xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหนี้ 'การบินไทย' ไฟเขียวแก้แผนฟื้นฟูฯ 3 ฉบับ-โหวตเพิ่ม 2 ผู้บริหารแผนชนะฉิวเฉียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่ประชุมเจ้าหนี้ "การบินไทย" ลงมติเห็นชอบแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการฯ 3 ฉบับ และโหวตเสียงข้างมากตั้ง 2 ผู้บริหารแผนเพิ่มแบบฉิวเฉียด “ปิยสวัสดิ์” หวั่นขายหุ้นเพิ่มทุนอาจสะดุด ชี้สัญญาณรัฐแทรกแซง คาดมีเจ้าหนี้บางส่วนยื่นค้าน ศาลฯ นัด 12 ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อออกเสียงลงมติการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 ฉบับ โดยที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติเสียงข้างมากชอบการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการฯ ทั้ง 3 ฉบับ และจะมีการนำมติที่ประชุมเจ้าหนี้เสนอให้ศาลล้มละลายกลางให้ความเห็นชอบต่อไป

นายปิยสวัสด์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย เปิดเผยว่า การประชุมเจ้าหนี้ของการบินไทย ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอทั้ง 3 วาระ โดยในประเด็นการเพิ่มผู้บริหารแผนอีก 2 รายมีคะแนนใกล้เคียงกันมาก

วาระที่ 1 ให้อำนาจแก่ผู้บริหารแผนลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อนำไปล้างขาดทุนสะสม เห็นชอบ 87% หรือคิดเป็นมูลหนี้ 96,450 ล้านบาท และไม่เห็นชอบ 13% คิดเป็นมูลหนี้ 14,347 ล้านบาท รวมจำนวนหนี้ 110,797 ล้านบาท

วาระที่ 2 ให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ มีผู้เห็นชอบ 86% มูลหนี้ 94,482 ล้านบาท และไม่เห็นชอบ 14% มูลหนี้ 14,939 ล้านบาท รวมจำนวนหนี้ 109,421 ล้านบาท

วาระที่ 3 เพิ่มผู้บริหารแผนจำนวน 2 คน คือนายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง จากที่มีผู้บริหารแผนฯ อยู่แล้วในปัจจุบัน 3 คน โดยวาระนี้มีเจ้าหนี้รวมมูลหนี้ 107,552 ล้านบาท ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติเห็นชอบต่อแผนฯ ด้วยเสียงข้างมากเห็นชอบ 50.4% มูลหนี้ 52,210 ล้านบาท และไม่เห็นชอบ 49.6% มูลหนี้ 53,341 ล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปบริษัทจะเสนอผลการประชุมเจ้าหนี้ต่อศาลล้มละลายกลาง โดยศาลฯ ได้นัด 12 ธ.ค.นี้เพื่อให้ความเห็นชอบผลการประชุมเจ้าหนี้ โดยคาดว่าจะมีเจ้าหนี้ที่ลงมติไม่เห็นชอบยื่นคัดค้านทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งศาลฯ คงจะต้องนัดไต่สวนต่อไป

@ตีความ "คลัง" เป็นเจ้าหนี้หรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า ในที่ประชุมเจ้าหนี้ ตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ได้สอบถามว่าสถานะของกระทรวงการคลังเป็นอย่างไร ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่จดทะเบียนใหม่ของการบินไทย เพราะฉะนั้นก็ยังมีสิทธิ์โหวต

ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย การบินไทยมีความเห็นแย้งว่า ภาระหนี้ของกระทรวงการคลังยุติเมื่อแปลงหนี้เป็นทุนเมื่อ 25 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ผู้บริหารแผนฯ ได้มีมติไปเมื่อ 25 พ.ย.แปลงหนี้เป็นทุนของกระทรวงการคลังทั้ง 100% ส่วนเจ้าหนี้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้หุ้นกู้แปลงหนี้เป็นทุน 25% ในส่วนภาคบังคับ และในส่วนภาคสมัครใจก็มีการแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมด้วย

และต่อมาผู้บริหารแผนฯ ได้ยื่นรายละเอียดการแปลงหนี้ฯ ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ หลังจากนั้นก็ยื่นไปที่ศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 26 พ.ย. และวันที่ 27 พ.ย.ศาลฯ ก็มีคำสั่ง ต่อมาก็ส่งไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อจดทะเบียนทุนใหม่

