กฎหมายไม่ค่อยเอื้อเพราะกลัวว่าเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย และที่สำคัญคือ อาชีพใหม่ ๆ ที่คนไทยยังไม่มี

ทั้งนี้กลุ่ม CP ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการทำงานแล้ว ทำต้นทุนถูกลง ซึ่งการใช้เครื่องจักรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าเดิมถึง 5เท่า ดังนั้น เราต้องสร้างคนเก่งขึ้น รู้เท่าทันโลก หากคนมีคุณภาพแล้ว การปรับขึ้นค่าแรง 600บาทต่อวันเป็นไปได้แน่นอน

"ถ้าคนไทยร่ำรวย ประเทศไทยถึงจะแข็งแรง ต้องพึ่งพามหาวิทยาลัยเป็นหลัก นักธุรกิจก็เป็นส่วนสำคัญ รัฐบาลเองก็ต้องออกกฎเกณฑ์ให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ประเทศชาติถึงจะมั่นคง" นายธนินท์กล่าว