- • เดอะคอฟฟี่คลับวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งในปีนี้
- • เดอะคอฟฟี่คลับเจาะตลาดใหม่ในโรงพยาบาล เริ่มจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (MDCU)
- • สาขาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ให้บริการ 24 ชั่วโมง
ผู้จัดการรายวัน 360 – เดอะคอฟฟี่คลับเดินเกมรุกหนัก ส่งผลปีนี้เติบโต 9% พร้อมกำไรทะลุ 25 ล้านบาท เดินหน้าขยายอีก 4 แห่งปีนี้ เจาะเข้าตลาดโรงพยาบาล ล่าสุดเข้าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (MDCU)พร้อมบริการ 24 ชั่วโมง
นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่่วไป เดอะคอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด ในเครือไมเนอร์ เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทวางแผนจะลงทุนรวมประมาณ 60 ล้านบาท จะขยายสาขาเดอะคอฟฟี่คลับใหม่อีกไม่ต่ำกว่า3-4 สาขา ทั้งในกรุงเทพ ต่างจังหวัดเช่น พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น และการปรับปรุงสาขาเดิมด้วย
ส่วนจะมีสาขาเปิดบริการ 24 ชั่วโมง และจะเปิดสาขาในโรงพยาบาลเพิ่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของทำเลที่ได้มาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ที่ตึกสเตย์บริดส์ ทองหล่อ กับที่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (MDCU) ส่วนสาขาที่เปิดในโรงพยาบาลมี 2 แห่งคือที่่ โรงพยาบาลกรุงเทพ กับ MDCU จากปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการรวม 42 สาขา ล่าสุดคือสาขาMDCU
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปี2567 ของเดอะคอฟฟี่คลับปีนี้เปิดใหม่ 4 สาขาคือที่ สุรวงศ์, เซ็นทรัลพัทยา, ภูเก็ต และMDCU ปีนี้กลับมามีผลกำไรไม่ต่ำกว่า25 ล้านบาท เพิ่มมากกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรเพียง 1 ล้านกว่าบาทเท่านั้น หรือเติบโตด้านยอดขาย 9% เนื่องมาจากการปรับกลยุทธ์ของเดอะคอฟฟี่คลับเอง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่น การมุ่งเน้นลูกค้าคนไทยมากขึ้น การปรับราคาสินค้าลงมา การพยายามเข้าถึงกลุ่มคนไทยให้ง่ายขึ้น เป็นต้น
โดยเฉพาะการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรในช่วงหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19ระบาดเพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยในช่วงนั้นมีสาขาประมาณ 70 กว่าสาขา แต่จากโควิดทำให้ปิดประเทศ นักท่องเที่ยวหายไปหมด ปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการรวม 42 แห่ง ซึ่งถือว่าอยู่ในปริมาณกำลังดีกับการเติบโต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน กรุงเทพ 22 แห่ง และต่างจังหวัด 19 แห่ง
ล่าสุดบริษัทได้เปิดสาขาใหม่ที่MDCU ซึ่งมีความพิเศษใน 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ดีไซน์คอนเซ็ปท์ใหม่ เช่นการใช้สีส้ม และลดโทนสีดำลงบ้าง 2. การใช้วัสดุยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม เช่นโต๊ะที่นั่งในร้านทำจากวัสดุรีไซเคิล เป็นต้น และ 3.การนำเสนอเครื่องดื่มมากกว่า 40 รายการ และเมนูขนมหวานและสุขภาพกว่า 30 รายการ ผ่านการใช้เมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์ และที่สำคัญสาขานี้ จะตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่โรงพยาบาลที่มีความต้องการเฉพาะทั้งนักศึกษา บุคคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องการอาหารเครื่องดื่มรวดเร็วและมีคุภาพในราคาที่พิเศษกว่าสาขาอื่น%
สาขานี้เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีความจุประมาณ 60 ที่นั่ง พื้นที่กว่า 140 ตารางเมตร ซึ่งเดิมพื้นที่นี้เป็นแบรนด์ร้านอื่น แต่บริษัทเป็นผู้ชนะได้รับสิทธิ์เข้าใช้พื้นที่ ทำการปรับปรุงใหม่ใช้งบกว่า 6 ล้านบาท ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ยวันละ 500 คน
สาขานี้ได้รับการออกแบบที่สะท้อนแนวคิดความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างกลมกลืน ทั้งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิล (Upcycle) เช่น โต๊ะและที่นั่งภายในร้านที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ฟอยล์จากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่ผ่านการใช้งาน รวมถึง ฝุ่นไม้เหลือทิ้งจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ที่ทำจากแผ่นไวนิลเก่าที่ถูกนำมาแปรรูปใหม่ ตลอดจนเคาน์เตอร์ชงกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำขึ้นจากเยื่อกาแฟเหลือจากกระบวนการคั่วสำหรับชงเอสเปรสโซ่กว่า 1,200 แก้ว และพลาสติกรีไซเคิลจำนวน 90 กิโลกรัม เป็นต้น สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และช่วยลดขยะจากการผลิตอย่างเห็นผล ทำให้สาขานี้ไม่เพียงมอบความสวยงามและความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกการสร้างประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าเมื่อเข้ามาใช้บริการอีกด้วย
สำหรับภาพรวมการบริโภคและการใช้จ่ายของลูกค้าพบว่า ลูกค้ามียอดการซื้อต่อบิลประมาณ 100 กว่าบาทสำหรับสาขาที่เน้นเครื่องดื่ม และประมาณ 300 กว่าบาท สำหรับที่มีเครื่องดื่มและอาหารหลัก และสมาชิกมีการเข้าใช้ประมาณ 3 ครั้งต่อเดือน โดยมีฐานสมาชิกประมาณ 240,000 ราย
ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2567 เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ผ่านกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การชูจุดเด่นผู้นำด้านกาแฟตามแบบฉบับออสเตรเลีย ด้วยการนำเสนอเมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุด ที่ผสมผสานเอกลักษณ์จาก 3 แหล่งปลูกกาแฟชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บราซิล โคลอมเบีย และอินเดีย เหมาะสำหรับการชงในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ หรือกาแฟนม ตอบโจทย์คอกาแฟ อีกทั้งยังมีเมนูอาหารที่เลือกทานได้ตลอดทั้งวัน การส่งมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารผ่านการรังสรรค์เมนูและเครื่องดื่มใหม่ตลอดทั้งปี เช่น เมนู Blue & The Bowl ที่สะท้อนกลยุทธ์ตอบรับกระแสเมนูสุขภาพและเทรนด์น้ำปั่นในปัจจุบัน ด้วยสมูทตี้สีฟ้าจากผงสาหร่ายสไปรูริน่าและเมนูถ้วยผลไม้ที่อัดแน่นด้วยสารอาหารครบถ้วน ตลอดจนเน้นการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าสมาชิกด้วยแคมเปญทางการตลาด รวมถึงมอบโปรโมชันสุดพิเศษเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
จากการดำเนินกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพรวมเดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการเติบโตกว่า 9% สะท้อนภาพลักษณ์ร้านออลเดย์ไดน์นิ่งชั้นนำที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มอบโมเมนต์ดี ๆ ได้ทุกวันทุกโอกาส และปีหน้าตั้งเป้าหมายเติบโต 10%