xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็มสตูดิโอ” ทุ่มพันล.ลุย16เรื่อง หนังไทยโกย2.4พันล.เขี่ยฮอลลีวู้ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- ปีนี้หนังไทยพีคขั้นสุดบนหน้าประวัติศาสตร์หนังไทย พูดได้เต็มปากว่าเป็น “Tollywood” เนื้อหอมเป็นที่ต้องการบนสตรีมมิ่ง แข็งแกร่งก้าวสู่โกลบอลคอนเท้นท์ “เอ็มสตูดิโอ“ ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ลุยหนัง 20 เรื่องในปีนี้ มั่นใจโกยรายได้โตอีก 30% จากปีก่อนทำไว้ 1,322 ล้านบาท กับหนัง 16 เรื่อง


นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มสตูดิโอ จำกัด ในเครือ เมเจอร์ เปิดเผยว่า กระแสหนังไทยได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ส่งผลให้ปี 2567 รายได้หนังไทยมีมูลค่าสูงกว่าฝั่งหนังฮอลลีวู้ดเป็นครั้งแรก จากมูลค่าตลาดรวม 4,485 ล้านบาท มาจากหนังไทย 54% หรือกว่า 2,438 ล้านบาท, ฮอลลีวู้ด 38% มูลค่า 1,694 ล้านบาท และอื่นๆ 8% คิดเป็นมูลค่า 353 ล้านบาท

จากกระแสที่ดีต่อเนื่อง มั่นใจว่าปี2568นี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของหนังไทย เป็นปีทองที่จะพีคที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์หนังไทยตั้งแต่มีมา โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีหนังไทยเข้าฉายร่วม 70 เรื่อง และมีหลายเรื่องที่เป็นภาคต่อหนังทำเงินเกิน 100 ล้านบาท ส่วนฝั่งฮอลลีวู้ดปีนี้ก็จะมีหนังฟอร์มยักษ์ตบเท้าเข้าฉายหลายเรื่องเช่นกัน ส่งผลให้ภาพรวมตลาดหนังปีนี้จะมีความคึกคักและเติบโตทั้งหนังไทยและฮอลลีวู้ด โดยมั่นใจว่าหนังไทยจะยังคงทำรายได้รวมได้มากกว่าฝั่งฮอลลีวู้ดอีกครั้ง


“ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของหนังไทย ทั้งในเรื่องโปรดักส์ชั่น และคุณภาพ รวมถึงฐานแฟนคลับที่รอติดตามทั้งไทยและต่างประเทศ พูดได้ว่าไทยเป็น TOLLYWOOD ได้แล้ว เพราะวันนี้หนังไทยมีความแข็งแรง เข้มแข็งและจะเติบโตอย่างยืน เพราะกระแสหนังไทยยังได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการในสตรีมมิ่ง รวมถึงตลาดต่างประเทศมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คอนเท้นท์หนังไทยพร้อมก้าวสู่ระดับโกลบอลแล้ว“

สำหรับหนังไทยในปี 2567 ทำรายได้รวมในประเทศ 2,438 ล้านบาท จาก 54 เรื่อง มีที่ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท 8 เรื่อง ได้แก่ ธี่หยด 2 ของ M STUDIO ทำรายได้ 815 ล้านบาท, หลานม่า ของ จีดีเอช 559 ทำรายได้ 339 ล้านบาท, พี่นาค 4 ของไฟว์สตาร์ ทำรายได้ 178ล้านบาท, อนงค์ ของ M STUDIO ทำรายได้ 150ล้านบาท, วิมานหนาม ของจีดีเอช 559 ทำรายได้ 150 ล้านบาท, หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด ของ M STUDIO ทำรายได้ 130 ล้านบาท, เทอม 3 ของสหมงคลฟิล์ม ทำรายได้ 122 ล้านบาท และวัยหนุ่ม 2544 ของ เนรมิตหนัง ฟิล์ม ทำรายได้ 122 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนังไทยทำเงินภายใต้การผลิตของ M STUDIO มีจำนวน 3 ใน 8 เรื่อง


ในส่วนของเอ็มสตูดิโอ เป็นสตอรี่คอมปานี ที่พร้อมลงทุนสร้างสรรค์หนังไทย ปีนี้พร้อมใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับสร้างหนังกว่า 20 เรื่อง แบ่งเป็นจับมือพันธมิตรลงทุนร่วมกัน 70% หรือกว่า 4 ราย เช่น ช่อง3, โมโน, Plan B, กันตนา เป็นต้น และลงทุนเอง 30% โดยมีรายชื่อหนัง อาทิ ธี่หยด 3, นาคี 3 ผลงานการกำกับ ของ ออฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, อนงค์ 2 ของ เอส คมกฤษ ตรีวิมล พร้อมนักแสดงนำ จี๋ สุทธิรักษ์ และ โบ เมลดา, มือปืน ผลงานมาสเตอร์พีซกับการมาร่วมค่ายของ พุฒิพงศ์ นาคทอง, A Million ways to loveการทำงานร่วมกัน ระหว่าง บอย โกสิยพงษ์ และ ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้วจากภาพยนตร์ ลอง ลีฟ เลิฟว์!, The Stone พระแท้ คนเก๊ ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก ของ เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, สุสานคนเป็นการกลับมาสู่จอภาพยนตร์อีกครั้ง ของ นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี โดยทีมงานสร้างซีรีส์เรื่อง สืบสันดาน เฉลี่ยต้นทุนหนังแต่ละเรื่องอยู่ที่ 50-60 ล้านบาท หรือขึ้นอยู่กับสตอรี่ของแต่ละเรื่องด้วย มั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำไว้ 1,322 ล้านบาท กับหนัง 16 เรื่อง.








กำลังโหลดความคิดเห็น