xs
xsm
sm
md
lg

เจาะ9 เทรนด์การเดินทางปี 68 รับค่าครองชีพสูง-โลกร้อน-สุขภาพกายใจแย่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ค่าครองชีพสูง โลกร้อน สุขภาพกายและใจย่ำแย่ เป็น 3 คีย์หลัก ไขเทรนด์การท่องเที่ยวในหน้า โดย Booking.com เผยถึง 9 เทรนด์การเดินทางในปี 2568 จะเป็นปีแห่งการท่องโลกแบบใหม่ ของทั้งผู้เดินทาง Gen Y และเบบี้บูมเมอร์ พร้อมนิยามการเดินทางของตัวเองใหม่ ฉีกกรอบเดิมเพื่อเติมเต็มตัวตน 


นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีน ของ Booking.com เปิดเผยว่า จากเทรนด์การท่องเที่ยวในปี 67 ที่มองว่า การท่องเที่ยวคือชีวิต แต่เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น สภาพอากาศที่ร้อนและมลภาวะที่แย่ลง ส่งผลถึงสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้า กลายเป็นเหตุผลสำคัญทำให้เกิดเป็น 9 เทรนด์การท่องเที่ยวใน 2568 โดยเทรนด์ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ดีต่อสุขภาพกายและใจ และเป็นการท่องเที่ยวสำหรับทุกคน

โดยทาง Booking.com ได้เผยสำรวจการคาดการณ์เทรนด์การเดินทางในปี 2568 ว่า จะเป็นปีแห่งการท่องโลกแบบใหม่ของทั้งผู้เดินทางเจนวาย (Gen Y หรือ มิลเลนเนียล) ที่กำลังมองหาความบันเทิงใหม่ๆ ในสนามบินตลอดจนเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) ผู้มองหาความตื่นเต้น โดยได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เดินทางทั่วโลกมากกว่า 27,000 คน จาก 33 ประเทศ นำมาซึ่ง 9 เทรนด์การเดินทางที่จะเกิดขึ้น อันได้แก่

1. เปิดโลกการเดินทางใหม่ด้วย AI : ในปี 2568 เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จะมีบทบาทสำคัญต่อการเดินทาง ทั้งการวางแผนการเดินทาง ค้นหาจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่และมีเอกลักษณ์ ช่วยให้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่จุดหมายปลายทางได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งพบว่า 83% คนไทยจะใช้เทคโนโลยีเพื่อค้นหาข้อมูลและสัมผัสประสบการณ์แบบท้องถิ่นแท้ๆ และกว่า 75% ใช้เทคโนโลยีค้นหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักและไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน อีก 54% สนใจลองใช้ AI ในการคัดสรรสิ่งต่างๆ สำหรับการวางแผนทริป

2. ทริปเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่ : ผู้เดินทางจะหันมาให้มรดกลูกหลานด้วยประสบการณ์จากการเดินทางแทนการให้เงินมากขึ้น เรียกว่า ‘SKI’ (Spending Kids’ Inheritance) ‘การจ่ายเงินสร้างประสบการณ์ให้ลูกหลานมากกว่าการเก็บเป็นมรดก‘ โดยพบว่า คนไทย 40% ใช้จ่ายเงินไปกับทริปครอบครัวเพื่อสร้างประสบการณ์ ‘ครั้งเดียวในชีวิต’ มากกว่าเก็บเงินไว้เป็นมรดกให้แก่ลูกหลาน และเทรนด์นี้จะนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ โดย 96% ยินดีที่จะออกค่าใช้จ่ายให้ลูกหลานสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป และ 78% ระบุว่าผู้ปกครองของพวกเขาเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางพักผ่อน แม้ว่าพวกเขาจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้วก็ตาม

