- เพื่อให้ฉันช่วยคุณได้ โปรดให้รายละเอียดข่าวแก่ฉัน ฉันจะสรุปเป็นข้อๆ ให้ได้
ดร.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.(ทีเส็บ) เปิดเผยถึงเส้นทางสายไมซ์ใหม่ Bespoke in BKK , Be the best in Thailand เพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจกับพื้นที่เชื่อมโยง
กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยเป็น Familization Trip ผู้ประกอบการและสื่อมวลชน ปลุกพลังออกแบบสร้างสรรค์ประสบการณ์ไมซ์กรุงเทพมหานครและภาคกลาง 3 วัน 3 Theme โดยเริ่มจากวันแรกในคอนเซ็ปท์ LUXESCAPE BANGKOK สัมผัสประสบการณ์ Bespoke in Bangkok กับการเยี่ยมชมและทำกิจกรรมในสถานที่จัดงานและโรงแรมที่สามารถนำมาใช้ในการออกแบบประสบการณ์ที่มีความพร้อมในการรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ กับการผสมผสานการใช้พื้นที่จัดงานในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายทำให้กรุงเทพฯ เป็นหมุดหมายปลายทางอันดับต้นของโลกสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์
วันแรกทานอาหารเช้า ณ Library & Plug-in, ชั้น 9 และเยี่ยมชมโรงแรม Moxy Bangkok Ratchaprasong แล้วไป Jim Thompson House ชมพิพิธภัณฑ์และ Iconic Shop นอกจากชมพิพิธภัณฑ์ของสะสมและสินค้าของแบรนด์ Jim Thompson ที่นี้ยังมีห้องประชุมที่ได้รับการตกแต่งในรูปแบบไทยร่วมสมัย สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน อาทิ งานเลี้ยงอาหารค่ำหรือการจัดประชุมรับประทานอาหารกลางวัน เยี่ยมชมสถานที่จัดกิจกรรม ณ Jim Thompson Art Space Art Center แห่งใหม่ที่บริหารงานโดยบ้านจิมทอมป์สัน สามารถปรับเปลี่ยน Art Center แห่งนี้ให้กลายเป็นห้องประชุมหรือการจัดงานเลี้ยงรับรอง ในรูปแบบ Loft Style ไม่เป็นทางการมากนัก พร้อมชมงานศิลปะที่จัดแสดงแบบหมุนเวียนในพื้นที่
เยี่ยมชมสถานที่จัดกิจกรรม ณ อาคารเกษะโกมล และกิจกรรม workshop ทำเข็มกลัดจากกระดาษ โดย Oh My Craft แล้วออกเดินทางไปอยุธยาที่ร้านอาหารขาวละออ (Michelin Guide) ร้านอาหารไทยในบรรยากาศน่ารักอบอุ่นโอบล้อมด้วยสวนต้นไม้แสนร่มรื่นและได้รับการันตีความอร่อยจาก Michelin Guide ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยที่ปรุงมาจากสูตรลับ ตำรับคุณยายละออ มีเมนูพิเศษอย่างปลาทูยักษ์ทอดน้ำปลา เนื้อหวานอร่อยแบบปลาทะเล และยำช่อมาลีที่ใช้ดอกไม้และพืชผักที่ทางร้านปลูกเองมาชุบแป้งทอดจนกรอบ เสิร์ฟกับน้ำยำรสเด็ด ก่อนเข้าที่พัก Centara Ayutthaya ถือเป็น Largest MICE Space ในอยุธยา
วันที่ 2 ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ณ วัดแม่นางปลื้ม โบราณสถานเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 1920 สมัยขุนหลวงหระงั่ว พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ของกรุงศรีอยุธยา จวบจนปัจจุบันวัดแม่นางปลื้มมีอายุถึง 644 ปี แล้วเข้าโปรแกรม Timele Odysey Ayutthaya บรรยายโดยเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร ออกเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ เยี่ยมชมวัดและโบราณสถานที่สำคัญของพื้นที่นอกเกาะเมืองอยุธยา ไปที่วัดพระงาม โด่งดังเพราะมีซุ้มประตูวัดที่มีรากต้นโพธิ์ใหญ่เลื้อยพันปกคลุมมานานไม่ต่ำกว่าร้อยปี หรือที่ชาวอยุธยาเรียกว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” , วัดเชิงท่า สถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิพระปรางค์ห้ายอด วิหารและศาลาการเปรียญ รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังภาพเขียนสีแบบไทยเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นจิตรกรรมสีฝุ่น วรรณะสีเย็น เนื้อหาจิตรกรรมเป็นภาพพุทธประวัติ ทศชาติชาดก เทพชุมนุม ฮกลกซิ่ว
, วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรม แบบอยุธยาที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง สักการะ “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
