xs
xsm
sm
md
lg

BBGI ชี้ปี 68 ยอดขายเชื้อเพลิงชีวภาพโต รับรู้รายได้ธุรกิจใหม่ “SAF-CDMO”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • BBGI ซื้อหุ้น BBGI-BI อีก 30% ทำให้ถือครองหุ้น 100%
  • • ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป BBGI จะรับรู้กำไรจาก BBGI-BI เต็มจำนวน


BBGI โค้งสุดท้ายของปีธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพเป็นช่วงไฮซีซันการขาย หนุน Q4/67 ปริมาณขายโตต่อเนื่อง ประกอบกับการซื้อหุ้น BBGI-BI เข้ามาอีก 30% ทำให้ปัจจุบันถือครบ 100% จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มร้อยในเดือนธันวาคมเป็นต้นไป รองรับดีมานด์ไบโอดีเซลส่วนธุรกิจใหม่ โครงการ SAF และ CDMO งานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70% มองปี 68 ผลงานจัดเต็มต่อเนื่อง

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (HVP) เปิดเผยว่า ในปี 2568 ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพจะยังคงเติบโตจากยอดขายและปริมาณการขายที่อยู่ในระดับสูง ด้วยกลยุทธ์การใช้กำลังการผลิตเต็มกำลัง ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จึงมั่นใจธุรกิจหลักจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อหุ้น BBGI-BI เข้ามาเสริมทัพ ตอกย้ำผู้นำในอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ธุรกิจใหม่โครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 20% และโครงการธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (CDMO) ที่บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 75% คาดว่าการก่อสร้างของโรงงานจะแล้วเสร็จในปีหน้า หนุนการเติบโตของธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพในมิติใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการลดปริมาณคาร์บอนที่ส่งผลต่อภาวะเรือนกระจกได้เช่นเดียวกับธุรกิจไบโอดีเซลและเอทานอลได้อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ BBGI ปิดดีลการเข้าซื้อหุ้น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด หรือ BBGI-BI ได้สำเร็จ สนับสนุนสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 100% จากเดิมถือหุ้น 70% และจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรใน BBGI-BI เข้ามาเต็มจำนวนตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป สนับสนุนผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนจะพุ่งทะยานแตะ 1,000,000 ลิตรต่อวัน จากเดิม 700,000 ลิตรต่อวัน รองรับความต้องการกลุ่มบริษัทบางจาก

ปัจจุบันโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เป็นตามแผน ณ สิ้นเดือนตุลาคมความคืบหน้างานก่อสร้างไปแล้ว 70% คาดพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ COD ในช่วงไตรมาส 2/2568 รวมทั้งการบริหารตลอดห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ พร้อมรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากภาคธุรกิจและประชาชนผ่านปั๊มบางจากมากกว่า 233 แห่ง ตามโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และขยายเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม ทำให้มีความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบ มุ่งสู่เป้าหมายช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบิน โดยเห็นสัญญาณที่ดีจากหลากหลายประเทศส่งเสริมการใช้น้ำมัน SAF มากขึ้น โดยในปี 2568 จะมีในกลุ่มประเทศยุโรป อังกฤษ และอินเดียจะเริ่มมีการกำหนดสัดส่วนการผสมของ SAF

ขณะที่ความคืบหน้าธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (CDMO) ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนก่อสร้างไปแล้ว 70% คาดในเฟสแรกจะเริ่ม COD ภายในปีหน้า เป็นฐานด้านไบโอเทคโนโลยีแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ตลาดโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น