“เนื่องจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ทริปการเดินทางแบบครอบครัวใหญ่จะมีสูงขึ้น อยากใช้เงินกับการท่องเที่ยวในครอบครัวมากกว่าให้เงินลูกหลาน โดย 47% มีกลุ่มมิลเลนเนียลหรือเจนวาย เป็นผู้นำวางแผนการเดินทางของครอบครัว ส่วนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์มี 23% มีส่วนร่วมวางแผนเล็กน้อย ขณะที่ที่พัก อันดับ 1 คือ โรงแรม 40% และรีสอร์ท 52% อีก 10% เป็นที่พักเชิงวัฒนธรรม”


3. ทริปใหม่แต่ไอเท็มเดิม : เที่ยวแบบช้อปของมือสองเพื่อใช้ระหว่างทริปมากขึ้น เพราะค่าครองชีพสูงขึ้น การจัดทริปจึงมุ่งควบคุมค่าใช้จ่าย โดยพบว่า 76% จะซื้อเสื้อผ้าช่วงเดินทางมากกว่าก่อนเริ่มทริป โดยเฉพาะกลุ่มเจนซีมีมากถึง 81% และกว่า 53% สนใจซื้อเสื้อผ้ามือสองระหว่างการเดินทาง ขณะที่ 88% เคยซื้อมือสองจากต่างประเทศ

4. ทริปหลบร้อนท่ามกลางแสงดาว : ‘เทรนด์หนีร้อนไปพึ่งเย็น’ มาแรงตั้งแต่ในปี 2567 และในปี 2568 ผู้เดินทางยังคงมองจุดหมายปลายทางหนีความร้อนเหมือนเดิม แต่จะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในยามค่ำคืนมากขึ้น โดยพบว่า 73% ชาวไทยสนใจเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่มืดและสงบ พร้อมกับความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ 85% ต้องการนอนชมดาว, 81% ต้องการไกด์นำเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ และ 74% สนใจทราบตำแหน่งและวิธีการมองหากลุ่มดาวต่างๆ

5. ชะลอใจ ชะลอวัย : ในปี 2568 ผู้เดินทางสนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากยิ่งขึ้น มองเป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิต ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง อ่อนเยาว์ และใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยพบว่า 81% ยินดี “ซื้อสุขภาพ” ผ่านการเดินทางท่องเที่ยว และ 85% มองหากิจกรรมเพื่อสุขภาพที่สามารถนำมาผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน อีก 69% สนใจกิจกรรมบำบัดเพื่ออายุที่ยืนยาวในระหว่างการเดินทาง ฟื้นฟูร่างกายให้มีสุขภาพดีขึ้น เช่น การบำบัดด้วยความเย็น 82%, ความสั่นสะเทือนทั่วร่างกาย 77% และการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ 70%

6. ทริปชายแท้ แต่ตีความใหม่ : ปี 2568 ผู้ชายจะออกจากกรอบทริป ‘ลูกผู้ชาย’ แบบเดิมๆ ให้ความสำคัญกับแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอบายมุขต่างๆ น้อยลง เน้นเรื่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาตัวเอง ยอมรับและก้าวข้ามอุปสรรคภายในใจของตนเอง และเหตุผลอื่นๆ แทน หรือเป็นทริปที่ต้องการลดความเครียดในชีวิตประจำวัน 31%, เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย 42%, เพื่อความสงบสุขทางใจและสุขภาพจิตที่ดี 28%, และเพื่อการพัฒนาตัวเอง 29%


7. เริ่มต้นเที่ยวได้ แม้ในสนามบิน : เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับสนามบินใหม่ ให้เวลากับสนามบินมากขึ้น ใช้สนามบินเป็นโลเกชั่นของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว มองหาความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ ที่มีในสนามบิน โดยพบว่า 82% รู้สึกดีมากขึ้นและเครียดน้อยลง หากมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่สนามบินให้เลือกใช้ก่อนขึ้นเครื่องบิน, 73% สนใจที่จะไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์ค ในสนามบิน หากมีเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจ, 77% สนใจสนามบินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นเอกลักษณ์และสร้างประสบการณ์ได้ดี มากกว่าสนามบินที่ไม่มี ซึ่งพบด้วยว่ากลุ่มเจนซีและเจนวายเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์นี้ให้เป็นที่นิยม

โดย 75% ให้ความสำคัญกับการพิจารณาเลือกจุดหมายปลายทาง นำสนามบินของจุดหมายนั้นๆ มาเป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะสิ่งอำนวยความสะดวกที่พวกเขาให้ความสนใจ ได้แก่ โรงแรมแคปซูลในสนามบิน ร้านสปาในสนามบิน หรือแม้แต่ร้านอาหารระดับดาวมิชลิน


8. การเดินทางที่พิเศษของคนที่มีความต้องการพิเศษ : ในปี 2568 กระแสความเท่าเทียมและการสร้างแนวทางที่หลากหลายสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะผู้มีความหลากหลายทางระบบประสาทจะเพิ่มสูงขึ้น พวกเขาจะหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ขณะเดินทาง เพื่อลดความวิตกกังวลของตัวเองและเพื่อนร่วมเดินทางของพวกเขา

โดยพบว่า 65% ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เพราะเคยมีประสบการณ์เชิงลบระหว่างการเดินทาง, 76% ชี้ว่าพวกเขาถูกจำกัด จากความแตกต่างของพวกเขา, 77% สนใจเครื่องมือ AI ที่สรุปข้อมูลการเดินทางให้สั้นและตามเวลาจริง, 74% ให้ความสำคัญกับห้องกิจกรรมบำบัดเพื่อกระตุ้นการรับรู้ประสาทสัมผัสของกลุ่มคนพิเศษ ในสนามบิน โรงแรม รวมถึงสถานที่อื่นๆ และ 83% ต้องการตัวเลือก “ปิดกั้นเสียงรบกวน” ระหว่างการเดินทางเพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของพวกเขาด้วย

9. ท้าทายขีดจำกัดเรื่องอายุ : ภาพจำของการเกษียณอายุจะไม่เหมือนเดิม ไม่ทิ้งความสนุกไปกับอายุที่ผ่านไป สนใจท่องเที่ยวแบบผจญภัยมากขึ้น โดยกำหนดนิยามใหม่ให้กับการเดินทางในช่วงบั้นปลายชีวิต เพื่อแสดงให้เห็นว่าการผจญภัยไม่มีขีดจำกัดของอายุ ซึ่งพบว่า 46% พร้อมปล่อยใจ ไม่เข้มงวดกับตัวเองเกินไป และกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ชาวไทย 35% สนใจลองขี่ม้า, 32% ต้องการล่องเรือแคนูไปตามแม่น้ำที่มีชื่อเสียง และ 25% สนใจการเดินป่า และการโต้คลื่นบนทราย

“ในปี 2568 ผู้เดินทางจะใช้การเดินทางของพวกเขาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง เติมเต็มความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกับโลกที่อยู่รอบตัวพวกเขา โดยผู้เดินทางเพศชายกำลังมองหาการเดินทางที่ท้าทายแนวคิดเรื่องบทบาททางเพศแบบเดิมๆ รวมถึงส่งเสริมสุขภาพจิตของพวกเขามากขึ้น ขณะที่เกือบ 1 ใน 5 ของกลุ่มผู้เดินทางกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ชาวไทยปฏิเสธที่จะปล่อยให้อายุมาเป็นข้อจำกัดในการตามหาประสบการณ์ใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นการทำลายกรอบความคิดเรื่องการเดินทางเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทาง Booking.com เชื่ออย่างแท้จริงว่า เทคโนโลยีและจินตนาการกำลังมารวมกันเพื่อสร้างยุคใหม่ของการเดินทาง และท้ายที่สุดไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร พวกเรายังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างในแบบของตัวเองได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นในปี 2568 และในปีต่อๆ ไป” นางสาวมิเชล กล่าว.


กำลังโหลดความคิดเห็น