- • ถนนที่ซ่อมแซมแล้วทยอยเปิดให้สัญจรได้
- • ณ วันที่ 7 ธันวาคม ถนน 5 สายทางในยะลา ปัตตานี และพัทลุง ยังคงถูกน้ำท่วม
กรมทางหลวงชนบท เร่งซ่อมแซมถนนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ และสายบุรี จ.ปัตตานี ที่เสียหาย ทยอยเปิดให้สัญจรได้แล้ว อัพเดท 7 ธ.ค. ถนน 5 สายทาง “ยะลา ปัตตานี และพัทลุง”ยังถูกน้ำท่วม
วันที่ 7 ธ.ค. 67 นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ มีถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งขณะนี้พบทางที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนลดลง ซึ่งได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกสำรวจสายทางที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสายทางที่ถูกน้ำกัดเซาะผิวทางและไหล่ทาง เพื่อเร่งดำเนินการซ่อมแซมในเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้โดยเร็ว
ซึ่งการลงสำรวจดังกล่าวพบสายทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบ จำนวน 2 สายทางในจังหวัดปัตตานี ได้แก่ ถนนสาย ปน.2010 แยก ทล.42 – บ้านบาเซอา อำเภอโคกโพธิ์, หนองจิก, ยะรัง และถนนนสาย ปน.2033 แยก ทล. 42 - บ้านตะบิ้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทปัตตานี จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร ฯลฯ ลงซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดใช้สัญจรได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับสายทางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมปิดทับเส้นในปัจจุบัน (วันที่ 7 ธ.ค. 67 เวลา 10.00 น.) พบในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และพัทลุง จำนวน 5 สายทาง ดังนี้
1. จังหวัดยะลา จำนวน 3 สายทาง
- ถนนสาย ยล.004 สะพานมิตรภาพท่าธง-เกะรอ อำเภอรามัน (ช่วง กม.ที่ 0+251 ถึง 0+271)
- ถนนสาย ยล.5024 แยกทางหลวงชนบทสาย ยล.3041 – บ้านรัตนกิตติ 1 อำเภอบันนังสตา, ธารโต (ช่วง กม.ที่ 21+000 ถึง 21+030)
- ถนนสาย ยล.6039 ถนนสุขยางค์ – เลี่ยงเมืองเบตง อำเภอเบตง (ช่วง กม.ที่ 5+200 ถึง 5+400)
2. จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 สายทาง
- ถนนสาย ปน.6083 บ้านบือราแง - บ้านชะเมา อำเภอทุ่งยางแดง (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 4+606)
3. จังหวัดพัทลุง จำนวน 1 สายทาง
- ถนนสาย พท.5050 ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อำเภอควนขนุน, ระโนด (ช่วง กม.ที่ 12+050 ถึง 12+600, กม.ที่ 11+600 ถึง 12+050 และ กม.ที่ 13+500 ถึง 13+575)
อย่างไรก็ตาม ทช. ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมทั่วทั้งภูมิภาค และเฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทสายทางอื่นควบคู่กันไปด้วย ตลอดจนได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ ยานพาหนะในการรับส่งผู้ประสบภัยในกรณีน้ำท่วมสูงในสายทางให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะได้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที พร้อมทั้งได้มีการจัดเตรียมสิ่งของอุปโภค บริโภคเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้น
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146