ลงชมมรดกอันล้ำค่าของเครื่องทองอยุธยาโบราณ ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ทานอาหารกลางวัน ณ บ้านไทยคลองสระบัว สถานที่จัดงานไมซ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ริมสระบัวล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่และมีเรือนไทยหลังงามตกแต่งด้วยของเก่าหายากและมีคุณค่าทางศิลปะ
The Flow of Sweetness เรียนรู้การทำขนมไทย ขนมพระพาย the LostTtaste of Ayutthaya ณ บ้านขนมไทยไกลหวาน เรียนรู้การทำขนมไทยตำรับโบราณ ดำเนินการสอนโดยอาจารย์เผือก-ประเสริฐ จรรยชาติ เจ้าของเคล็ดลับวิชาที่ได้เปิดคอร์สสอนทำขนมไทย โดยใช้วัตถุดิบและเทคนิคดั้งเดิม
ต่อจากนั้นเดินทางไปยังร้านอาหารสุริยันจันทรา กิจกรรมล่องเรือโบราณ สุริยันจันทรา อายุกว่า 100 ปี ชมแม่น้ำน้อยยามเย็น และทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารสุริยันจันทรา ร้านอาหารริมแม่น้ำน้อย โดยได้พลิกโฉมโรงสีไฟ หรือโรงสีข้าวระบบไอน้ำเก่า อายุกว่า 130 ปี ให้เป็นร้านอาหารไทยร่วมสมัย และฟื้นเรือนไทยเป็นเลานจ์รับรอง มีบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมนูอาหารที่ได้รับการการันตีจาก Michelin Guide เช่น ของว่างอย่างถุงทองหรือช่อม่วงที่หน้าตาเหมือนดอกไม้ เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรือจะเป็นอาหารจานหลักอย่างปลาช่อนทอดสมุนไพรและกุ้งทอดซอสมะขาม DAY Two ในคอนเซ็ปท์ TIMELESS ODESSEY AYUTTHAYA เรียนรู้ความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองอยุธยามรดกแห่งความรุ่งเรืองในอดีตของไทย ผ่านงานหัตถศิลป์และวัดวาอารามที่สะท้อนความปรานีตของวิถีชีวิตผู้คนที่เมืองหลวงในอดีตแห่งนี้ อยุธยาถือว่าเป็นเมืองแห่งน้ำที่สองฝั่งน้ำเหล่านั้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวอยุธยาซึ่งจะปลูกสร้างบ้านเรือนเป็นกลุ่มๆ สลับไปกับวัดวาอาราม มีผังเมืองที่สมบูรณ์และสวยงาม
วันที่ 3 มาในคอนเซ็ปท์ THE FLOW OF ART AYUTTHAYA BANGKOK
สำรวจสถานที่จัดกิจกรรมโรงแรม Centara Ayutthaya และ Ayutthaya Hall แล้วเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน สถานที่จัดแสดงนิทรรศการงานฝีมือช่างของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรดา และผลงานศิลปหัตถกรรมของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ แบ่งการจัดแสดงเป็นหมวดหมู่ เช่น ห้องแสดงงานปีกแมลงทับสีเขียวเหลือบรุ้งวิจิตรสวยงาม ผนังตกแต่งด้วยงานสานย่านลิเภาสอดปีกแมลงทับ หรือห้องนิทรรศการใหญ่จัดแสดงงานฝีมือ อาทิ เครื่องเงินเครื่องทอง ลงยาสี หมู่เรือพระที่นั่งจำลองจากขบวนเรือพระราชพิธีและฉากไม้แกะสลักเรื่องสังข์ทองและหิมพานต์
แวะซื้อขนมสายไหมชื่อดังของอยุธยา เดินทางไปยัง The Artisan Ayutthaya คุณจะได้รู้จักอยุธยาในมิติใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ด้วยรสมือคนต้นตํารับแท้ ๆ ผ่านการต่อยอดภูมิปัญญาและสร้างคุณค่าให้กับวัตถุดิบในท้องถิ่น การปลุกหัวใจแม่ครัวรุ่นแม่ ป้า ย่า ยาย ให้สนุกกับการรังสรรค์รสชาติ ตำรับชาวบ้าน ได้อย่างไม่รู้จบขึ้นอีกครั้งกับอาหารตํารับชุมชนบ้านรุน ทานอาหารกลางวัน แล้วไปยังวัดบรมราชากาญจนาภิเษก อนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) สักการะสิ่งศักดิสิทธิ์ ที่วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) ตามแนวปรัชญาและคติธรรมทางศาสนาพุทธจีน นิกายฝ่ายมหายาน “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” หรือวัดเล่งเน่งยี่ 2 เป็นวัดที่มีความงดงามตระการตาและโดดเด่นในด้านของศิลปะและสถาปัตยกรรมจีน เป็นวัดคณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์และเป็นวัดที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมศิลปกรรมแบบจีน-ไทย ตามแบบอย่างพุทธศิลป์จีนชั้นสูงของวัดพุทธศาสนานิกายมหายาน