โรงแรม”สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต”ต่อสัญญา”ยูนิเวอร์แซล” พร้อม เปลี่ยนเชนส์รีแบรนด์ เป็น”ไฮแอทรีเจนซี่”ยกระดับบริการ

โรงแรม”สุวรรณภูมิ”เซ็นต่อสัญญาบริหารกิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที พร้อมเปลี่ยนเชนส์บริหารเป็น โรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ปรับปรุงคุณภาพ เริ่ม 1 ก.พ. 2568 ตั้งเป้ายกระดับให้เป็นโรงแรมสนามบินที่ดีที่สุด

เมื่อ วันที่ 31 มกราคม 2568 ดร.ดรุฒ คำวิชิตธนาภา ประธานกรรมการ บริษัทโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม) และกิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที  นำโดยคุณจิตติมาศ เกตุวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ และคุณบวรฤดี พูลสรณ์ศิริ กรรมการผู้จัดการร่วม ร่วมลงนามต่อสัญญาบริหารโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  
สำหรับ การลงนามสัญญาบริหารร่วมกับกิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที ในครั้งนี้ถือเป็นการต่อสัญญาครั้งที่ 2 โดยมีความมุ่งเน้นที่จะเดินหน้าพัฒนาคุณภาพการให้บริการของโรงแรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวโรงแรมแบรนด์ใหม่  ตั้งเป้ายกระดับให้เป็นโรงแรมสนามบินที่ดีที่สุดเพื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวและรองรับการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ  


นอกจากการลงนามต่อสัญญาในครั้งนี้แล้ว ยังได้มีการเปลี่ยนแบรนด์บริหารและชื่อโรงแรมเป็น โรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต มีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์อันเหนือระดับและเป็นประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวด่านแรกของประเทศไทย โดยเครือไฮแอทได้เริ่มเข้ารีแบรนด์และปรับปรุงคุณภาพตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป


สำหรับ โรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เป็นโรงแรมทางการเพียงแห่งเดียวของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขนาด 610 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ให้บริการเช็คอินน์แบบยืดหยุ่นแบบ 24 ชั่วโมง เน้นความสะดวกสบายของผู้เข้าพักและตอกย้ำความเป็นโรงแรมสนามบิน พร้อมรถบริการรับ-ส่งจากอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง มีขนาดห้องพักให้เลือกสรรหลากหลาย ตั้งแต่ 35 ตร.ม. จนไปถึง 65 ตร.ม. พร้อมอ่างน้ำทุกห้องห้องอาหารและบาร์ 8 แห่ง, เดอะ สปา, สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ, เดอะฟิตเนส เซ็นเตอร์ ครบวงจรพร้อมด้วยห้องอบไอน้ำและซาวน่า, รวมถึงห้องประชุมหลากหลาย สามารถรองรับแขกงานประชุมและงานแต่งงานได้สูงสุดถึง 1,000 ท่าน

อย่างไรก็ตาม การต่อสัญญาบริหารในครั้งนี้ สะท้อนวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโรงแรมอย่างต่อเนื่องและเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ผสมผสานการบริการอันเปี่ยมไปด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทยผสานกับประสบการณ์และคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ไฮแอท เพื่อต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลก