ผู้จัดการรายวัน 360 – “ทีซีแอล” แดนมังกร รุกหนัก ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย ภายในปี 2570 โหมหนัก 4 กลุ่มเดิม แอร์ ทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เพิ่มงบตลาดรวมปีนี้อีก 40% ยันบริษัทแม่ที่จีนพุ่งเป้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง
นาย แกรี่ จ้าว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารและทำตลาดเครื่้องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ ทีซีแอล/TCL จากจีน เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักสำคัญในสายตาของบริษัทแม่ทีซีแอลที่จีน ด้วยมูลค่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 85,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดไทยให้การตอบรับที่ีดี และบริษัทแม่เองก็มีแผนที่จะลงทุนในไทยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นโยบายและรายละเอียดต้องเป็นทางสำนักงานใหญ่ตัดสินใจและวางแผน ส่วนบริษัทฯมีหน้าที่เพียงการบริหารการจัดการการตลาดเท่านั้น
นายจีรชัย ศักดิ์สง่าวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายเครื่องปรับอากาศ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญหนึ่งในสามประเทศของทีซีแอล และมียอดขายสูงที่สุดในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเซาท์อีสต์เอเชีย โดยมีไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ซึ่งล่าสุดประเทศไทยเป็นตลาดที่สองรองจากจีนที่ได้ทำการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ “Freshin 3.0 Series” ที่ผสานนวัตกรรมAI ในวันนี้
ทั้งนี้ นาย แกรี่ ย้ำว่า ทีซีแอลมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยรวมในไทยภายในปีพ.ศ. 2570 หรือภายใน 3 ปีนับจากนี้ (พ.ศ. 2568 – 2570) หลังจากที่ทำตลาดในไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยปัจจุบันมีสินค้าใน 4 กลุ่มหลักที่ขายในไทยคือ ทีวี แอร์ ส่วนเครื่องซักผ้าและตู้เย็น เพิ่งเริ่มทำตลาดในไทยประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนอนาคตมีแผนที่จะนำสินค้ากลุ่มใหม่ๆเข้ามาทำตลาดในไทย เช่น แอร์รถบรรทุก แอร์ห้องครัว โซลาร์เซล เป็นต้น
นาย แกรี่ กล่าวว่า ตามเป้าหมายในปี 2570 จะมียอดขายรวมในไทยประมาณ 17,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 มียอดขายรวมที่ 8,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายปี2568 นี้ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท
ล่าสุด ทีซีแอล มีแชร์อันดับ 2 ในตลาดทีวี ส่วนแอร์ทีซีแอลปีที่แล้ว โต 14% ปีก่อนหน้าโต 20% เป็นผู้นำตลาดในแง่ของจำนวนเครื่อง ตัวเลขจาก จีเอฟเค ระบุว่า ทีซีแอลเป็นผู้นำตลาดแอร์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 – พฤศจิกายน 2567 แชร์ประมาณ 18%-20% ส่วนเครื่องซักผ้าและตู้เย็น ทีซีแอลเพิ่งทำตลาด3ปี มียอดขายต่อเนื่อง คาดว่าจะติดท็อป3 ใน3ปีนี้
นายจีรชัย ศักดิ์สง่าวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายเครื่องปรับอากาศ กล่าวว่า ปีนี้จะเปิดตัวแอร์รุ่นใหม่ TCL FreshIN 3.0 Series ซึ่งถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่3ของรุ่นนี้่แล้วซึ่งเปิดตัวประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดเด่นหลักๆเช่น สั่งงานด้วยเสียง พร้อมรองรับภาษาไทย ไม่ต้องต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต ฟังก์ชัน ระบบประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงจากเทคโนโลยี AI ปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย โดยมีให้เลือก 3 ขนาด คือ ขนาด 10,000 บีทียู 12,000 บีทียู และปีนีีพิเศษเพิ่มขนาด 19,000 บีทียู จำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านตัวแทนเดือนมกราคม2568 ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในช่วงเปิดตัวสินค้า (มกราคม และกุมภาพันธ์ 2568) จะได้รับแผ่นกรองอากาศ FreshIN ฟรี เพิ่มอีก 1 ชุด ส่วนครึ่งปีหลังจะออกแอร์รุุ่นใหม่อีก ตั้งเป้ายอดขายแอร์รวมปีนี้ที่ 5 แสนยูนิิต เพิ่มจากปีที่่แล้วขายได้ 3.8 แสนยูนิต
นายเฉลิมชัย รัตนเอม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าวว่า บริษัทวางแผนด้วยกลยุทธฺ์ 5 อย่างในการผลักดันทีซีแอลขึ่้นเป็นผู้นำ คือ 1. การพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค 2. การตั้งราคาที่มีความเหมาะสมกับสินค้า 3. การขยายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด 4. การอบรมและพัฒนาพนักงานขายเพื่อให้สามารถอธิบายลูกค้าได้ และ 5. การพัฒนาระบบหลังบ้านต่างๆรองรับการขยายตลาด
ในส่วนของตลาดทีวี นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตลาดรวมทีวีในไทยมีมูค่ามากกว่า 15, 000 ล้านบาท แต่ในช่วง2 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมตกลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่คาดว่าปีนี้ตลาดรวมน่าจะเติบโตอย่างต่ำ2%
“ปีที่แล้วทีซีแอลมียอดขายทีวีประมาณ 3 แสนยูนิต ปีนี้ตั้งเป้าขายรวมที่ 4 แสนยูนิต โดยจะเป็นผู้นำตลาดในแง่ของทีวีขนาดใหญ่ที่ทีซีแอลครอรตลาดอยู่ ซึ่งตอนนี้ทีซีแอลมีกูเกิ้ลทีวีขนาดใหญ่ที่ 115 นิ้ว ปีนี้จะนำเสนอรุ่นใหม่ ตั้งแต่ 55 นิ้ว ขนาด75 นิ้ว และเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมมือกับ ทาง บีแอนด์โอ จากเดิมที่ร่วมมือกับทางแบรนด์ญี่ปุ่นมาตลอดคือ ออนเกียว อีกทั้งจะมีการนำเสนอทีวีขนาดใหญ่พิเศษตามออเดอร์ที่มีลูกค้่าสั่งเข้ามาจำหน่ายด้วย รวมทั้งจะอัพเกรดทีวีขนาดกลางด้วยการเพิ่มฟังค์ชั่นต่างๆเข้าไป เช่นการปรับหน้าจอเป็น QLED เป็นรายแรกในขนาดทีวีเล็ก” นายเฉลิมชัย กล่าว
นายดอน ถาง ผู้อำนวยการสายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้จะเพิ่มงบการตลาดประมาณ 40% ใช้ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ซึ่งเตรียมที่จะเพิ่มสื่อดิจิทัลบิลบอร์ดแบบที่ติดตั้งที่เซ็นทรัลเวิลด์ขณะนี้ กระจายไปยังเมืองใหญๆอีก 20 จังหวัด