- • จำนวนผู้ลงทะเบียนเกินเป้าหมายโครงการอย่างมาก
- • รัฐบาลจะใช้การจับสลากโดยกองสลากฯ เพื่อคัดเลือกผู้ได้รับบ้าน
- • เป้าหมายโครงการคือการสร้างบ้านเพื่อคนไทย 300,000 ยูนิต ภายในปี 2570
“บ้านเพื่อคนไทย” ยอดทะลัก “นายกฯ” กดปุ่มเปิดตัวแค่ 3 ชั่วโมงครึ่ง ประชาชนแห่ลงทะเบียนผ่านเว็บถึง 23 ล้านคน “สุริยะ” เผยหลังตรวจคุณสมบัติหากจำนวนเกิน ให้กองสลากกำหนดวิธีจับสลาก ย้ำเป้าหมายก่อนหมดวาระรัฐบาลเพื่อไทยปี 70 จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 3 แสนยูนิต
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ โดยเปิดโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก, เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เมื่อปิดลงทะเบียนแล้ว ตามกระบวนการจะส่งข้อมูลทั้งหมด ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้กองสลากฯ สุ่มเหมือนออกล็อตเตอรี จะหาวิธีการ แรนดอม หรือจับสลาก ส่วน กรรมสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายให้ที่ 30 ปี บวก 30 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายให้เป็น 99 ปี ต่อไป
สำหรับพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง แต่หากมีความต้องการเพิ่มจะปรับขยายเป็นอาคาร 45 ชั้นได้ โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี2570จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการนำร่อง 4 พื้นที่จะมีประมาณ 5,000 ยูนิตก่อน ซึ่งเป้าหมายของการให้ลงทะเบียน คือต้องการทราบความต้องการของประชาชนว่ามีจำนวนเท่าไร และหลังตรวจสอบคุณสมบัติแล้วมีเหลือจำนวนเท่าไร เพื่อสร้างให้รองรับกับความต้องการ ทำให้ยังไม่สามารถตอบเรื่องงบลงทุนของโครงการที่ชัดเจนได้
คาดว่าไม่เกิน3 เดือน จะสรุปรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิ์บ้าง และจะเริ่มการก่อสร้างได้ทั้ง 4 พื้นที่ โดยพื้นที่เชียงใหม่ น่าจะเสร็จก่อน ประมาณเดือนพ.ย. 2568 เพราะเป็นบ้านเดี่ยว 35 หลัง ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน ส่วนพื้นที่ บางซื่อ กม.11 จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีครึ่ง คาดว่าเข้าอยู่ได้ประมาณปี 2569
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทย มีรูปแบบโครงการที่พักอาศัย ในระยะแรก 2 ประเภท ได้แก่ 1.คอนโดมิเนียม แบ่งเป็น ห้องพัก 30 ตร.ม. (1 ห้องนอน), ห้องพัก 40 ตร.ม. (2 ห้องนอน), ห้องพัก 45 ตร.ม. (2 ห้องนอน) และห้องพัก 51 ตร.ม. (2 ห้องนอน) 2.บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาด 50 ตร.ม. บนที่ดิน 50 ตร.ว.
โดยพื้นที่บางซื่อ กม.11 ,ธนบุรี,เชียงราก จะเป็นคอนโดมิเนียม ส่วนเชียงใหม่ จะเป็นรูปแบบบ้านเดี่ยว
ส่วนของคอนโด ที่บางซื่อ กม.11 ราคาเริ่มต้น 1.48 ล้านบาท ,1.68 ล้านบาท ละ 1.88 ล้านบาท ตามขนาดของห้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยจะมีทุจริตซ้ำรอยบ้านเอื้ออาทรหรือไม่นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่แน่นอน เพราะในการจับฉลาก ก็จะ ห้คนกลาง คือกองสลากเข้ามาดำเนินการ และยืนยันว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยนี้ จะสร้างลูกค้ารายใหม่ให้กับตลาดที่อยู่อาศัย ที่ยังไม่มีโอกาสหรือไม่มีความสามารถในการซื้อบ้านที่อยู่ในราคาตลาดปกติได้ไม่ได้แย่งตลาดกันก่อนอย่างไร เพราะลูกค้าคนละกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประมูลคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการก่อสร้างโครงการจะ เป็นอย่างไร ใช้ระเบียบพัสดุ ตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ เนื่องจากบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถือหุ้น100% มีการยกเว้นหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า การจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการ ต้องเป็นไปตามกฏหมายตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน แต่การประเมินที่3 เดือนเพราะหากเป็นโครงการเอกชนจะทำได้เร็ว แต่ระเบียบพัสดุอาจจะมากกว่านั้น แต่เป้าหมายจะต่องเร่งการตอกเข็มให้เร็วที่สุด ซึ่งเร่งดำเนินการคู่ขนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงท้วงติงว่า การกำหนดคุณสมบัติเงินเดือนไม่เกิน 50,000 บาท สูงเกินไป เพราะถือว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนชั้นกลางแล้ว นายสุรพงษ์กล่าวว่า หลักคิดเรื่องแซงกี้กำลังซื้อสำหรับกูมีเงินเดือน 50,000 บาทกรณีซื้อบ้านหรือคอนโด ในตลาดทั่วไปก็จะต้องผ่อนสูงและกลายเป็นทุขลาภ ขณะที่รัฐบาลทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาท ยังเหลือเงินอีก 40,000 กว่าบาท จะมีความสุขมากกว่า และทำให้มีกำลังเหลือไปใช้จ่ายด้านอื่นได้เพิ่ม เป็นความสุขมากกว่าทุกข์
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับ โครงการบ้านเพื่อคนไทย SRTA นำที่ดินการรถไฟมาพัฒนา ในฐานะบริษัทลูกพี่รถไฟถือหุ้น 100% เปรียบเหมือนกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา เมื่อมีรายได้เกิดขึ้น จะแบ่งรายได้ให้รฟท. ในฐานะบริษัทแม่ 70% ตามมติครม.
ด้านพันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ SRTA กล่าวว่า นับจากนายกฯเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยให้ประชาชนเข้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่ www.บ้านเพื่อคนไทย.th ตั้งแต่ เวลา 14.00 น.วันนี้ (17 ม.ค.68) ล่าสุดจนถึงเวลา 17.30 น. มีผู้เข้ามาลงทะเบียนแล้วถึง 23 ล้านคน โดยระบบสามารถรองรับได้นาทีละ 100,000 คน
คุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิ
· เป็นผู้มีสัญชาติไทย
· เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน
· เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน
· ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยทุกประเภท
· ไม่เคยได้สิทธิ ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย
สำหรับสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะมีการแสดงบ้านตัวอย่างและห้องตัวอย่างตั้งแต่วันที่17-31 ม.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 21:00 น.ขณะที่ บูธ ธอส. ที่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 17-24 ม.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ถึง 19:00 น. ซึ่งบรรยากาศในวันเปิดตัว ได้รับความสนใจประชาชนเป็นจำนวนมาก