xs
xsm
sm
md
lg

“มนพร”สั่งลุยปรับโฉมสนามบินภูมิภาค ปรับแนวคิดเร่งขยายความยาวรันเวย์ รับเครื่องลำใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มนพร”สั่ง"ทย."ลุยปรับโฉมสนามบินภูมิภาค เพิ่มความสะดวกและความสะอาด โปรโมทแหล่งท่องเที่ยวโชว์อัตลักษณ์ท้องถิ่น ชูแนวคิด“ท่าอากาศยานมีชีวิต”ปรับแนวคิดเร่งขยายรันเวย์ รับเครื่องบินลำใหญ่ สร้างรายได้เพิ่ม

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและให้นโยบายกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาล คือการผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub) ซึ่งทย.เป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ไปสู่เป้าหมาย จึจึงให้ทย.เร่งขับเคลื่อน ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับการให้บริการ ให้สายการบินและผู้โดยสารมีความสะดวกสบายมากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่สนามบินกระบี่ สนามบินอุดรธานีและสนามบินพิษณุโลก เพื่อดูว่ามีปัญหาข้อติดขัดอะไรบ้างและนำมาทำแผนขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฎิบัติ และมีเป้าหมายให้สำเร็จภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน

โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน และระยะกลาง และระยะยาว โดยระยะเร่งด่วน ให้ดำเนินการทันที เป็นการแก้ไขและปรับปรุงเพื่ออำนวยความสะดวก โดยไม่ต้องใช้งบประมาณภายใต้แนวคิด“ท่าอากาศยานมีชีวิต ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน” โดยออกแบบตกแต่งภายในท่าอากาศยาน 7 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และตรัง ให้สอดคล้องกับความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด

“เช่น สนามบินกระบี่ จะมีการเพิ่มป้ายประชาสัมพันธ์สถานีที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ทะเลแหวก และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ และเนื่องจากกระบี่มีเที่ยวบินมาก เกิดปัญหากระเป๋าของสายการบินก่อนหน้าตกค้างบนสายพาน ต้องมีเจ้าหน้าที่สนามบินต้องคอยดูแล ,เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ ออกจากอาคาร ต้องมีป้ายแจ้งบริการ ตารางเดินรถ และราคา ของรถโดยสารหรือแท็กซี่ ที่เชื่อมจากสนามบินกับเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งต้องร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น การท่องเที่ยวฯ หอการค้า ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุง1-3 เดือน”

นอกจากนี้ ให้เร่งพัฒนาเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เร่งรัดงานก่อสร้างพัฒนาสนามบินที่ล่าช้าให้เสร็จตามแผน เร่งรัดการเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ เร่งรัดผลการศึกษา/ออกแบบท่าอากาศยานแห่งใหม่เพื่อเสนอให้ ครม. พิจารณา รวมทั้งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้งาน และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบตรวจจับวัตถุแปลกปลอม โดยสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ระยะกลาง (1 - 3 ปี) ให้ดำเนินโครงการตกแต่งภายในท่าอากาศยานทั้ง 7 แห่ง โดยใช้ งบประมาณปี 2569 เร่งรัดให้ทุกท่าอากาศยานได้รับใบรับรองสนามบินสาธารณะ โดยจัดทำแผนกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนที่ชัดเจน รวมทั้งการสร้างความสมดุลของรายได้ ด้วยการมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการบิน (Aera Revenue) ที่เหมาะสม เร่งรัดการเพิ่มรายได้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน (Non- Aero Revenue) เพื่อไม่ให้สร้างภาระหรือต้นทุนการเดินทาง และลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ด้วยการเร่งรัดให้มีและเพิ่มการให้บริการเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ การเปิดให้บริการ CIQ กับเที่ยวบินต่อเนื่อง connecting flight ในท่าอากาศยานหลัก

ส่วนระยะยาว ให้เร่งดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้จัดตั้งสนามบินใหม่ 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินมุกดาหาร สนามบินสตูล สนามบินกาฬสินธุ์ สนามบินบึงกาฬ สนามบินพัทลุง สนามบินพะเยา โดยให้ศึกษาออกแบบให้เหมาะสมและคุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากการก่อสร้างสนามบินต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมถึงศึกษาการเชื่อมโยงการเดินทางจังหวัดที่ใกล้เคียงเพื่อประกอบการลงทุนก่อสร้างที่คุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ให้เร่งจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ตามมติ ครม. ด้วย


@ปรับแนวคิด เร่งขยายความยาวรันเวย์ รับเที่ยวบินเพิ่ม

นางมนพรกล่าวว่า แนวคิดในการพัฒนาสนามบินต้องปรับปรุงให้เหมาะสม ซึ่งการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ แต่รันเวย์สั้น ทำให้รองรับเครื่องบินได้ไม่มาก เมื่อผู้โดยสารมีน้อยกลายเป็นลงทุนอาคารผู้โดยสารหลังใหญ่เกินความจำเป็น มีค่าบำรุงรักษาสูง จึงเห็นว่าควรเร่งการขยายรันเวย์ของสนามบินให้ยาวขึ้นเพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มได้มากกว่า และออกแบบอาคารผู้โดยสารไม่ให้มีขนาดใหญ่มากเกินไป ก็จะไม่สิ้นเปลืองงบประมาณด้วย

ปัจจุบันสนามบินของทย.ที่มีรายได้มาก คือ กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ขอนแก่น อุดรธานี แต่ก็ยังมีผู้โดยสารน้อย จึงให้พยายามหาทางบริหารสนามบินเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อมีเที่ยวบินเข้ามามากขึ้นผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นและทำให้มีรายได้มากขึ้นไปด้วย


นอกจากนี้ ได้กำชับให้ ทย. เร่งพัฒนาท่าอากาศยานในสังกัดทุกแห่ง ให้เป็นไปตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้กำหนดมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการบิน ทั้งด้านความปลอดภัย และคุณภาพของการให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร สายการบิน และนักลงทุนในระดับนานาชาติ และเชื่อมโยงการเดินทางอย่างไร้รอยต่อด้วยการขยายผลโครงการศูนย์ขนส่งต้นแบบไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ที่เหมาะสม ส่งเสริมการบริการระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงวางแผนให้มีระบบรางเข้ามาให้บริการภายในท่าอากาศยาน

พร้อมนี้ได้มอบให้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เช่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ องค์กรระหว่างประเทศ หรือการพัฒนาโครงการร่วมกับภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความสามารถการแข่งขัน รวมทั้งการฝึกอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ และการยกระดับระบบความปลอดภัยให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น


ทั้งนี้ จากการรับฟังรายงานผลการดำเนินงานและโครงการสำคัญของ ทย. จึงได้สั่งการให้ ทย. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับชื่นชมที่ ทย. เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอาวุธและวัตถุอันตรายประจำท่าอากาศยาน เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอาวุธและวัตถุอันตรายเปรียบเหมือนประตูด่านแรกในการให้บริการประชาชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร โดย ทย. ได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพ

และการให้บริการแก่พนักงานตรวจค้น (Screener) ทุกท่าอากาศยานในสังกัด เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพ ทักษะการสื่อสาร การให้บริการที่ดี ทักษะการบริหารจัดการอารมณ์ตนเองได้อย่างเป็นมืออาชีพ และการบริหาร การทำงานเป็นทีม รวมถึงเป็นเครือข่ายในการถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับจากโครงการให้แก่เพื่อนร่วมงานในสังกัด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการให้บริการขององค์กร ควบคู่ไปกับมาตรฐานด้านความ ปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น


กำลังโหลดความคิดเห็น