ผู้จัดการรายวัน 360 – “Bagnifique” เปิดเกมรุกหนัก ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือ2 มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาทในไทย เร่งเครื่องขยายสาขา ช่องทางจำหน่าย ขยายตลาดสู่เทรดดิ้งทั้งในไทยและต่างประเทศ หวังดันบริษัทเข้าตลาดหุ้นและเป็นศูนย์กลางในอาเซียน
นางสาวธารารัตน์ อนุรัตน์บดี ประธานกรรมการบริหาร นายธานี สามสีเจริญลาภ ซีเอฟโอฝ่ายการเงินและบัญชี ผู้ร่วมก่อตั้ง Bagnifique.brandname ศูนย์รวมแบรนด์เนมสินค้า Luxury Brand แท้มือ 2 ร่วมกันเปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือ2 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีเฉลี่ยปีละ 10-15% ประเมินว่า ปี2567 ที่ผ่านมา สินค้าแบรนด์เนมมือ2 มีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลที่มีการประเมินว่า ตลาดลักชัวรี่แบรนด์ในไทย มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท
ขณะที่สินค้ามือ2 มีการซื้อขายผ่านร้านค้ามือ2ต่างๆ 10-20% ไม่รวมช่องทางออนไลน์และการซื้อขายกันเอง(ข้อมูลจาก the standard wealth เผยแพร่ 29/4/66) ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือ2 มีมูลค่าและขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลูกค้าคนไทยและลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีทั้งเศรษฐี นักธุรกิจ นักลงทุน อินฟูเอนเซอร์ และผู้มีกำลังซื้อ ได้เข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์เนมทั้งมือ1และมือ2ในไทยจำนวนมาก
จากแนวโน้มนี้เองที่ทำให้บริษัทมั่นใจว่า ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองยังเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและมีความต้องการของตลาดรองรับ แม้ว่าะเป็นตลาดที่เริ่มมีผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดจำนวนมากขึ้น จากรายใหญ่ที่เป็นเชนจากต่างประเทศ หรือแม้แต่ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีจำนวนมากในตลาด แต่ในอีกมุมก็เป็นการดีเนื่องจากจะยิ่งทำให้ตลาดมีความคึกคักและมีการขยายตัวมากขึ้นอีก แต่ที่สำคัญต้องทำธุรกิจอย่างมีมาตรฐาน
บริษัทฯวางแผนการขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยปี2568 นี้ จะขยายทั้งตลาดช่องทางบีทูบีหรือกับองค์กรธุรกิจมากขึ้น การขยายรูปแบบเทรดดิ้งที่รวมมือกับทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายช่องทางจำหน่าย และการขยายสาขา เป็นต้น และตั้งเป้าหมายชูแบรนด์ Bagnifique.brandname สู่ศูนย์กลางซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมอันดับหนึ่งของไทยและอาเซียน
นางสาวธารารัตน์ กล่าวว่า Bagnifique.brandname ก่อตั้งมาเป็นเวลา 13ปีแล้ว เปิดสาขาแรกที่ Mega Bangna ปัจจุบันได้ขยายเพิ่มเป็น 5 สาขา ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำคือ สาขา เมกะบางนา ,เซ็นทรัล เวสต์เกท,เดอะมอลล์ บางกะปิ, แฟชั่น ไอส์แลนด์ ,ซีคอนสแควร์ และมีช่องทางการซื้อขายออนไลน์ทุกช่องทาง ซึ่งช่วงปีที่แล้วขยายสาขารวดเดียว 3 แห่งหลังสุด
ปัจจุบัน Bagnifique.brandname มีสินค้าแบรนด์เนมหรือ Luxury Brand มากกว่า 10,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ทั้งรุ่นยอดนิยม ไปจนถึงรุ่นหายาก โดยเรา ต้องการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาด ยกระดับสร้างมาตรฐานของการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือ2ของไทย ให้ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาจับจ่ายใช้สอย
นางสาวธารารัตน์ กล่าวว่า Bagnifique.brandname มีจุดแข็ง ที่เรามีระบบปฏิบัติการที่ดี การจัดการดูแลสินค้า และขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าของแท้ ก่อนนำส่งออกขาย โดยกำหนดมาตรฐานในการคัดเลือกกระเป๋า ที่นำมาขายให้กับลูกค้า โดยรับประกันว่ากระเป๋าทุกใบที่ซื้อจาก Bagnifique.brandname เป็น authentic แท้ 100% สภาพดี การันตีคุณภาพทุกสินค้า
นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าตั้งแต่การซื้อ-จนถึงการนำสินค้ากลับมาแลกเปลี่ยน-ฝากขาย-ขายและส่งต่อได้อย่างครบวงจร ที่สำคัญคือบริการรับซื้อ เน้นการรับซื้อสินค้าที่ลูกค้าต้องการขายได้เงินทันที แตกต่างจากแบรนด์เนมร้านอื่นในไทย ที่เน้นฝากขายเป็นส่วนใหญ่ซึ่งอาจต้องใช้เวลานาน ขณะที่มีหน้าร้านที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าชั้นนำ เพิ่มความสะดวก และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และในส่วนของร้านค้าออนไลน์ ยังมีช่องทางในการสื่อสารอย่างทั่วถึงในทุกช่องทาง
นายธานี กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขาย ย้อนหลัง 4 ปี(2564-2567) มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี64 มีมูลค่าการซื้อขาย 164 ล้านบาท ปี65 มูลค่า 210 ล้านบาท ปี66 มูลค่า 480ล้านบาท และล่าสุดปี 67 มีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160 ล้านบาท จากปี66 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30 % โดยเรามีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจ โดยขยายสาขา Bagnifique.brandname ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมุ่งเปิดสาขาในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ของภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ “Bagnifique.brandname” ยังมีเป้าหมายที่จะยกระดับเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนม อันดับหนึ่งของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) และยังมีแผนระยะยาวภายใน 3-5ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ที่จะนำธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อนำเงินมาขยายกิจการด้วย
สาเหตุที่มูลค่าตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ2 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะหลังวิกฤติโควิด-19 ที่ตลาดซื้อขาย Luxury Brand ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับ ต่างๆ เนื่องจากผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์และต้องการเป็นเจ้าของสินค้าที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้ และสามารถเข้าถึงแบรนด์หรูได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่ยังคงคุณค่าของความเป็น Luxury Brand ทำให้แบรนด์เนมมือ2กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาจะลดลงจากสินค้าใหม่ในช็อปมากถึง 30-70%
ขณะที่ สินค้า Luxury Brand ที่วางขายใน Shop ทั่วโลกหลายไอเทมหลายแบรนด์ที่เป็น "ตำนาน" กลับมีการประกาศปรับเพิ่มราคาสูงขึ้นทุกปี การซื้อแบรนด์เนมมือ2 จึงถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและยั่งยืน
นอกจากนี้ ช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ในช่่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ได้รับการยอมรับมากขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ทำให้มีการนำสินค้าแบรนด์เนมออกมาขายเป็นสินค้ามือ2เพื่อสร้างสภาพคล่องทางการเงินหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดให้กับเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้ง่าย ขณะเดียวกัน ยังเกิด New money หรือ "เศรษฐีใหม่" ที่ต้องการใช้สินค้า Luxury Brand โดยเริ่มจากการใช้แบรนด์เนมมือ2