- • งบประมาณ 914 ล้านบาท
- • เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ช่องจราจร
- • คาดว่าแล้วเสร็จปี 2570
- • เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด ยกระดับการเดินทางและการค้าชายแดน
- • ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ทช.เริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างถนนสาย ก1,ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด จ.ตราด กว่า 8 กม. งบ 914 ล้านบาท เป็นถนนมาตรฐานคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ช่องจราจร คาดเสร็จปี 70 แก้รถติด ยกระดับ เดินทาง - การค้าชายแดนให้สะดวกรวดเร็ว หนุนท่องเที่ยว
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบท เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนสาย ก1,ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด จังหวัดตราด ระยะทางรวม 8.132 กิโลเมตร แบ่งเป็นถนนสาย ก1 ระยะทาง 1.350 กิโลเมตร และถนนสาย ข และ ค1 ระยะทาง 6.782 กิโลเมตร โดยมีรูปแบบการก่อสร้างเป็นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.20 ถึง 3.50 เมตร แบ่งทิศการจราจรโดยเกาะกลาง มีทางเท้า พร้อมระบบระบายน้ำและระบบไฟฟ้าแสงสว่าง รวมทั้งก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวนทั้งสิ้น 4 แห่ง งบประมาณทั้งสิ้นรวม 914.800 ล้านบาท
เพื่อยกระดับมาตรฐานในการเดินทาง และการขนส่งสินค้าของประชาชน เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน ตลอดจนรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายตัวของเมือง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
สำหรับ จังหวัดตราด เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว และด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีจุดผ่านแดนที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ และอำเภอบ่อไร่ พื้นที่ในเขตอำเภอเมือง จึงเกิดการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเพื่อรองรับ การท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการขยายของตัวเมืองจึงมีความจำเป็น โดยเฉพาะการเตรียมรองรับการขยายเส้นทางสาย 318 (ปัจจุบันทางหลวงหมายเลข 3) จากจังหวัดตราดถึงบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ เพื่อรองรับกับถนนสาย 48 จากประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้ ทช. ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน และลงนามบันทึกความร่วมมือ 3 ฝ่าย (MOU) ระหว่าง ทช. ผู้รับจ้าง และผู้แทนประชาชน ก่อนดำเนินการก่อสร้าง เพื่อนำเสนอความเป็นมา ลักษณะโครงการ ขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะ รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและการดำเนินงานก่อสร้างเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่มากที่สุด