- • เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ การตลาดต้องผสมผสานทั้งประเพณีและความทันสมัย
- • มีการใช้ทั้งอีเวนต์และมูมาร์เก็ตติ้งในการดึงดูดลูกค้า
- • ผู้ค้าปลีกจัดเต็มทั้งอีเวนต์และกลยุทธ์การตลาดแบบมูมาร์เก็ตติ้ง
- • พฤติกรรมการจับจ่ายของคนแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน
การตลาด – เทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก (มะเส็ง) บรรยากาศดี คึกคัก ชี้เป็นช่วงรอยต่อคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ที่ต้องผสมผสานให้ลงตัวทั้งประเพณีการไหว้ อีเวนต์ มูมาร์เก็ตติง เปิดพฤติกรรมจับจ่ายคนต่างรุ่น ค้าปลีกจัดเต็มเรื่องอีเวนต์แเละมูมาร์เก็ตติง
เทศกาลตรุษจีน2568ปีนี้ นับว่าเป็นปีที่พิเศษปีหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นเทศกาลประจำปีแล้ว ยังมีความสำคัญอีก 2 เรื่องประกอบเข้ามาด้วย นั่นคือ เป็นปีพิเศษฉลอง2 วาระมหามงคลระดับโลก ได้แก่ 1) UNESCO ขึ้นทะเบียนตรุษจีนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 2) ฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน
ข้อมูลจากททท. คาดว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนปี2568นี้ รวม 10 วัน จะมีท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 1.35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% โดยเฉพาะตลาดจีน ที่มีวันหยุดยาว 8 วัน, ฮ่องกง 5 วัน, เกาหลีใต้ 3 วัน และไต้หวัน 9 วัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนในมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าไทยประมาณ 34,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค. ไปจนถึงวันตรุษจีน นอกจากนี้ ผลสำรวจของอโกด้า พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงตรุษจีน 2568
ผนวกกับ มาตรการโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ของภาครัฐ ที่ใช้อยู่ในช่วงต้นปีนี้ จึงยิ่งทำให้บรรยากาศตรุษจีนคึกคักมากขึ้น
ทว่าสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้อย่างหนึ่งที่มีส่วนสำคัญทำให้การไหว้การจับจ่ายตรุษจีนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปคือ ยุคนี้ถือเป็นช่วงรอยต่อระหว่างคนรุ่ นใหม่กับคนรุ่นเก่า ที่เปลี่ยนผ่านทั้ง ความเชื่อ ความศรัทธา ความคิด พฤติกรรม การจับจ่าย ความสนใจ จึงทำให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในช่วงตรุษจีนเริ่มมีการประยุกต์และมีทิศทางใหม่ๆที่นอกเหนือจากการไหว้เจ้าธรรมดาอย่างที่เคยเท่านั้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 อาจเติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีนปีก่อน จากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก ขณะที่คนเข้าร่วมอาจลดลง โดยปัจจุบันคนไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพฯ มีอยู่ราว 2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 อาจหดตัว 17.5% เทียบกับตรุษจีนปีก่อน
TikTok Shop ระบุว่า ในช่วง 7 วันย้อนหลังที่ผ่านมาพบ แฮชแท็กเกี่ยวข้องกับเทศกาลตรุษจีน ค่อนข้างได้รับความสนใจและมาแรงอย่างมาก ได้แก่ #ตรุษจีน #อาหมวย #อั่งเปา โดยมีจำนวนโพสต์ในภาพรวมเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่า 600,000 โพสต์ สะท้อนให้เห็นความสนใจของคนไทยกับเทศกาลจับจ่ายสำคัญที่กำลังมาถึ งโดยเฉพาะคำว่า "ชุดตรุษจีน" ที่กลายเป็นคำสำคัญบน TikTok และมีอัตราความนิยมใช้เพื่อโฆษณาสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 370% ในเวลาเพียง 7 วัน