“มีความเห็นแตกต่างกัน นักกฎหมายบางท่านก็ตีความว่ากระทรวงการคลังไม่ได้เป็นเจ้าหนี้การบินไทยตั้งแต่ผู้บริหารแผนมีมติแล้ว แต่บางรายก็มองว่ากระทรวงการคลังพ้นจากการเป็นเจ้าหนี้ในวันที่ศาลฯ มีคำสั่งเมื่อ 27 พ.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ชี้ขาดให้กระทรวงการคลังโหวตได้” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ทางกระทรวงการคลังตีความว่ายังคงสถานะเป็นเจ้าหนี้เมื่อยังไม่มีการจดทะเบียนใหม่หลังแปลงหนี้เป็นทุน ซึ่งเป็นที่มาของการที่กระทรวงการคลังขอให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการจดทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะเป็นประเด็นถกเถียงกันต่อไป คงต้องให้ศาลฯ  เป็นผู้พิจารณา

แต่คาดว่าประเด็นนี้จะไม่กระทบแผนฟื้นฟูของการบินไทย โดยมีกำหนดยื่นออกจากแผนในไตรมาส 2/68 แต่สิ่งสำคัญคือต้องการให้มีการลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสม ไม่ให้มีผลต่องบกำไรขาดทุน เพื่อให้จ่ายเงินปันผลได้ ไม่เช่นนั้นต้องรออีก 10 ปี เพราะหากออกจากแผนแล้วค่อยไปลดพาร์จะมีความยุ่งยากมากกว่า เพราะฉะนั้นก็ยังมีเวลาหลายเดือนสามารถให้ศาลวินิจฉัยเห็นชอบออกจากแผน เบื้องต้นเห็นว่าขั้นตอนการลดพาร์ไม่ควรเกินเดือน มี.ค. 68

โดยประเด็นลดพาร์และจ่ายเงินปันผล คาดว่าผู้คัดค้านเป็นเจ้าหนี้ธนาคารแห่งหนึ่ง


@หวั่นขายหุ้นเพิ่มทุนอาจสะดุดหลังมีสัญญาณรัฐแทรกแซง

นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า จากการเพิ่มผู้บริหารแผน 2 รายที่มาจากภาครัฐเป็นสัญญาณว่าการบินไทยจะถูกครอบงำและแทรกแซงจากภาครัฐเช่นเดียวกับในอดีต จึงคาดว่าน่าจะมีผลกระทบการขายหุ้นเพิ่มทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่เป็น High Net Worth เพราะเป็นประเด็นที่วิตกกังวลมากที่จะมีการครอบงำ แทรกแซงจากรัฐ โดยบริษัทจะเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 6-12 ธ.ค.นี้ เกรงว่าอาจไม่สามารถระดมทุนได้ตามที่ตั้งเป้าไว้

“น่าเป็นห่วง การขายหุ้นเพิ่มทุนอาจจบไม่สวย ไม่ได้เงินเท่าที่ควร กลุ่มนักลงทุน High Net Worth ไม่เกิน 50 รายแสดงความวิตกเรื่องนี้มาก” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

ช่วงทำโรดโชว์หลายครั้งกับผู้ถือหุ้นเดิมก็มีคำถามถึงบทบาทภาครัฐที่มีต่อการบินไทยในระยะต่อไป ซึ่งทุกคนกลัวมาก ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ รวมถึงมีผลกระทบต่อความมั่นใจในการเลือกกรรมการบริษัทด้วยที่จะบริหารบริษัทต่อไป

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 67 ระบุว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นที่กระทรวงการคลังจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของการบินไทยขึ้นมาหารือด้วย

ทั้งนี้ การบินไทยประเมินว่าหากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเพิ่มทุนเต็ม 100% จะทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นดังนี้

1. กระทรวงการคลังและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีสัดส่วนถือหุ้น 37.5% จากเดิม 49.99%

2. กองทุนวายุภักษ์ ถือ 2.8% จากเดิม 7.6%

3. ธนาคารกรุงเทพ ถือ 7.4% จาก 0.4%

4. ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างทุน ลดเหลือ 2.8% จากเดิม 42%

5. เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการถือ 37.1%

6. ผู้ถือหุ้นเดิม พนักงานและ PP ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ถือ 12.5%

บริษัทจะแจ้งผลการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 19 ธ.ค.นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น