“เอกนัฏ”เผยก.อุตฯ ส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ผู้ประกอบการและประชาชน โดยปลดล็อกโซลาร์รูฟท๊อป-จัดสรรเงินสู่ท้องถิ่น-เพิ่มราคารับซื้อใบอ้อย ยอดอ้อย-เติมเงินทุน SME ฮาลาล
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ผู้ประกอบการและประชาชน จากการปลดล็อก "โซลาร์รูฟท๊อป" จัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้ อปท. 187 แห่งครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อพัฒนาชุมชนกว่า 525 ล้านบาท เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อย 300 บาท/ต้นใบ เติมเงินทุนต่อยอด ขับเคลื่อน SME อุตฯ ฮาลาลสู่ตลาดโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 กล่อง ดังนี้
กล่องที่ 1 สนับสนุนสินค้าและบริการดี ประกอบด้วย 1. ปลดล็อกโซลาร์รูฟท๊อปทุกกำลังการผลิต ไม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เพื่อสนับสนุนใช้ไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมตอบสนองกติกาสากลและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศแบบซีโร่คาร์บอน
2.ส่งเสริมการลงทุน นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ในพื้นที่ Rubber City ซื้อที่ดินตั้งแต่ 3-121 ไร่ รับส่วนลดร้อยละ 3-15 ของอัตราราคาขายที่ดิน 3. ส่วนลดราคาพิเศษ อาทิ ลดค่าสมาชิกสถาบันอาหาร 20% จำนวน 100 สิทธิ์ 4.ลดราคาโปรแกรม HR สำหรับ SME 15% เป็นระยะเวลา 3 ปี ทดลองใช้ฟรี 30 วัน จำนวน 200 สิทธิ์
กล่องที่ 2 เสริมแกร่งธุรกิจ ประกอบด้วย 1.บริการซอฟต์แวร์จากดีพร้อมแคร์ ฟรี 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจ อาทิ โปรแกรม SekWeb เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อัจฉริยะพร้อมข้อมูล โปรแกรม PEAK บัญชีออนไลน์อำนวยความสะดวกด้านการเงินและงบการเงินต่าง ๆ 2. ฟรีอบรมด้าน ESG (E-Environment, S-Social และ
G-Governance) แก่บุคลากรของผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว จำนวนกว่า 400 คน และ 3.ฟรีอบรมการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ การพัฒนากระบวนการผลิต และการประยุกต์ใช้ระบบไอที ผ่าน www.plaskills.com จำนวน 100 ท่าน
กล่องที่ 3 สร้างโอกาส กระจายรายได้ ประกอบด้วย 1.โครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชน ปีที่ 8 อาทิ บริการตรวจสุขภาพฟรี ให้กับประชาชนรอบสถานประกอบการเหมืองแร่กว่า 30,000 ราย โครงการจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ได้รับอาชญาบัตรพิเศษหรือประทานบัตรตอบแทนแก่รัฐตามที่ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 กำหนดให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 187 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อนำไปพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน รวมกว่า 525 ล้านบาท 2.สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยสร้างแรงจูงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด คุณภาพดีร้อยละ 100 โดยจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย คาดการณ์ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 75 ล้านตัน ,เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อยในอัตรา 300 บาทต่อตันใบและยอดอ้อย หรือเท่ากับ 51 บาทต่อตันอ้อย ,การจัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมใช้ จำนวน 288 เครื่อง, การแจกอ้อยพันธุ์ดี ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยนำไปขยายพันธุ์ในฤดูการผลิตปี 2568/2569 ทั่วประเทศ 200,000 ไร่ ผลผลิต 2 ล้านตัน มูลค่าไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
กล่องที่ 4 เสริมสภาพคล่อง ประกอบด้วย การยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการ,มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และเงินทุนต่อยอด ขับเคลื่อน SME อุตสาหกรรมฮาลาลสู่ตลาดโลก , สินเชื่อพิเศษ Diprom Pay วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 5ปี ดอกเบี้ย
ร้อยละ 3-7 ต่อปี
สินเชื่อกู้ระยะยาว วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ย ร้อยละ 3-10 ต่อปี ,สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan เมื่อเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม มูลค่า 60 ล้านบาท ,สินเชื่อธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-7 ต่อปี และสินเชื่อลูกค้าใหม่ SME ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99%
ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี สินเชื่อสนับสนุน SME Green Productivity ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปีใน3 ปีแรก ผ่อนนาน 10 ปี
“โครงการฯ ทั้งหมดนี้ เป็นของขวัญที่กระทรวงอุตสาหกรรม มอบเป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2568 จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้เกิดการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้า เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ร่วมกับการขับเคลื่อนนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่" สู้ เซฟ สร้าง ภาคอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน" นายเอกนัฏกล่าว