- • ค่าไฟฟ้าอาจเหลือ 3.70 บาท/หน่วย: หากทุกหน่วยงานร่วมมือกัน (เป็นความเป็นไปได้ ไม่ใช่ข้อสรุปแน่นอน)
- • กกพ. เสนอ ลดค่าไฟ 17 สตางค์/หน่วย: คาดชัดเจนภายใน 2 เดือน
- • ชะลอพลังงานหมุนเวียนเฟสสอง 3,600 เมกะวัตต์: รอประกาศกฤษฎีกา
“ประเสริฐ”ปลัดพลังงาน ชี้มีโอกาสเห็นค่าไฟเหลือ3.70บาท/หน่วย หากทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ล่าสุดกกพ.เสนอหั่นค่าไฟลง 17 สตางค์ต่อหน่วย ชี้ชัดเจนภายใน 2 เดือน ส่วนคำสั่งชะลอพลังงานหมุนเวียนเฟสสอง 3,600 เมกะวัตต์ต้องรอกฤษฎีกาชี้ขาด มั่นใจแผนPDPใหม่เสร็จกลางปี68
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงผลงานกระทรวงพลังงานปี 2567 และแผนการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2568 ภายใต้หัวข้อ ”New Chapter เปิดศักราชใหม่พลังงานไทย จาก ภาพฉาย สู่ ภาพชัด” ว่าในปี2568จะเห็นนโยบายหลายอย่างที่จะชัดเจน โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งมีความเป็นไปได้แต่จะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง 3การไฟฟ้า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และภาคเอกชน ซึ่งมีหลายหลายแนวทางเพื่อให้ค่าไฟฟ้าปรับลดลง ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เสนอแนวทางลดค่าไฟ 17 สตางค์ต่อหน่วย ด้วยการยกเลิกสัญญา Adder และ FiT ของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP และ VSPPคงต้องหารือทางอัยการ เนื่องจากเป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าว่าจะดำเนินการยกเลิกได้หรือไม่ คาดว่าจะมีข้อสรุปออกมาภายในปีนี้
ส่วนความคืบหน้าคำสั่งชะลอการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ ขณะที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เพื่อสอบถามว่าจะดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนส่วนเพิ่มจำนวน 2,180 เมกะวัตต์ได้หรือไม่ หลังจากกพช.สั่งเบรกการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หากตีความว่าสามารถทำได้ ก็จะดำเนินการเปิดประมูลการซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนส่วนที่เหลืออีก 1,500 เมกะวัตต์ต่อไปได้ แต่หากตีความไม่ได้ คงต้องรับฟังแนวทางจากทางกฤษฎีกาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป หรืออาจจะต้องทบทวนเพื่อเป็นประมูลใหม่ทั้งหมด
นายประเสริฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สัญญาที่ 8/1 ในวงเงินงบประมาณ 7,250 ล้านบาทว่าขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนที่มีพล.ต.ท.เรวัติ กลิ่นเกษร เป็นประธานสอบฯ ได้เชิญผู้บริหารกฟผ.มาให้ข้อเท็จจริงไป รวมทั้งขอข้อมูลต่างๆแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ปัจจุบันโรงไฟฟ้าแม่เมาะยังดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้หลังจากมีการบริหารจัดการปริมาณถ่านหินที่มีอยู่แต่น่าจะพยุงไปได้ถึงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ จะทำให้การผลิตไฟฟ้าต้องปรับลดลง จำเป็นต้องนำเข้าถ่านหินสำรอง
ด้านนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ (PDP2025) คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในกลางปีนี้ ซึ่งขณะนี้ยังรอความชัดเจนการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟสสอง 3,600 เมกะวัตต์ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยกังวลว่าหากเกิดความล่าช้าจะทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว CODไม่ทันตามแผนงาน ต้องมีการจัดหาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงทำไห้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นด้วย
นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่าในปี 2568 กรมฯ มีแผนงานสำคัญคือการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอันดามัน (รอบที่ 26) การเร่งรัดการต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมในแปลงที่ใกล้สิ้นสุดอายุทั้งในประเทศและพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ประกอบกับส่งเสริมและประสานความร่วมมือในการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งผลักดันการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี CCS สำหรับโครงการนำร่องพื้นที่อ่าวไทยตอนบนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2568 กระทรวงพลังงานได้กำหนดแผนการขับเคลื่อนด้านพลังงานมีความชัดเจน โดยวางกรอบ 5 นโยบายสำคัญ ได้แก่
1) การจัดหาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศ โดยจะเร่งสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเล
2) บริหารจัดการระบบพลังงานให้มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นเพื่อรองรับพลังงานทุกรูปแบบ ทั้งการพัฒนาระบบสำรองเชื้อเพลิงและการตรวจสอบปริมาณสำรอง การพัฒนาระบบ Smart Grid การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาระบบ SPR และการยกระดับระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการผลิตแบบกระจายศูนย์
3) ส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงาน กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อขีดความสามารถในการแข่งขัน เร่งขับเคลื่อนพลังงานสะอาดเพื่อเปิดรับการลงทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Data Center ผ่านมาตรการเช่น Direct PPA, UGT และการปรับแผน PDP ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น 4) เตรียมเสนอมาตรการด้านพลังงานสีเขียว ส่งเสริมการติดตั้ง Solar Roof ผลักดันมาตรการทางภาษี การลดขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้ง การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลเพื่อลดการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง ก็จะเป็นอีกตัวช่วยในการลดฝุ่น PM2.5 และ 5) สนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ ทั้งพลังงานไฮโดรเจน การปรับเปลี่ยนเอทานอลมาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่องบินหรือ SAF การพัฒนาการกักเก็บ CO2
สำหรับผลงานกระทรวงพลังงานในปี 2567 ซึ่งเป็นหนึ่งปีที่ทั่วโลกยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านราคาพลังงานซึ่งเป็นผลมาจากภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากสถานการณ์สงครามในต่างประเทศที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาพลังงานทั่วโลกผันผวน ซึ่งกระทรวงพลังงานยังคงออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ผ่านมาตรการการตรึงราคาค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม และ NGV รวมทั้งการปรับใช้ราคา Pool Gas การใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น