xs
xsm
sm
md
lg

“ท็อปส์” ชู The Great 3As รับตรุษจีน ยกทัพ 1.5 พันรายการ-โฟกัสGen Z

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- “ท็อปส์” ลุยแคมเปญ “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” รับตรุษจีน จัดสินค้ากว่า 1,500 รายการร่วมรายการ และสินค้ากว่า 20% มาแบบเก๋ๆ เอาใจเจน Z ได้ไหว้ตรุษจีนแบบติดแกรม ถ่ายรูปออกมาสวย มั่นใจตลอดการจัดงานยอดขายโต 20% เช่นปีที่ผ่านมา


นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล (ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ) เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีนปี2568นี้อยู่ในช่วงเดือนม.ค.ด้วย จะสร้างความคึกคักและก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วประเทศ ส่งผลให้มั่นใจค้าปลีกไทยยังเติบโต จากปี 2567 ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้เชื่อว่ามูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาทในปีนี้ (ที่มา: Euromonitor)

โดยช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างมาตรการ EASY e-RECEIPT’ และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ท็อปส์ จึงได้จัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ตั้งแต่วันนี้-24 ม.ค. 68


แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคปี 2568 ที่เรียกว่า 4s Trends คือ 1. Smart Spending & Value Equation – ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าเน้นคุ้มค่า คุ้มราคา, 2. Self-Healing – ฮีลใจ, ทันกระแส, และมีสตอรี่ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ, 3. Sustainability – ดีต่อโลก ดีต่อใจ เน้นความยั่งยืน จะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก ธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น และ 4. Saiyasart - ความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ มูเตลู: แม้ในยุคที่ดิจิทัล แต่คนไทยกว่า 88% ยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3%

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และGen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อครั้งเติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ และมียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น +35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 คือ ผักและผลไม้ (Produce)22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4% และ ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6%


จากเทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์เหล่านี้ ท็อปส์จึงคิดค้นกลยุทธ์ ‘The Great 3As’ สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้แก่ 1.The Great ASSORTMENT: พาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ ครบครันและตอบรับกับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน, 2.The Great ANG-PAO: มอบของขวัญสุดพิเศษด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15%’ เมื่อช้อปสินค้าที่ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุก ๆ 100 บาท และอื่่นๆ และ 3.The Great CX with AMBASSADOR: การเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย กิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

“ปีนี้ ท็อปส์จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีนในแง่มุมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังร่วมกิจกรรมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับลูกค้าสมาชิก The1 ที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) 20 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทริปพิเศษผ่าน Tops My Rewards ช่องทาง Line Tops Thailand ตามเงื่อนไข”

กลุ่มลูกค้าหลักที่ซื้อสินค้าสำหรับเทศกาลตรุษจีน ส่วนใหญ่เป็นหญิง 76% อายุ 35-54 ปีขึ้นไป หรือเป็นกลุ่มเจน X และY เป็นหลัก จนไปถึงเบบี้บูม คิดเป็นสัดส่วนถึง 54% ขณะที่กลุ่มเจน Z เป็นอีกกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีนมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 24% ดังนั้นแผนการตลาดครั้งนี้จึงมีทั้งรักษาฐานเดิมและมุ่งขยายสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ภายใต้การนำเสนอสินค้ากว่า 1,500 รายการ โดยกว่า 20% เป็นสินค้าใหม่ เอ็กคลูซีฟเฉพาะในท็อปส์ หรือเป็นสินค้าที่สร้างสรรค์ขึ้นมาให้มีรูปร่างที่แปลกใหม่ น่าสนใจ โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ” นายจักรกฤษณ์ กล่าว


จากเทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์เหล่านี้ ท็อปส์จึงคิดค้นกลยุทธ์ ‘The Great 3As’ สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้แก่ 1.The Great ASSORTMENT: พาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ ครบครันและตอบรับกับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน, 2.The Great ANG-PAO: มอบของขวัญสุดพิเศษด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15%’ เมื่อช้อปสินค้าที่ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุก ๆ 100 บาท และอื่่นๆ และ 3.The Great CX with AMBASSADOR: การเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย กิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

“ปีนี้ ท็อปส์จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีนในแง่มุมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังร่วมกิจกรรมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับลูกค้าสมาชิก The1 ที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) 20 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทริปพิเศษผ่าน Tops My Rewards ช่องทาง Line Tops Thailand ตามเงื่อนไข”

กลุ่มลูกค้าหลักที่ซื้อสินค้าสำหรับเทศกาลตรุษจีน ส่วนใหญ่เป็นหญิง 76% อายุ 35-54 ปีขึ้นไป หรือเป็นกลุ่มเจน X และY เป็นหลัก จนไปถึงเบบี้บูม คิดเป็นสัดส่วนถึง 54% ขณะที่กลุ่มเจน Z เป็นอีกกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีนมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 24% ดังนั้นแผนการตลาดครั้งนี้จึงมีทั้งรักษาฐานเดิมและมุ่งขยายสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ภายใต้การนำเสนอสินค้ากว่า 1,500 รายการ โดยกว่า 20% เป็นสินค้าใหม่ เอ็กคลูซีฟเฉพาะในท็อปส์ หรือเป็นสินค้าที่สร้างสรรค์ขึ้นมาให้มีรูปร่างที่แปลกใหม่ น่าสนใจ โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ” นายจักรกฤษณ์ กล่าว



















กำลังโหลดความคิดเห็น