เทศกาลตรุษจีนในช่วงของรอยต่อคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่นี้ ยังคงต้องทำให้เกิดความผสมผสานกลมกลืน มุ่งเน้นในเรื่องของการไหว้ จัดเต็มทั้งอาหารคาว หวาน อุปกรณ์ในการไหว้ที่เกี่ยวข้องในการไหว้บรรพบุรุษและเจ้า ขณะที่่เรื่องของมูมาร์เก็ตติงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะมีทั้งการมูแบบความศรัทธาเชื่อถือแบบดั้งเดิม กับมูแบบสนุกสนานรูปแบบใหม่ที่ตื่นตาและดึงดูดผู้คน เพราะคนรุ่นใหม่จะไม่ชอบอะไรที่จำเจและเรียบง่าย รวมไปถึงเรื่องของอีเวนต์ต่างๆที่ต้องมีความหลากหลาย และพิเศษ แตกต่างจากในอดีต ซึ่งจะเห็นได้ว่าตรุษจีนในช่วงหลังๆไม่กี่ปีมานี้ จะมีความแปลกพิเศษแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็มี
ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี2568 นี้บรรดาค้าปลีกจึงจัดเต็มกับเรื่องของกิจกรรม โปรโมชั่น และเรื่องของโชคลาภมงคลต่างๆตามสไตล์มูเก็ตติ้ง เพราะเทรนด์ Muketing ยังคงมีอิทธิพลกับคนไทยและคนรุ่นใหม่ โดย 88% เชื่อเรื่องการขอพรโชคลาภจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปีนี้จึงไม่แพ้ปีก่อนๆ
ไฮไลท์คร่าวๆเช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต อัญเชิญ “องค์แชกง” และกังหันนำโชค พร้อมด้วยเทียบแดง และวัตถุมงคล จากวัดแชกง โฮชง ฮ่องกง ซึ่งเป็นวัดแชกงดั้งเดิมแห่งแรก อายุ 460 ปี มาที่สาขา พร้อมพิธีไหว้ไฉ่ซิงเอี้ย ขอโชคลาภ นำพิธีโดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา รับชมผ่าน LIVE ทั่วประเทศ ค่ำคืนวันที่ 28 มกราคม นี้
นอกจากนั้นอัญเชิญเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มาที่เซ็นทรัลทั่วไทย อาทิ เจ้าพ่อเสือ 100 ปี ที่ไม่เคยนำออกจากวัดมาก่อน ที่เซ็นทรัล พิษณุโลก,ไฉ่ซิงเอี๊ย เสริมความร่ำรวย โชคลาภ: ไฉ่ซิงเอี๊ย หน้าแดงนั่งบนเสือ ที่เซ็นทรัลเวิลด์, ไฉ่ซิงเอี้ย จากฮกเกี้ยน องค์เท่าตัวคนที่เซ็นทรัล พระราม 2 เป็นต้น
อีกทั้งยังมี แลนด์มาร์กโคมไฟเต็งลั้งยักษ์ ทั่วประเทศ ชู ไฮไลต์ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ กับจุดรวมพลังมงคล The Love of Peony ดอกเหมย มหามงคลยักษ์ที่จะค่อยๆ ผลิบาน เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ และ อุโมงค์โคมมงคล 4 ประการ เป็นต้น
รวมทั้งจับมือ POP MART ทำจุด Art Installation คาแรกเตอร์ฮิต ในธีม Wealthy Snake’s New Year Celebration ที่เซ็นทรัล 8 สาขา คือ เซ็นทรัลเวิลด์, เวสต์เกต, ปิ่นเกล้า, ภูเก็ต, พัทยา, ขอนแก่น, สมุย และ ลาดพร้าว ห้ามพลาด หนึ่งเดียวในโลก Pop-up Store By the Sea ที่ เซ็นทรัล พัทยา
ส่วน เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ สาขางามวงศ์วาน ปีนี้ กับการจำลองวิหารเทพเจ้ามังกรเขียวอัครทิพย์วารี และอัญเชิญ ‘เทพเจ้ามังกรเขียว’ องค์จำลองจากวัดทิพยวารีวิหาร (กัมโล่วยี่) ผ่านการทำพิธีถูกต้อง นำพิธีโดย ดร.คฑา ชินบัญชร มาให้ประชาชนสักการะได้ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค – 2 ก.พ. นี้
