xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอย KIHA183 สู่ฮอกไกโด ชม “อาซาฮิคะวะ”เมืองรองที่ปั้นเศรษฐกิจ ผ่านการท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • อาซาฮิคะวะ เมืองรองในฮอกไกโด ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว เป็นประเด็นหลักของข่าว
  • • การท่องเที่ยวโดยรถไฟ KIHA183 เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วยให้เข้าถึงเมืองได้สะดวก
  • • เมืองอาซาฮิคะวะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ (รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวอาจไม่ได้ระบุชัดในข่าวต้นฉบับ)
  • • บทเรียนความสำเร็จของอาซาฮิคะวะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเมืองรองอื่นๆได้ เป็นข้อเสนอแนะจากเนื้อข่าว


รถไฟญี่ปุ่นคลาสสิก KIHA183 กลายเป็นขบวนท่องเที่ยวสุดฮิต  จองเต็มตลอดปี  อีกช่องทางสร้างรายได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เสน่ห์ของ KIHA183  ไม่ได้อยู่แค่ความสวยงาม รูปลักษณ์ สีสัน และคุณภาพที่โดดเด่น แต่คือเรื่องราวความเป็นมาอันยาวนาน  รถไฟรุ่นนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น  สร้างและพัฒนาโดยการรถไฟแห่งชาติญี่ปุ่น (JNR)  สะท้อนถึงมาตรฐานและคุณภาพที่เหนือระดับ  

เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาสไปเยือนบ้านเกิดของ KIHA 183 ที่ฮอกไกโด ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟหลายแห่ง รถไฟที่ปลดระวางแล้วล้วนเป็นความทรงจำที่สวยงามของคนญี่ปุ่น ทุกครั้งที่มีการขอรับเงินบริจาคเพื่อสร้างและปรับปรุงสถานที่จัดเก็บดูแลบำรุงรักษารถไฟเก่า ทุกคนจะพร้อมใจกันสละเงินเพื่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้มรดกทางประวัติศาสตร์รถไฟ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของคนญี่ปุ่น หรือสถานีรถไฟบางแห่งคนญี่ปุ่นยังมีส่วนร่วมในการสร้าง ด้วยการร่วมกันบริจาคเงิน เช่น ที่สถานี Asahikawa จึงมีการสลักชื่อผู้บริจาคไว้บนผนัง เป็นอีกปรากฏการณ์ในการสร้างสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมที่น่าสนใจมาก

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเส้นทางชีวิตคนญี่ปุ่นอยู่กับรถไฟตั้งแต่เกินจนวันสุดท้ายของชีวิต คนฮอกไกโดจะใช้รถไฟในการเดินทางเป็นหลัก มีบางเมืองเท่านั้นที่ต้องเดินทางด้วยรถประจำทางหรือรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น

ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสมบูรณ์มาก คนญี่ปุ่นจึงนิยมมาตากอากาศหรือย้ายมาทำงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นมาก โดยเฉลี่ยจะมีหิมะท่วมอยู่ทั่วไปประมาณ 4-6 เดือน เทศกาลหิมะซัปโปโรจึงเลื่องชื่อเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ และสถานที่เล่นสกีก็มีอยู่มากมายเช่นเดียวกับบ่อน้ำร้อนที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบทำรายได้มหาศาลให้แก่คนในฮอกไกโด ในช่วงฤดูร้อนที่นี้ก็เย็นสบายเป็นที่ชมธรรมชาติ ป่าเขา เรียกว่าเที่ยวได้ทุกฤดู เป็นที่หนึ่งในใจของคนที่รักธรรมชาติก็ว่าได้ เพราะมีครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ป่า ภูเขา ทะเล ทะเลสาป ภูเขาไฟ บ่อน้ำผุร้อน

ที่น่าสนใจที่แห่งนี้ยังได้รับฉายา
"ครัวแห่งญี่ปุ่น" เพราะเป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งผลิตข้าวญี่ปุ่น อาหารทะเลสดๆ และผักผลไม้คุณภาพสูง ข้าวปลาอาหารรสชาติดี ราคามิตรภาพ จึงไม่แปลกที่ฮอกไกโดจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้ง อาซาฮิคะวะ: เมืองแห่งศิลปะ  ธรรมชาติ  และสาเกชั้นเลิศ

ฮอกไกโดนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างซัปโปโล คลองโอตารุแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ในเมืองรองที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง  อย่างเช่น อาซาฮิคะวะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของฮอกไกโด มีแม่น้ำไหลผ่านมากกว่า 100 สาย วิว ทิวทัศน์สองข้างทางระหว่างเดินทางโดยรถไฟจึงสวยงามไปด้วยธรรมชาติของใบไม้เปลี่ยนสีและสายน้ำจำนวนมาก สลับกับพื้นที่ทำการเกษตรที่อยู่ใกล้กับเชิงเขา

อาชาฮิคะวะเป็นเมืองที่ยังคงศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ไว้มากมาย หากเดินจากสถานีรถไฟอาชาฮิคะวะผ่านเส้นหลักตลอดถนนเฮวะหรือถนนสันติภาพจะตื่นตาตื่นใจกับรูปแกะสลักมากมาย สะท้อนให้เห็นว่าอาซา
ฮิคะวะคือแหล่งฝึกฝนเรียนรู้ของศิลปิน ช่างหัตถกรรมฝีมือ และช่างแกะสลักผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นความมหัสจรรย์ทางธรรมชาติ เช่น สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond)หรือเรียกอีกอย่างว่า “สระน้ำสีฟ้า” เป็นสระที่มีสีฟ้าสดใส ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขาโทกาชิ เมืองบิเอะ โดยเล่ากันว่าสามารถเหตุที่น้ำเป็นสีฟ้าเนื่องจากในน้ำมีสารอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟอยู่จำนวนมากทำให้น้ำมีสีฟ้า เวลาสะท้อนกับแสงสระจึงมีสีฟ้าสดใส เป็นสถานที่สวย ๆ ที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปสามารถเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Biei จากนั้นต่อรถบัสสาย Biei-Shirogane Onsen ไปลงที่ Shirogane Aoiike Iriguchi อีกหมุดหมาย ที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปทำCONTENT คือ สวนชิคิไซ โนะ โอคะ (สวนโฟร์ซีซันฮิลล์)เป็นสวนดอกไม้บนเนินที่มีพรมดอกไม้บานตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม มีทั้งดอกทิวลิป ลูพิน ลาเวนเดอร์ซัลเวีย ทานตะวัน รักเร่ และแอนนีโมนีญี่ปุ่น ที่บานอวดโฉมกันแบบสุดลูกหูลูกตา สามารถนั่งรถบัสแทรกเตอร์ที่ชื่อว่าชิคิไซ โนรกโกะเที่ยวรอบสวนและเยี่ยมชมฟาร์มอัลปาก้าได้

นอกจากนั้นยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นในฮอกไกโดในร้านค้า ร้านอาหาร และแผงขายผลผลิตที่จำหน่ายอาหารท้องถิ่นในฮอกไกโดและผลิตภัณฑ์จากสวนชิคิไซ โนะ โอคะ

วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก สามารถเดินทางไปสวนชิคิไซ โนะ โอคะได้ด้วยรถไฟ ต่อด้วยการเดินหรือขึ้นรถไฟสายเจอาร์ฟุราโนะไปลงที่สถานีบิบะอุชิ จากนั้นเดินต่อไปอีก 25 นาที คุณสามารถขึ้นรถไฟสายเจอาร์ฟุราโนะไปลงที่สถานีบิแอและเรียกแท็กซี่จากตรงนั้นไป 12 นาทีได้เช่นกัน

มาถึงไฮไลน์อีกอย่างที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้ คือ อาซาฮิคะวะ สถานที่ที่จะได้ลองชิมสุราหมักจากข้าวในแบบฉบับญี่ปุ่น เพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของโรงหมักสุราถึง 3 แห่งที่มียี่ห้อเป็นที่รู้จักโด่งดังทั้งในประเทศและทั่วโลก ซึ่งโรงหมักสุราทุกแห่งเปิดให้ลิ้มรสสาเกแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นชนิดที่เป็นสาเกชั้นสูง

เริ่มทะคะซะโงะ เป็นโรงหมักสุรา ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ่งมีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ที่สุดโดยเป็นอาคารล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาวแบบดั้งเดิม และใช้เวลาเดินจากสถานีอาชาติคะวะเพียงไม่กี่อึดใจ หรือหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านกระบวนการหมักสุรา ก็เดินทางไปยังโรงหมักสุราโอะโตะโคะยามะ ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงให้ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้ ส่วนไทเซตสึโนะคุระ โรงหมักสุราซึ่งก่อตั้งท้ายสุด

ทุกเมืองสำคัญๆของฮอกไกโดมีรถไฟเป็นตัวเชื่อมทำให้การท่องเที่ยวเป็นที่นิยมเพราะเดินทางสะดวก เศรษฐกิจจึงสามารถขยายตัวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง การเดินทางมาเมืองไทยของ KIHA183 อาจช่วยจุดประกายความคิดเชื่อมการรถไฟแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม  ที่ทำให้ในอนาคตอันใกล้การรถไฟแห่งประเทศไทยอาจสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับการเติบโตของแหล่งท่องเที่ยวไทย KIHA183 ก็จะเป็นมากกว่ารถท่องเที่ยว แต่คือ การลงทุนเพื่ออนาคตของการรถไฟและประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น