xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ผลดีไทยร่วมเวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า2025 ต่อยอดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโกยรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • คาดมีผู้เข้าชมงาน 28.2 ล้านคน
  • • ไทยหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
  • • คาดสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก


ผู้จัดการรายวัน 360 - โอกาสสำคัญที่ไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมงาน WORLD EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN คาดมีผู้เข้าชมงาน 28.2 ล้านคน หวังต่อยอดดึงนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล


ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดพฤติกรรมและวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ประชาชนหันมา ใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมุ่งเน้นในเรื่องการป้องกันมากกว่าการรักษา ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลก

จากสถาบันด้านสุขภาพสากล หรือ Global Wellness Institute (GWI) คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มขยายตัวสูง 8.6% ต่อปีจนถึงปี 2570 โดยมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยถึง 306 ล้านล้าน เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563 ขณะที่ ในปี 2568 คาดว่าเศรษฐกิจสุขภาพทั่วโลกจะมีมูลค่าอย่างน้อย 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้านบาท

จากการคาดการณ์มูลค่าตลาดทำให้ประเทศไทยเล็งเห็นโอกาสในการสร้างเม็ดเงินมหาศาลจากเศรษฐกิจสุขภาพ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ในด้านการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 หมุดหมายสำคัญ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่13 (พ.ศ.2566-2570)


ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมีนโยบายยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพในทุกๆด้าน รวมไปถึงการผลักดันให้ไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
การเข้าร่วมงาน WORLD EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง วันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 ถือเป็นโอกาสอันดีในการประชาสัมพันธ์ให้นานาชาติได้เห็นศักยภาพและความพร้อม ทางการแพทย์ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปสู่โอกาสสำคัญให้กับประเทศไทยในหลายด้าน อาทิ

ด้านสาธารณสุข ส่งเสริม และเผยแพร่นโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติในภูมิภาค เวทีโลก ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเป็นหมุดหมายด้านสุขภาพของคนทั่วโลก รวมถึงเป็นโอกาสอันดีในการแสดงศักยภาพในการบริหารจัดการเกี่ยวกับสุขภาพ และระบบสาธารณสุขไทยให้ทั่วโลกรับรู้

ด้านเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการขยายตลาดอุตสาหกรรมด้านการแพทย์ครบวงจรของไทย อีกทั้งเป็นการแสดงศักยภาพ ให้ผู้ลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในการลงทุน และดึงดูดให้ผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งให้ผู้ประกอบการไทย เกิดโอกาสในการขยายการลงทุนไปสู่ภายนอกประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และยั่งยืนในทุกมิติ


ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ และแสดงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระดับโลก ส่งผลดีให้เกิดการจ้างงานและเกิดการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอีกมาก พร้อมทั้งส่งผลดีกับธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่ขยายบริการไปสู่การดูแลสุขภาพแบบครบวงจร (Wellness Center) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรายได้มูลค่าสูง นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ

ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือกับนานาประเทศ เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์กับนานาชาติ

จากการประมาณการ คาดว่าจะมีประเทศสมาชิกและองค์กรระหว่างประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมงานประมาณ 28.2 ล้านคน ซึ่งจากจำนวนผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว คาดว่าจะมีประเทศกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยมุ่งขยายตลาดเศรษฐกิจสุขภาพเข้าร่วมงานอีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) 6 ประเทศ คือ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย, รัฐคูเวต, รัฐสุลต่านโอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, รัฐกาตาร์, ราชอาณาจักรบาห์เรน รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV คือ ราชอาณาจักรกัมพูชา, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวมทั้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพเพื่อดึงดูด นักลงทุนกลุ่มทางการแพทย์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศสามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมหาศาล


สำหรับงาน WORLD EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุข และสุขภาพดี ซึ่งการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ไปแสดงศักยภาพสาธารณสุขไทยบนเวทีโลก ในส่วนของอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ได้พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “THAILAND Connecting Lives for Greatest Happiness”สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ และ Thai-Smile Connecting Happiness World Destination ยิ้มสยามที่ก่อให้เกิดความสุขเป็นเป้าหมายปลายทางของคนทั่วโลก โดยหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยตั้งแต่ ภูมิจากธรรมชาติ ภูมิจากวิถี วัฒนธรรม นวัตกรรม จนถึงภูมิคุ้มกันจากศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณสุข มาสื่อสาร เพื่อเชื่อมต่อชาวโลก ให้เข้าถึงภูมิปัญญา และอัตลักษณ์แบบไทยผ่านบรรยากาศของดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร และวิถีของผู้คนที่ช่วยสร้างภูมิให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ

ภายในนิทรรศการแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย

ส่วนจัดแสดงที่ 1 “ภูมิวิถี” เปิดอรรถรสแห่งการเดินทางเข้าสู่ภูมิพิมาน ดินแดนที่รุ่มรวยไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม รวมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของอาหารที่ทำให้ไทยเป็นครัวของโลก ได้แก่

• 1 หมุดหมายสุขภาพโลก (World’s destination for healthcare and wellness)
ปักหมุดอาคารนิทรรศการไทย ร่วมทำสัญลักษณ์ถ่ายภาพเช็คอินเพื่อแชร์ “ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน” ให้ทั่วโลกได้รู้จักประตูบานแรกที่เปิดให้ก้าวเข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดี มีภูมิคุ้มกันสไตล์ไทยๆ โดดเด่นสะดุดตาด้วยการ นำสถาปัตยกรรมไทยรูปทรง “จอมแห” มาผสมผสานให้เกิดรูปทรงหลังคาอาคารที่มีความเป็นไทยร่วมสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยมี “น้องภูมิใจ” มาสคอตตัวแทนประเทศไทยรอต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร


• 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย (Enchantments of Thailand)
บริเวณพื้นที่ด้านนอกอาคาร จัดแสดงประติมากรรมสำรับอาหารขนาดใหญ่ที่ภายในอัดแน่นไปด้วยมนต์เสน่ห์ของประเทศไทย ประกอบไปด้วย ภูมิประเทศ, ทรัพยากร, อาหาร และความเป็นอยู่แบบไทยๆ ที่คนทั่วโลกต่างหลงใหล พร้อมนำเสนอวิถีการกินอย่างไทย เช่น สำรับแซ่บไทยเมนูอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสมุนไพรช่วยปรับสมดุลในร่างกาย สำรับภูมิดีผลผลิตเด่น, สินค้าเกษตรและผลไม้ขึ้นชื่อนานาชนิด, วิถีความเป็นอยู่อย่างไทย เช่น สำรับเทศกาลไทยประเพณีสงกรานต์ตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีสุขภาพดีอย่างไทย เช่น ฤาษีดัดตน ซึ่งเป็นภูมิปัญญานวดแผนไทย ที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นมรดกโลกปี 2019 เป็นการบริหารร่างกายของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งเน้นการฝึกลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จึงเป็นทั้งการบริหารร่างกายและบริหารจิต รวมทั้งช่วยในการบำบัดอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง ร่วมตามหาเคล็ดลับอายุวัฒนะในประเทศไทย ดินแดนแห่งความมั่งคั่งด้านสุขภาพ ภายในโรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater ผ่าน Concert Hall มหรสพรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดความงดงามของภูมิวิถี, ธรรมชาติ, ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์, การบริการ เเละรอยยิ้มของผู้คน ด้วยจอฉายภาพขนาดยักษ์สูงกว่า 5 เมตร พร้อมระบบแสงสีเสียง สุดล้ำแบบจัดเต็ม มอบประสบการณ์ที่สมจริง เกินจินตนาการ ที่ช่วยสร้างภูมิทางกายและภูมิทางใจให้แข็งแกร่ง เพราะสมดุลของ “กาย ใจ” คือความมั่นคงด้านสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

ส่วนจัดแสดงที่ 2 “ภูมิคุ้มกัน” ถ่ายทอดเรื่องราวจากภูมิวิถีแบบไทย พัฒนาสู่นวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหมุดหมายใหม่ด้านการแพทย์และสุขภาพของโลก
• 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย (POTENTIALITIES OF THAI PUBLIC HEALTH SYSTEM)
100 สิ่งสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกเพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดี พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยศักยภาพสาธารณสุขไทยทั้ง 4 ด้านที่จะขับเคลื่อนให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) ได้แก่ Medical Service Hub, Wellness Hub, Product Hub, Academic Hub รวมถึงพืชสมุนไพร Herbal Champion ที่สามารถยกระดับให้ไทยเป็นดินแดนที่พร้อมดูแลและปกป้องทุกชีวิตได้ในอนาคต

• 1,000 สถานบริการทางการเเพทย์ (Medical Facilities) กว่า 1,000 สถานบริการเพื่อสุขภาพที่ตอบรับ คนทั้งโลก ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ รักษา ฟื้นฟูตลอดจนการพักผ่อนระยะยาวที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดินแดนเป้าหมายสุขภาพดีรองรับสังคมแห่งอนาคต สามารถเข้าถึงได้จากจำนวนสถานบริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย ครอบคลุมการรักษาทุกโรคและได้มาตรฐานสากล เช่น JCI, HA ฯลฯ พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพที่แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติของไทยสามารถฟื้นฟูทั้งร่างกายเเละเยียวยาจิตใจได้ผ่าน Immersive Experience ของ "Thai Nature Therapy"


• 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เรียนรู้สรรพคุณของวัตถุดิบในหลากหลายเมนูอาหารของไทย ผ่าน Interactive game มาร่วมถอดรหัส DNA อาหารไทย เป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” รวมถึงสำรับอาหารจากภูมิปัญญาไทยทั่วทุกภูมิภาค อันหลากหลายครบรสที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารในทุกฤดูกาล ที่มาพร้อมสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน สู่การสร้างสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพมากมาย

ส่วนจัดแสดงที่ 3 “ภูมิสยาม” เข้าถึงภูมิแบบไทย ผ่านการลอง ลิ้ม ชิม รสชาติหลากเมนูอาหารไทยจากครัวสาธิต เพลิดเพลินไปกับนิทรรศการหมุนเวียน อาทิ การนวดไทย, การทำถุงเครื่องหอม และอีกหลากหลายกิจกรรมตลอดระยะเวลาจัดงาน
• 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน พื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมภูมิจากประเทศไทย ทั้งเครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าที่ระลึก รวมถึงโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ที่ทุกคนล้วนเข้าถึงสุขภาพดี ในแบบไทยๆได้

• 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้ม เสริมภูมิทางใจให้กับคนทั่วโลก

พร้อมกันนี้ จัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย บริเวณหน้าทางเข้าหมุนเวียนให้ชมในแต่ละวันตลอด 6 เดือนเต็ม รวมทั้งการแสดงกิจกรรมพิเศษโอกาสต่างๆ , การแสดงวันเฉลิมฉลองของชาติไทย และการแสดงความสัมพันธ์ ไทย - ญี่ปุ่น 138 ปี ฯลฯ ที่จะมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจและความประทับใจแก่ผู้ที่มาร่วมชมงาน รวมทั้งนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมจัดกิจกรรม














กำลังโหลดความคิดเห็น