ไอคอนสยาม ครั้งแรกกับการเชิญองค์แม่เต้าบ้อ และเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย จำนวน 60 องค์ เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตาครบทุกประจำปีเกิด จากวัดเหรินเว่ย วัดเก่าแก่มีอายุร่วมพันปี เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยทำหน้าที่พิทักษ์คุ้มครองดวงชะตาชีวิตทุกคน ปีละองค์จนครบ 60 ปี โดยทั้ง 60 องค์จะประดิษฐานภายในศาลเจ้าจำลอง และได้อัญเชิญเจ้าแม่ทับทิมตุ๊ยบ่วยเต๊งเหนี่ยง และองค์เจ้าแม่เทียนโฮ่วเต๊ง จากศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทัยธานี มาให้ไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีมะเส็ง
สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ก็มีไฮไลท์อีเวนต์ เช่น ปีนี้พิเศษกว่าทุกปี นำเสนอเมืองมรดกโลก ตุนหวง (DUNHUANG) มาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก การแสดงโชว์พิเศษหาชมยาก Ancient Sound of DUNHUANG ครั้งแรกในไทย โดย Gansu Performance Group ตุนหวง จัดเป็น 'The Oasis of Golden Prosperity' โอเอซิสแห่งความมั่งคั่ง ทั้งยังเป็นเมืองมรดกโลก และเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญบนเส้นทางสายไหม
การเชิดมังกรเมฆา พญาหงส์ และ สิงโตเทพเจ้า การแสดงพิเศษเพื่อการฉลองตรุษจีนที่สยามพารากอนโดยเฉพาะ โดยคณะสิงโตมังกรหยกสามพราน คณะเชิดสิงโตระดับตำนานที่มีประวัติยาวนานกว่า 80 ปี, การแสดงเอ็งกอ จากคณะเอ็งกอบุญญวิทยาคาร, ร่วมสัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์อันล้ำลึกแห่งเมืองตุนหวง กับ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน, งานพยากรณ์เพื่อการกุศล “สิริวัฒนาพยากรณ์ เพื่อ
งานTOYZEROPLUS World ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกิจกรรมอัดแน่นตลอดเทศกาล และ Siam Center x MEMORI STUDIO เปิดประสบการณ์พิเศษแห่งแรกในธีมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ครีเอทโมเดลฟิกเกอร์สามมิติที่มีตัวเดียวในโลก และยังมี pop up และสินค้าต้อนรับเทศกาลตรุษจีน อาทิ Atong and Friends Chinese New year Pop-up ที่รวบรวมอาร์ตทอยหลากหลายคาแรคเตอร์จากหลากหลายแบรนด์ดัง ร่วมด้วยสินค้าแฟชั่นคอลเลคชั่นตรุษจีนพร้อมโปรโมชั่นเป็นต้น
ส่วนที่ไอคอนสยาม ไฮไลท์หลักเช่น ขอพรเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย ทั้ง 60 องค์ ครัั้งแรกกับการเชิญองค์แม่เต้าบ้อ และเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยจำนวน 60 องค์ เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตาครบทุกประจำปีเกิด จากวัดเหรินเว่ย วัดเก่าแก่มีอายุร่วมพันปี เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน พิธีสักการะเทพเจ้าที่สมบูรณ์ที่สุด ณ โค้งน้ำท้องมังกรเก็บทรัพย์ นำพิธีโดย อ.คฑา ชินบัญชร ที่สุดของทำเลมงคลท้องน้ำมังกรสำหรับไหว้ขอพร ที่สุดของฤกษ์เวลามหามงคล เพื่อไหว้สักการะขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เทพเจ้าฮี่ซิ้งเอี้ย (เทพเจ้าแห่งความรื่นเริงยินดี) และเทพเจ้ากุ่ยซิ้งเอี้ย (เทพเจ้าแห่งอำนาจยศศักดิ์) ในวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลากหลายอีเวนต์ที่แปลกใหม่เท่านั้น
เรียกได้ว่าสายมูทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ไม่ผิดหวังแน่นอน
