xs
xsm
sm
md
lg

สศอ.ตั้งเป้าMPI ปี68ขยายตัว1.5-2.5% ดีขึ้นเมื่อเทียบ 11ด.67 หดตัว 1.78%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับ 93.41 หดตัวร้อยละ 3.58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวม 11 เดือนแรกปี 2567 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 1.78 ส่วนแนวโน้มปี 2568 การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ตั้งเป้าMPIปี2568ขยายตัวร้อยละ 1.5-2.5 จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นประจำปีหน้า

นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI)ปี2568 คาดว่าขยายตัวร้อยละ1.5-2.5 เนื่องจากมาตรการการใช้จ่ายและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาท นโยบายซอฟท์พาวเวอร์ ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น รวมทั้งภาครัฐหารือเอกชนเพื่อหามาตรการช่วยอุตสาหกรรมยานยนต์ และก.อุตสาหกรรมเตรียมหารือพาณิชย์เกี่ยวกับผลกระทบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาดในไทย โดยจะออกมาตรการเซฟการ์ดช่วยอุตสาหกรรมพลาสติกและเหล็กในประเทศ

สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับ 93.41 หดตัวร้อยละ 3.58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 57.60 ส่งผลให้ภาพรวม 11 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ระดับ 96.25 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 1.78 และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 58.64

โดยปัจจัยที่ส่งผลลบต่อภาคการผลิต ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวต่อเนื่อง ตลาดภายในประเทศชะลอตัว กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่มีนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน อาจทำให้สินค้าเข้ามาสู่ไทยและอาเซียนมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวก จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ เช่น โครงการเงิน 10,000 บาท โครงการแจกเงินผู้สูงอายุ โครงการช่วยเหลือเกษตรกร การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) ขยายตัวร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัวเพิ่มขึ้น

ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนธันวาคม 2567 “ส่งสัญญาณปกติเบื้องต้น” โดยปัจจัยภายในประเทศส่งสัญญาณปกติเบื้องต้น เนื่องจากปริมาณสินค้านำเข้าขยายตัว ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลง จากภาคการผลิตในสหภาพยุโรปที่ขยายตัว เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเติบโตได้ แต่ยังมีความกังวลต่อนโยบายทางการค้าในอนาคต รวมถึงภาคการผลิตของประเทศญี่ปุ่นยังซบเซา

“แนวโน้มปี 2568 อุตสาหกรรมดาวเด่นมีแนวโน้มเติบโตจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง 2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น ภาครัฐให้เงินอุดหนุนค่าครองชีพ Easy E-Receipt 2.0 และ 3. การขยายตัวของภาคการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทย สะท้อนได้จากมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์ ประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม บรรจุภัณฑ์ ทั้งพลาสติก กระดาษ และโลหะ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ และ Hard Disk Drive ที่ผู้บริโภคมีความต้องการกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามโครงสร้างวัฏจักรของสินค้าที่เริ่มหมดอายุรับประกัน อีกทั้ง มีความต้องการเพิ่มขึ้นในกลุ่ม Data Centers ทำให้คำสั่งซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ส่งผลให้ภาพรวมช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมาในปี 2567 ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน” นายภาสกร กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่เครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้งานทั่วไป ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.56 จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เป็นหลัก ตามอุณหภูมิเฉลี่ยโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ,สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 31.43 จากผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋อง เป็นหลัก ,เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (ยกเว้นร้านตัดเย็บเสื้อผ้า) ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.58 จากผลิตภัณฑ์ เครื่องแต่งกายชั้นนอกและเครื่องแต่งกายชั้นในสตรีและเด็กหญิงทำจากผ้าทอ เป็นหลัก

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ยานยนต์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 27.21 จากรถบรรทุกปิคอัพ และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์นั่งไฮบริด เป็นหลัก, น้ำมันปาล์ม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 34.54 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และน้ำมันปาล์มดิบ เนื่องจากปริมาณผลปาล์มที่ลดลงจากปัญหาภัยแล้ง และชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8.63


กำลังโหลดความคิดเห็น