- • เที่ยวบินภายในประเทศคึกคัก
- • "มนพร" สั่งการ ทย.หารือสายการบินเพื่อเพิ่มเส้นทางบิน
- • เส้นทางบินใหม่มุ่งข้ามภูมิภาค (อีสาน-ใต้, อีสาน-เหนือ) และระหว่างประเทศ
- • มาตรการดังกล่าวเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย
“มนพร” เผยยอดนักท่องเที่ยวพุ่ง! แห่เข้าใช้บริการสนามบินหัวหินเพียบ หนุนเที่ยวบินภายในประเทศคึกคัก สั่งการ “ทย.” หารือสายการบิน จัดแผนเปิดเส้นทางข้ามภูมิภาค อีสาน – ใต้ อีสาน – เหนือ และระหว่างประเทศ หนุนภาคท่องเที่ยวไทยฟื้น
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วงปีงบประมาณ 2567 พบว่า ท่าอากาศยานหัวหินมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แตะระดับกว่า 75,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน หลังจากที่ซบเซาในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งผู้โดยสารกว่า 80% เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยการบินข้ามภูมิภาคในเส้นทางเชียงใหม่ – หัวหิน – เชียงใหม่
ดังนั้นจึงได้มอบหมายและสนับสนุนให้ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) หารือกับสายการบินถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางบินข้ามภูมิภาคอื่น ๆ เช่น เส้นทางอีสาน – ใต้ หรืออีสาน – เหนือ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการกลับมาเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่เคยรองรับเที่ยวบินตรงจากประเทศในเส้นทางกัวลาลัมเปอร์ – หัวหิน – กัวลาลัมเปอร์ มาแล้วในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนั้นได้เร่งรัดให้ ทย. ผลักดันโครงการงานก่อสร้างขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ให้มีความกว้าง 45 เมตร ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเดินหน้าพิจารณาโครงการใหม่ โดยให้พิจารณาปรับปรุงหรือขยายอาคารที่พักผู้โดยสารให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
และ ยังได้กำชับให้ ทย. เร่งดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน การขอใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ และการประกาศให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2568 เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการรองรับเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการประชาสัมพันธ์จุดเด่นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือกิจกรรมทางทะเล และจัดกิจกรรมภายในท่าอากาศยานตามแนวคิด “สนามบินมีชีวิต” เพื่อขับเคลื่อนให้หัวหินเป็น Land Mark ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่า ทย.มีแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน ประกอบด้วยการดำเนินงาน 2 โครงการ คือ 1. งานก่อสร้างขยายความยาวทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่ง พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน โดยขยายความกว้างทางวิ่งผิวแอสฟัลท์ติกคอนกรีตให้มีขนาด 45 เมตร เพื่อรองรับอากาศยานแบบ B737 และ A320 วงเงินลงทุน 239,897,600 บาท ปัจจุบันดำเนินงานแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT
2.งานก่อสร้างอุโมงค์ถนนและขยายพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง บริเวณหัวทางวิ่ง 16 เนื่องจาก กพท. ได้ตรวจพบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย บริเวณพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) และพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (RESA) ทย. จึงได้ขอรับจัดสรรงบประมาณเมื่อปี 2566 วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอุโมงค์ถนนและขยายพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง บริเวณหัวทางวิ่ง 16 ตรงอุโมงค์รถยนต์และรถไฟ จากเดิมด้านละ 40 เมตร เป็น 60 เมตร และพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่งตรงอุโมงค์รถไฟ ให้มีความกว้างตามมาตรฐาน 90 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของอากาศยานที่อาจไถลออกนอกทางวิ่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาขอความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ เริ่มดำเนินงานตามสัญญาได้ในเดือนมกราคม 2568 และสิ้นสุดสัญญาในเดือนเมษายน 2569
โดยปัจจุบันท่าอากาศยานหัวหินมีขีดความสามารถในการรองรับอากาศยานแบบ B737 ได้ 2 ลำในเวลาเดียวกัน อาคารที่พักผู้โดยสารรองรับผู้โดยสารได้ 300 คน/ชั่วโมง หรือ 0.86 ล้านคน/ปี ลานจอดรถยนต์รองรับได้ 90 คัน โดยเปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศโดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทางเชียงใหม่ – หัวหิน – เชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ จันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 1 เที่ยวบิน