ทย.บอกเลิกสัญญาและริบหลักประกัน 53 ล้านบาท ผู้รับเหมาทิ้งงานก่อสร้าง “สนามบินตรัง”แจ้งแบล็คลิสต์ พร้อม เร่งประเมินความเสียหาย-หาผู้รับจ้างรายใหม่ เร่งก่อสร้าง เปิดให้บริการภายใน มี.ค. 68 ส่วนเหตุขโมยทรัพย์สินสนามบิน ประสานตำรวจ-จัดรปภ.ดูแล 24 ชม.
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง หลังจากประสบปัญหาผู้รับจ้างไม่เข้าทำงานว่า นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ ทย. ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล โดยยึดประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ พร้อมทั้งเร่งรัดให้จัดหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินการในส่วนงานที่ยังค้างอยู่ เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยว และผู้โดยสาร รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมด้วย
โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ทย.ได้พิจารณาอนุมัติบอกเลิกสัญญาจ้างกับบริษัท พอร์ท แอนด์ มารีน คอร์ปอเรชั่น (พี.เอ.เอ็ม) และมีหนังสือขอบอกเลิกสัญญาจ้างส่งถึงบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินการริบหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาโดยเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกัน วงเงิน 53 ล้านบาท และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหลักประกัน และการประเมินค่าเสียหาย โดยเงินหลักประกันดังกล่าว ทย. จะนำไปใช้ซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างรวมถึงปล่อยปละละเลยให้น้ำรั่ว ฝ้าพัง ต้นไม้ตาย และสายไฟถูกลักขโมยเสียหายและกรมฯได้ทำหนังสือแจ้งกรมบัญชีกลาง ขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) ผู้รับเหมาที่ทิ้งงานดังกล่าวด้วยแล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ทย. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาจ้าง อีกทั้งเร่งสำรวจตรวจสอบค่าเสียหายของงานจ้าง, สำรวจตรวจสอบและประเมินแบบที่ใช้ในการก่อสร้าง, ประเมินรายการปริมาณและราคาของสิ่งก่อสร้างคงเหลือ เพื่อคำนวณงบประมาณสำหรับดำเนินการจัดจ้างจากผู้รับจ้างรายใหม่ ซึ่งจะรายงานผลการประเมินความเสียหายภายใน 45 วัน ทั้งนี้ ทย. ได้เร่งรัดให้การก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทดสอบระบบ และเตรียมการเปิดใช้งานอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ภายในเดือนมีนาคม 2568
นายดนัย กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุขโมยทรัพย์สินท่าอากาศยานตรังนั้น ทย. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างใด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว ส่วนสาเหตุที่โจรสามารถเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในอาคารได้นั้น เกิดจากการที่ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง ซึ่งเมื่อผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน จึงทำให้เกิดการขโมยทรัพย์สินและอุปกรณ์สายไฟฟ้าได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน ทย. ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลาดตระเวนในช่วงเวลากลางวันตามรอบเวลา และบูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจภูธรเมืองตรังเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานตรังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม 5 นาย เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เพื่อรักษาทรัพย์สินของ ทย. และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขโมยทรัพย์สินภายในท่าอากาศยานตรังขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดมาตรการดูแลทรัพย์สินในท่าอากาศยานของ ทย. ทุกแห่งด้วย
