- • ธุรกิจการท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น
- • มีแนวโน้มการแสวงหาการรับรองความยั่งยืนจากหน่วยงานภายนอก
- • โปรแกรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกำลังพัฒนาเพื่อสนับสนุนที่พัก
- • เป้าหมายคือการเพิ่มโอกาสให้กับที่พักที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
ผู้จัดการรายวัน 360 - ด้วยแนวโน้มของธุรกิจในแวดวงการเดินทาง ที่มุ่งมั่นไปสู่การได้รับความรับรองแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนจากบุคคลที่สามโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนที่พัฒนาไปอีกขั้นนี้ มีเป้าหมายในการเพิ่มโอกาสให้แก่ที่พักคู่ค้า ให้ได้รับใบรับรองด้านความยั่งยืนได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ความยั่งยืนถือเป็นสิ่งที่มีบทบาทในการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมการเดินทาง และธุรกิจในแวดวงต่างให้ความสำคัญกับการได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนจากหน่วยงานภายนอกหรือบุคคลที่สามเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน Booking.com หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเดินทางระดับโลกจึงประกาศความคืบหน้าและเป้าหมายในการพัฒนาโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนไปอีกขั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือ ให้คำแนะนำกับที่พักคู่ค้าที่ต้องการดำเนินธุรกิจตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความยั่งยืนอย่างถูกต้อง รวมถึงได้รับใบรับรองจากหน่วยงานเหล่านั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น
การพัฒนาโปรแกรมดังกล่าว ยังเป็นการตอบโจทย์ผู้เดินทางชาวไทย และผู้เดินทางทั่วโลกที่กำลังมองหาความชัดเจนและความสม่ำเสมอของผู้ให้บริการที่พักที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยที่พักที่ได้รับการรับรองว่ามีแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนเป็นที่ต้องการของผู้เดินทางชาวไทยถึง 63%* (และเป็นที่ต้องของ 45% ของผู้เดินทางทั่วโลก) และ 78%* ของผู้เดินทางชาวไทยเห็นพ้องกันว่าเว็บไซต์การจองที่พักและการเดินทางทั้งหมดควรมอบป้ายสัญลักษณ์สำหรับรับรองที่พักที่มีแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนในมาตรฐานเดียวกัน
อย่างไรก็ตามป้ายสัญลักษณ์เหล่านี้ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแวดวงผู้ให้บริการที่พัก ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นจากที่พักคู่ค้าของ Booking.com พบว่า 63%** ระบุว่าต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานด้านความยั่งยืนที่สามารถประเมินและมอบใบรับรองด้านความยั่งยืนในพื้นที่การดำเนินธุรกิจของพวกเขา ขณะที่ 75%** ต้องการทราบรายละเอียดเรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความยั่งยืนที่พวกเขาต้องปฏิบัติให้สำเร็จ โดยโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนจาก Booking.com จะช่วยไขข้อสงสัยต่าง ๆ ให้แก่ที่พักคู่ค้าด้วย
เนื่องด้วยที่พักคู่ค้าจำนวน 24%** ระบุว่าพวกเขามีความกังวลด้านค่าใช้จ่ายของป้ายสัญลักษณ์จากบุคคลที่สามอาจมีราคาสูงเกินไป Booking.com จึงได้จัดเตรียมข้อมูลขององค์กรที่มอบเงินทุนสนับสนุน ส่วนลดค่าธรรมเนียมเมื่อสมัครสมาชิกอย่างต่อเนื่องไว้ด้วย นอกจากนี้ที่พักคู่ค้ายังสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนได้จากเว็บไซต์ของ Booking.com เช่น บทความด้านความยั่งยืนจากพาร์ทเนอร์, คู่มือสำหรับการให้บริการที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น รวมถึงคอร์สเรียนออนไลน์ที่ร่วมพัฒนากับการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism)
โปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนสำหรับที่พักคู่ค้าของ Booking.com
• ที่พักคู่ค้าแต่ละแห่งสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่จะแนะนำพวกเขาเกี่ยวกับใบรับรองด้านความยั่งยืจากบุคคลที่สามซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับลักษณะ ความต้องการ และการดำเนินธุรกิจของที่พักนั้น ๆ ผ่านระบบเอกซ์ทราเน็ตของ Booking.com
• ระหว่างการทดสอบของโปรแกรมในช่วงแรก จะมีข้อมูลการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ เพียงบางราย หรือบางข้อมูลเท่านั้นที่จะถูกแสดงบนหน้าที่พักคู่ค้า โดยผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านความยั่งยืนอย่าง BeCause จะช่วยให้ทั้งที่พักคู่ค้าและหน่วยงานผู้ให้การรับรองสามารถแบ่งปันข้อมูล ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นในจำนวนมากได้ง่ายขึ้น
• ที่พักคู่ค้าจะได้รับคำแนะนำและการเข้าถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างยั่งยืนในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารจัดการน้ำ ขยะจากเศษอาหาร พลังงาน พลาสติก และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืนโดยคำแนะนำจะถูกจัดทำขึ้นโดยอ้างอิงจากรายละเอียดการตอบคำถามของที่พักคู่ค้าในแบบสอบถามซึ่งจะรวบรวมเอกลักษณ์ของที่พัก ที่ตั้ง รวมถึงความพยายามและความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจตามแนวปฏิบัติอย่างยั่งยืน
• Booking.com จะแสดงป้ายสัญลักษณ์การรับรองด้านความยั่งยืนให้แก่ที่พักคู่ค้าที่ได้รับใบรับรองด้านความยั่งยืนจากหน่วยงานภายนอกบนหน้าโปรไฟล์ และมีฟิลเตอร์สำหรับค้นหาที่พักที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์ดังกล่าวซึ่งจะทำให้ผู้เดินทางสามารถค้นหาที่พักที่ที่ต้องการได้สะดวกมากขึ้น ในปัจจุบันมีที่พักคู่ค้าของ Booking.com ได้รับใบรับรองจากบุคคลที่สามกว่า 18,000 แห่ง
“ผู้เดินทางชาวไทยจำนวน 94% ยืนยันว่าการเดินทางอย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่อพวกเขา และพันธกิจของ Booking.com ในการสนับสนุนที่พักคู่ค้าแต่ละแห่งให้สามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนจะช่วยให้ผู้เดินทางมีตัวเลือกในการค้นหาที่พักมากขึ้น” Danielle D’Silva ผู้ดำรงตำแหน่ง Director of Sustainability ของ Booking.com กล่าว
“แม้ที่พักคู่ค้าหลาย ๆ แห่งจะมีความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน แต่มีที่พักอีกจำนวนไม่น้อยระบุว่าการเริ่มปฏิบัติตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความยั่งยืนหรือการมองหาหน่วยงานที่สามารถมอบใบรับรอ ที่เหมาะสมกับที่พักของพวกเขายังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้พวกเขาได้มีความรู้เพิ่มขึ้นในการตัดสินใจและก้าวต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เป้าหมายสูงสุดของเราจึงเป็นการช่วยเพิ่มจำนวนที่พักที่ได้รับใบรับรองจากบุคคลที่สามและยังคงความหลากหลายของทางเลือกที่มีอยู่ในตลาด”
Booking.com มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อให้การเดินทางอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นในอุตสาหกรรมการเดินทางและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ผ่านความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรอิสระอย่างหลากหลาย อาทิ สภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก (Global Sustainable Tourism Council: GSTC)
การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) และ Travalyst โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ผู้เดินทางต้องตัดสินใจเลือกที่พักที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมถึงอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งที่พักคู่ค้าและภาคส่วนอื่น ๆ ต้องเผชิญในการดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากการพัฒนาโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนแล้ว Booking.com ยังคงเดินหน้าทำหน้าที่สนับสนุนการเดินทางอย่างยั่งยืนซึ่งที่พักคู่ค้า
ผู้เดินทาง และผู้เล่นในแวดวงการเดินทางกำลังร่วมมือกันเพื่อให้ความอย่างยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้ทุกคนสามารถออกไปสัมผัสโลกกว้างได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล
*การสำรวจข้อมูลนี้จัดทำโดย Booking.com โดยสำรวจความคิดเห็นกับกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 31,550 คนใน 34 ประเทศและดินแดน (โดยแบ่งเป็น 1,000 คนจากสหรัฐอเมริกา, 1,000 คนจากแคนาดา, 1,000 คนจากเม็กซิโก, 1,000 คนจากโคลอมเบีย, 1,000 คนจากบราซิล, 1,000 คนจากอาร์เจนตินา, 1,000 คนจากออสเตรเลีย, 500 คนจากนิวซีแลนด์, 1,000 คนจากสเปน, 1,000 คนจากอิตาลี, 1,000 คนจากฝรั่งเศส, 500 คนจากสวิตเซอร์แลนด์, 1,000 คนจากสหราชอาณาจักร, 1,000 คนจากไอร์แลนด์, 1,000 คนจากเยอรมนี, 1,000 คนจากเนเธอร์แลนด์, 1,000 คนจากเบลเยียม, 1,000 คนจากเดนมาร์ก, 1,000 คนจากสวีเดน, 950 คนจากโครเอเชีย, 500 คนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, 1,000 คนจากอินเดีย, 1,000 คนจากจีน, 800 คนจากฮ่องกง, 1,000 คนจากไทย, 1,000 คนจากสิงคโปร์, 1,000 คนจากไต้หวัน, 1,000 คนจากเวียดนาม, 1,000 คนจากอินโดนีเซีย, 1,000 คนจากฟิลิปปินส์, 1,000 คนจากเกาหลีใต้, 1,000 คนจากญี่ปุ่น, 1,000 คนจากแอฟริกาใต้ และ 300 คนจากเคนยา) ในการเข้าร่วมการสำรวจ กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องเคยเดินทางอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และต้องกำลังวางแผนการเดินทางในปี 2567 รวมทั้งเป็นผู้ตัดสินใจหลักหรือมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเดินทางของตนเอง แบบสอบถามนี้เปิดให้ทำทางออนไลน์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
**ข้อมูลนี้จัดทำโดย Booking.com โดยสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างผู้ให้บริการที่พัก 5,340 แห่งใน 18 ประเทศ (โดยเป็นที่พักคู่ค้าในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส โปรตุเกส ออสเตรีย โครเอเชีย กรีซ บราซิล เม็กซิโก ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ไทย และอินเดีย) โดยแบบสอบถามนี้เปิดให้ทำทางออนไลน์ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2567