- • ความสำเร็จมาจากการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตกว่า 90 โครงการ
- • PTTGC ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการดำเนินโครงการ
PTTGCแย้มปี 2567 บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 48,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตกว่า 90 โครงการ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภายในและต่างประเทศ สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ
นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 บริษัทบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 48,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตกว่า 90 โครงการ หรือเกินเป้าหมายกว่า 100% และมากกว่า 59,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือเกินจากเป้าหมาย 40% ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกับพันธมิตรท ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์และเคมีภัณฑ์มูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ เสริมสร้างศักยภาพในการเป็น “ศูนย์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด” (Map Ta Phut Specialty Hub) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมสากลโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ รวมทั้งบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม
ซึ่งประกอบด้วย การปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยPTTGCและ KBC Advanced Technology Pte Ltd, a Yokogawa company ร่วมพัฒนา การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Advanced Process Simulation และความรู้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของ PTTGC ,บริษัทฯได้ร่วมกับ Toyo Engineering Corporation พัฒนาเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งได้จับมือToray Industries, Inc. พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อผลิตกรดมิวโคนิกและกรดอะดิปิกชีวภาพจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สู่ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำในอนาคต และผนึกบริษัท ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ร่วมพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานไฮโดรเจน (Future Hydrogen Society) เพื่อร่วมแก้ไขและชะลอปัญหาจากภาวะโลกร้อน เป็นต้น
การปรับ Portfolio มุ่งสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ- การผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAFด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) รายแรกของประเทศไทยในระดับเชิงพาณิชย์ สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกที่กำหนดโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization) หรือ ICAO เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นประเทศที่คาร์บอนต่ำ โดยได้ร่วมมือกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดจำหน่าย และ ร่วมมือกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
การขยายการเติบโตในธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล rPET คุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ InnoEco by GC ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานการสัมผัสอาหาร (Food Contact) จากองค์การอาหารและยาของไทย (อย.) องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) โดยบริษัทร่วมกับ บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด พัฒนาขวดน้ำมันพืชเกสร จากเม็ดพลาสติก รีไซเคิล rPET รายแรกของประเทศไทย สามารถเก็บรักษารสชาติและกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ,PTTGC ร่วมกับ บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด และ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) พัฒนาขวดน้ำแร่จิฟฟี่จากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล rPET 100% ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• การบริหารจัดการด้านความยั่งยืน โดยริเริ่ม GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม ในปี 2563 เพื่อบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจร (End-to-End Waste Management) สนับสนุนการคัดแยกและหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดพร้อมเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ด้วยเป้าหมายสำคัญในการร่วมแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในประเทศ ซึ่งได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในเครือข่ายมากกว่า 176 ราย พร้อมทั้งมีจุดรวบรวมพลาสติกใช้แล้วกว่า 290 จุด รวมถึงพัฒนาศูนย์บริหารจัดการขยะชุมชน (Community Waste Hub) เพื่อสร้างรายได้และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน
โดยในปี 2567 ได้ขยายศูนย์บริหารจัดการขยะรีไซเคิลชุมชนในพื้นที่จังหวัดระยอง สามารถหมุนเวียนพลาสติกใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิลกว่า 1,322 ตัน ลดขยะพลาสติกสู่หลุมฝังกลบ เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,363,085 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2e)หรือ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 143,483 ต้น