*** “ท็อปส์” เปิดพฤติกรรมผู้บริโภคช่วงตรุษจีน
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต) เปิดเผยว่า “เทศกาลตรุษจีนนับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโมเมนตัมของธุรกิจค้าปลีกที่ต่อเนื่องมาจากช่วงปีใหม่ ที่จะสร้างความคึกคักและก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วประเทศ โดยในปี 2567 ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 คาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท (ที่มา: Euromonitor)
ท็อปส์ได้ศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2568 ที่เรียกว่า 4s Trends ได้ดังนี้
1. Smart Spending & Value Equation – ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เน้นคุ้มค่า คุ้มราคา: แม้เศรษฐกิจไทยจะยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก ดูความคุ้มค่าของสินค้าเทียบกับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการใช้จ่ายรัดกุมมากพอ
2. Self-Healing – ฮีลใจ, ทันกระแส, และมีสตอรี่: เศรษฐกิจที่กำลังกลับมาฟื้นตัว และสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรายวัน ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้นซึ่งความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ
3. Sustainability – ดีต่อโลก ดีต่อใจ เน้นความยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และ ภัยธรรมชาติ ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น
4. Saiyasart - ความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ มูเตลู: แม้ในยุคที่ดิจิทัลเชื่อมต่อกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3% นอกจากนี้ จากผลสำรวจของวิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี
*** แต่ละ GEN จับจ่ายแตกต่างกันอย่างไร
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้าเติบโต23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้าของท็อปส์เติบโต 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุดในวันจ่ายเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ
ทั้งนี้ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 คือ ผักและผลไม้ 22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล 9.4% และ ของใช้ในบ้าน 8.6%
เทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์ ปีนี้ท็อปส์จึงแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ด้วยกลยุทธ์ ‘The Great 3As’
1.The Great ASSORTMENTพาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ
2. The Great ANG-PAOมอบของขวัญสุดพิเศษด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15%’ เมื่อช้อปสินค้าที่ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุก ๆ 100 บาท เป็นต้น
3. The Great CX with AMBASSADOR ฉีกกฎตรุษจีนแบบเดิม ๆ ปีนี้ ท็อปส์เปิดมุมมองใหม่จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีน ในแง่มุมใหม่ ๆ พร้อมกิจกรรม
*** “ซีพีเอ็น” ยกเยาวราชมาไว้ที่ห้าง
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ เป็นปีพิเศษฉลองวาระมหามงคลความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี โดยเซ็นทรัลเวิลด์ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเทศกาลตรุษจีนประจำประเทศไทย ปี 2568 ยกไชน่าทาวน์มาไว้ใจกลางเมืองเต็มพื้นที่ลานสแควร์ A-B รวมกว่า 2,500 ตร.ม.
อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่ถูกจัดขึ้นนอกเยาวราช เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมจีนอันลึกซึ้งสู่คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น ตลาดตรุษจีนเลือกซื้อของไหว้-อาหารมงคล, การแสดงศิลปะวัฒนธรรมจีนร่วมสมัยหาชมยาก และแลนด์มาร์กรวมการสักการะสิ่งศักสิทธิ์ ขอพรเทพเจ้าเสริมมงคล เป็นต้น สะท้อนถึงการเป็น Festive Destination ระดับประเทศและระดับโลกของเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เชื่อมโยงศิลปะและวัฒนธรรมผ่านงานเทศกาลต่างๆ
สำหรับ9 ไฮไลต์คร่าวๆ เช่น 1. ชมโชว์เชิดมังกรลอยฟ้า ยาวกว่า 20 เมตร , 2.การแสดงศิลปะวัฒนธรรมจีนสุดยิ่งใหญ่ อาทิ เขียนพู่กันจีนคำมงคล แฟชั่นโชว์ชุดจีนโบราณ , 3. จุดรวมพลังมงคล ชมดอกเหมยมหามงคลยักษ์ที่จะค่อยๆ ผลิบาน และปล่อยบับเบิ้ลมงคล ประดับโคมมงคล LED ยักษ์ สูงทียบเท่าตึก 4 ชั้น, 4. ครั้งแรกของการรวมชาจีนที่ยิ่งใหญ่กว่า 15 ร้านดัง, 5.มหกรรมท่องเที่ยวจีนที่ครบที่สุด รับเทรนด์คนไทยนิยมเที่ยวจีน จัดโดย การท่องเที่ยวจีน (CNTO)
6. อุโมงค์โชคมหามงคล 4 ประการ "มั่งมี สุขี โชคดี มีรัก" , 7. โถงแต๊ะเอียมหามงคล, 8. สตูดิโอถ่ายภาพครอบครัวแนว Modern Chineseและ 9.รวมเทพมหามงคล สักการะ 4 เทพเจ้าองค์เทพจำลอง อัญเชิญจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ไฉ่ซิงเอี๊ยปางบู๊หน้าแดงนั่งบนเสือ /ไฉ่ซิงเอี๊ยปางบุ๋น ประทับมังกร 9 หัว / พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางสำเร็จ / พระยูไลย ไภษัชยคุรุพุทธเจ้า
“ช่วงตรุษจีน (24 ม.ค. – 2 ก.พ. 68) คาดมีผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าเฉลี่ย 170,000 - 180,000 คนต่อวัน และมีทราฟฟิกเพิ่มนประมาณ 30% ปัจจุบัน เซ็นทรัลเวิลด์ มีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้าใช้บริการกว่า 50% โดยมาจากประเทศจีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง และไต้หวัน ตามลำดับ โดยเซ็นทรัลเวิลด์พร้อมเป็น Tourism hub รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยโปรโมชั่นและบริการพิเศษ อาทิ รองรับ e-Wallet ผ่าน Alipay และ WeChat Pay, Welcome Package มูลค่า 10,000 บาท รวมส่วนลดและบริการจากแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว
ซีพีเอ็นยังร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลด้วยการทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดแคมเปญใหญ่“The Great Chinese New Year 2025” ที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ วันที่ 7 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2568 #มะเส็งมาเฮง ที่ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ตอบโจทย์กลุ่ม Quality shopper อาทิ Chinese Family, Millennials และนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง คาดจะสร้างเงินสะพัดตลอดแคมเปญกว่า 15,000 ล้านบาททั่วประเทศ และเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์ฯ ทั่วประเทศกว่า 25-30%
*** “โรบินสัน” ลุ้นยอดขายขึ้น 20%
นางณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า โดยเราคาดการณ์ว่าน่าจะมีสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปีที่มีหลากหลายเทศกาลสำคัญเป็นปัจจัยกระตุ้นการจับจ่าย โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึงที่คนไทยเชื้อสายจีนมักจะมีการเลือกสรรของขวัญ ของกำนัล รวมทั้งไอเทมใหม่ ๆ เพื่อเสริมดวง เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นตามหลักความเชื่อของคนจีนกันอย่างคึกคัก ห้างโรบินสัน ชูกลยุทธ์ Seasonal Marketing เปิดแคมเปญชื่อ “ROBINSON HAPPY CHINESE NEW YEAR 2025” เริ่มต้นช้อปปีใหม่ที่ โรบินสัน วันที่ 7 ม.ค. 68 – 9 ก.พ. 68 ที่ห้างโรบินสันทุกสาขา (ยกเว้นสาขาจังซีลอน ป่าตอง) คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 20%
*** “เดอะมอลล์กรุ๊ป” ทุ่มกว่า 200 ล้านบาท จัดเต็ม
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์
กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ จัดงาน เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ JOY LUCK LOVE CHINESE NEW YEAR 2025 : ปีมะเส็ เฮงมาหา ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของปี 2568 (2025) หรือปีมะเส็ง โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ทั้งในส่วนของโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มสเฟียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
ตลอดจนกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลสำหรับเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา และเดอะมอลล์ โคราช ให้สอดรับกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งในส่วน มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือเงิน 10,000 เฟส 2 สนับสนุนการบริโภคในประเทศ โดยทั้ง 2 มาตรการ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าได้ต่อเนื่องจากเทศกาลปีใหม่ โดยมีลูกค้าที่มีความต้องการใช้จ่ายเพื่อร่วมมาตรการ Easy E-Receipt 2.0
ในขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือเงิน 10,000 เฟส 2 ก็น่าจะมีส่วนสนับสนุนให้เกิดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งการใช้จ่ายในการซื้อของไหว้, การให้อั่งเปาลูกหลาน เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้ธุรกิจในช่วงเดือนแรกของปีเติบโต 10 % และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีตัวเลขเติบโตที่ดีในไตรมาสแรกของปี
โดยเศรษฐกิจในภาพรวมของปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 3.0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการที่คาดว่าจะเติบโตราว 4.0% ซึ่งน่าจะมาจากการกระตุ้น การใช้จ่ายและการกระตุ้นการท่องเที่ยวของทุกภาคส่วน
*** “สยามพิวรรธน์” ชี้บรรยากาศคึกคัก
นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า "ไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ เป็นการเริ่มต้นปีที่ดีสำหรับธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้า ด้วยปัจจัยสนับสนุนธุรกิจ มีเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญที่มีการจับจ่ายสูงในเดือนมกราคม ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์มีเทศกาลวาเลนไทน์ซึ่งคาดว่าบรรยากาศจะคึกคักเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ภาครัฐยังมีมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันกระตุ้นการจับจ่าย เกิดเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
*** “ไอคอนสยาม” คาดผู้ร่วมงาน 2 ล้านคน
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ไอคอนสยามทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท จัดงานฉลองในสองวาระสำคัญ ประเดิมไตรมาสแรกกับงานครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน และฉลองเทศกาลตรุษจีน จัดงานฉลองรับศักราชใหม่ปีมะเส็ง "ICONSIAM A PROSPEROUS CHINESE NEW YEAR 2025 ตรุษจีนมั่งคั่ง ฉลองสัมพันธ์มั่นคง วาระ 50 ปีสายสัมพันธ์ไทย – จีน” ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2 ล้านคน ตลอด 10 วันของการจัดงาน ตั้งเป้าสร้างเงินสะพัดจากการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน”
*** “ไอคอนสยาม” คาดผู้ร่วมงาน 2 ล้านคน
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ไอคอนสยามทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท จัดงานฉลองในสองวาระสำคัญ ประเดิมไตรมาสแรกกับงานครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน และฉลองเทศกาลตรุษจีน จัดงานฉลองรับศักราชใหม่ปีมะเส็ง "ICONSIAM A PROSPEROUS CHINESE NEW YEAR 2025 ตรุษจีนมั่งคั่ง ฉลองสัมพันธ์มั่นคง วาระ 50 ปีสายสัมพันธ์ไทย – จีน” ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2 ล้านคน ตลอด 10 วันของการจัดงาน ตั้งเป้าสร้างเงินสะพัดจากการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน”