xs
xsm
sm
md
lg

“ซีเล็ค” ชู 4 กลยุทธ์ซีฟู้ดโซลูชั่น ยึดทูน่ากระป๋อง 57%-ดันตลาดโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • ตลาดทูน่ากระป๋องปีนี้คาดว่าจะเติบโต 3% มูลค่ามากกว่า 700 ล้านบาท
  • • “ซีเล็ค ทูน่า” ยกระดับจากทูน่ากระป๋องสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ วางตัวเองเป็น “ซีฟู้ดโซลูชั่น”
  • • ซีเล็ค ทูน่า ใช้ 4 กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ ได้แก่:
  • • พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
  • • เน้นการตลาดดิจิทัล
  • • สร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในแบรนด์
  • • พัฒนาช่องทางการขายให้ครอบคลุม


ผู้จัดการรายวัน 360- ตลาดทูน่ากระป๋อง ปีนี้คาดโต 3% มูลค่ามากกว่า 700 ล้านบาท ”ซีเล็ค ทูน่า“ ยกระดับ จากทูน่ากระป๋องสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ วางตัวเองเป็น ซีฟู้ดโซลูชั่น หวังเติบโตอยู่คู่คนไทยไปตลอด ล่าสุดเดินเกมส์บุกต่อเนื่อง ชู 4 กลยุทธ์สร้างแบรนด์ มุ่งพัฒนานวัตกรรม เดินหน้าศึกษาผู้บริโภค จับมือแบรนด์ดัง ปั้นสินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า มั่นใจจบปี 2567 ยอดขายโต 5% รั้งบัลลังก์เบอร์ 1 กินแชร์ 57.1% โต 3.4% สูงกว่าตลาดรวม สู่เป้าหมาย 1,000 ล้านในปี 2570 


นางสาวณัฐวีณ์ วชิรทวีพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปบริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอด 32 ปี ที่ ซีเล็คทูน่าทำตลาดในไทย พบว่าตลาดทูน่ากระป๋อง มีความท้าทายและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจุบันการบริโภคทูน่ากระป๋องในไทย พบว่าในปี 2566 จาก 100 ครัวเรือน มีเพียง 8 ครัวเรือน มีทูน่ากระป๋องไว้รับประทาน และปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 11 ครัวเรือน หรือกล่าวได้ว่าอัตราการบริโภคปลาทูน่าของคนไทยเฉลี่ยมีเพียง 120 กรัม/คน/ปี ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราการบริโภคปลาทูน่าในยุโรปที่ 1.25 กิโลกรัม/คน/ปี

อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการขยายฐานตลาดทูท่ากระป๋องให้ครอบคลุมทุกวัย ภายใต้ 4 กลยุทธ์พัฒนาแบรนด์ สร้างการรับรู้ พร้อมขยายฐานครอบคลุมทุกวัย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2670 ประกอบไปด้วย 1. การทำ Product Innovation ผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมกับกิจกรรมทางการตลาดที่กระตุ้นให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น 2.การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาวเพื่อรักษาฐานลูกค้า ผ่านกลยุทธ์ Customer Relationship Management (CRM) เช่น แคมเปญ “ซีเล็คทูน่า ล่าท้ารวย แลกรางวัลหลักล้าน” ที่จะทำต่อเนื่องตลอดปี


3. การใช้ประโยชน์จาก Data-Driven Marketing ที่แบรนด์เก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยตัวเอง และนำไปวิเคราะห์จนเราสามารถรับมือและทำความเข้าใจกับลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึงทำฐานข้อมูลได้เป็นระบบ เพิ่มความคล่องตัว และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแบรนด์ให้คิดค้นผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม โปรโมชั่น ออกมาได้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าแบบ 360 องศาตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจทูน่ากระป๋อง 

4.กลยุทธ์ Strategic Partnership Collaboration จับมือกับแบรนด์ดังระดับโลกเพื่อระดับโลก อย่าง เซซามี่ สตรีท ตัวการ์ตูนสุดฮิดจากฝั่งอเมริกา ออกคอลเลคชั่นพิเศษ "SEALECT X SESAME STREET" มาอยู่บนกระป๋องซีเล็คทูน่าเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งจำหน่ายได้หมดเพียง 8 สัปดาห์ เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนว่าหากสามารถออกแบบสินค้าได้ถูกต้องโดนใจจะช่วยให้เกิดกำลังซื้อได้ หลังจากนี้มีแผนจะทำคอลแลปกับแบรนด์ระดับโลก

“เรามองตัวเองว่าไม่ได้เป็นเพียงปลากระป๋อง แต่เป็นซีฟู้ดโซลูชั่น ซึ่งมองว่ากลุ่มครอบครัวเป็นกลุ่มแรกที่น่าจะช่วยให้ทูน่ากระป๋องเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น เริ่มจากการที่เราสามารถนำทูน่ากระป๋องมาเป็นหนึ่งในเมนูเด็ดของครอบครัว เดินหน้ากลยุทธ์การตลาด ผ่านช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก เช่น เซซามี่ สตรีท การ์ตูนดังจากสหรัฐอเมริกา และแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำในประเทศไทย เช่น โจนส์สลัด ตั้งเป้าโต 8% ในอีก 6 ปี“ นางสาวณัฐวีณ์ กล่าว

ปัจจุบันซีเล็คทูน่า มีสินค้า 2 กลุ่มหลัก คือ 1. สินค้าพร้อมทาน (Ready to Eat) เช่น น้ำพริก สเปรดพร้อมแครกเกอร์ กลุ่มเครื่องแกง และกลุ่มสินค้าท็อปปิ้ง 2.สินค้าพร้อมปรุง (Ready to Cook) เช่น กลุ่มซีเล็คคลาสสิก กลุ่มซีเล็คพรีเมียม และกลุ่มซีเล็ค ฟิตต์ 0% ไขมันอิ่มตัว โดยสินค้าในกลุ่มนี้เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์ แต่ละปีมีสินค้าใหม่ๆไม่น้อยกว่า 2 SKUs ในปีนี้มีน้ำพริกกะปิทูน่า และทูน่าท็อปปิ้ง 2 รสชาติ


นางสาวณัฐวีณ์ กล่าวต่อว่า ตลอด 10 เดือนแรกของปี ซีเล็คมียอดขาย 520 ล้านบาท หรือประมาณ 230 ล้านกระป๋อง หรือทั้งปีน่าจะปิดรายได้ราว 700 ล้านบาท โต 6% แบ่งเป็น ซีเล็คทูน่ากระป๋อง 400 ล้านบาท และซีเล็คปลาซาดีนกระป๋องอีกราว 300 ล้านบาท

ส่วนตลาดทูน่ากระป๋อง สิ้นปีนี้น่าจะจบมากกว่า 700 ล้านบาท โตประมาณ 3% ซึ่งตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา จากการสำรวจของทาง Nielsen IQ พบว่าตลาดทูน่ากระป๋องมีมูลค่ารวมที่ 703 ล้านบาท เติบโต 2.6%

ส่วนซีเล็คทูน่า 9 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้รวมที่ 361 ล้านบาท มาจาก 1.ช่องทางค้าปลีก 305 ล้านบาท เติบโต 3.2% 2.ช่องทางธุรกิจบริการร้านอาหาร (Food Service) มีรายได้ 51 ล้านบาท เติบโต 14% และ3.ช่องทางออนไลน์ มีรายได้ 5 ล้านบาท ทั้งนี้แบรนด์ซีเล็ค ครองส่วนแบ่งการตลาดของช่องทางค้าปลีกที่ 57.1% เติบโต 3.4% ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของตลาดรวม ส่วนในภาพรวมตลาดทูน่ากระป๋อง ซีเล็คทูน่าเป็นผู้นำตลาด โดยมีแชร์กว่า 59.7% ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

นางสาวณัฐวีณ์ กล่าวว่า "ตามกลยุทธ์มุ่งสู่ปี 2573 หรือ Strategy 2030 ของไทยยูเนียน ที่ปักธงให้ธุรกิจทูน่ากระป๋องซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับไทยยูเนี่ยนเติบโตอย่างยั่งยืน ซีเล็คทูน่า ถือเป็นหนึ่งแบรนด์เรือธงของไทยยูเนี่ยนที่อยู่คู่กับตลาดคนไทยมากว่า 32 ปี”.




กำลังโหลดความคิดเห็น