xs
xsm
sm
md
lg

ทช.ชวนแอ่วเหนือ แวะ Check in “สะพานร่วมใจสามัคคี”ชุมชนบ้านสะปัน จ.น่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • สะพานตั้งอยู่บนเส้นทาง ทล.1169 และ ทล.1081 ห่างจากตัวเมืองน่าน 2 ชม.
  • • สามารถสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ภูเขา และทะเลหมอก
  • • เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านสะปัน


กรมทางหลวงชนบท ชวนแอ่วเหนือ แวะ Check in “สะพานร่วมใจสามัคคี” ยลวิถีชุมชนบ้านสะปัน จ.น่าน ใช้ ทล.1169 และ ทล.1081 จากตัวเมือง 2 ชม. สัมผัสบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา พร้อมสัมผัสทะเลหมอกยามเช้าอันบริสุทธิ์

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ทช. ชวนประชาชนขึ้นเหนือ ยลวิถีชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน แวะเช็กอินบน “สะพานร่วมใจสามัคคี” ท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม และม่านหมอกที่ปกคลุม พร้อมแวะพักโฮมสเตย์ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติยามเช้าอันบริสุทธิ์

สำหรับ“สะพานร่วมใจสามัคคี” เป็นสะพานของกรมทางหลวงชนบท ที่พาดผ่านจุดบรรจบของคลองข่า และลำน้ำว้า ลำน้ำสายสำคัญที่จะไหลไปบรรจบยังแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นสายน้ำที่ยาวที่สุดกว่าทุกสายก่อนไหลบรรจบเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตั้งอยู่ในหมู่บ้านสะปัน ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2562 เพื่อยกระดับการเดินทางที่สะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว เนื่องจากสะปัน กลายเป็นหมุดหมายสำคัญแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือน เพราะด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เงียบสงบ บรรยากาศอันสดชื่นบริสุทธิ์ พร้อมมีโฮมสเตย์รองรับที่คงเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ความเป็นภาคเหนือได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะแก่การหาสถานที่ฮีลใจเป็นอย่างมาก


ที่สำคัญสะพานร่วมใจสามัคคียังเชื่อมไปยังแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกสะปันที่แสนร่มรื่นเย็นสบาย อุทยานแห่งชาติขุนน่าน อันเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำว้า และวัดสะปัน สถานที่ประดิษฐานพระไชยมงคล รวมทั้งเป็นจุดกางเต็นท์ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของบ้านสะปันจากมุมสูงได้อีกด้วย

สำหรับการเดินทาง เมื่อออกจากตัวอำเภอเมืองน่าน มุ่งหน้าไปยังอำเภอบ่อเกลือ โดยใช้ ทล.1169 และ ทล.1081 ประมาณ 87 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสามแยกเข้าสู่บ้านสะปัน ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตามป้ายแนะนำเส้นทาง จนถึงสะพานร่วมใจสามัคคี ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง


ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแวะเช็กอินบน “สะพานร่วมใจสามัคคี” ซึ่งจะได้ภาพที่มีสายน้ำ ท้องนา และหุบเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีขาวเป็นพื้นหลัง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว และฤดูฝน นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปตามสายทาง เพื่อเยี่ยมชมบ้านเรือน วิถีชีวิต พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นถิ่น ผักผลไม้เมืองหนาว รวมทั้งชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาอันชุ่มฉ่ำได้อีกทางหนึ่งด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น