- • ไทย สมายล์ บัส ลงทุน 50 ล้านบาท ร่วมมือกับพันธมิตร
- • มุ่งขยายฐานลูกค้า HOP Card จาก 12% เป็น 25%
- • สิทธิประโยชน์ สำหรับผู้โดยสาร HOP Card ได้ส่วนลดร้านอาหาร เครื่องดื่ม สปา ร้านทำผม สถานที่ท่องเที่ยว
- • เป้าหมาย เพิ่มยอดใช้ HOP Card และกระตุ้นการใช้บริการของไทย สมายล์ บัส
“ไทย สมายล์ บัส” ทุ่ม 50 ล้านจับมือพันธมิตรออกแคมเปญร่วม เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้โดยสารผ่านบัตร HOP Card ได้ส่วนลด ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สปา ร้านทำผม สถานที่ท่องเที่ยว ตั้งเป้าขยายยอดใช้จาก 12% เป็น 25% สร้างเครือข่ายขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาดยั่งยืน
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส หรือ TSB เปิดเผยหลังการจัดงาน ‘TSB เพื่อโลก เพื่อสังคม’ ในธีม Collaboration Partnership for Sustainable ว่า ไทยสมายล์บัสได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของกลุ่มพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะพลังงานสะอาด ทั้งทางบกและทางน้ำในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล 6 จังหวัด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสามารถเพิ่มดัชนีการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยได้แบบยั่งยืน ซึ่งการจะผลักดันโครงข่ายการเดินทางให้เกิดขึ้นได้จริงจะต้องมี Ecosystem ระบบนิเวศที่ดี บริษัทจึงได้ร่วมกับพันธมิตรหลากหลายแบรนด์ดัง เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จูงใจให้เกิดการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ให้บริการจะได้รับเพิ่มเติม เช่น การหาซื้อบัตรโดยสารได้ง่ายขึ้น ผ่าน Tops Daily หลายร้อยสาขาทั่วกรุงเทพฯ, Villa Market 29 สาขา, ห้าง Riverside Plaza, ห้างสรรพสินค้า ICONSIAM ไปจนถึงมิติไลฟ์สไตล์ ที่จะมอบส่วนลดเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น TRUE ลูกค้าทรู ลดทันที 100 บาท เมื่อซื้อบัตรโดยสารท่องเที่ยว และลด 10% ในรูปแบบบัตร HOP Card ปกติ แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของคนไทย ‘ยืดเปล่า’ Yuedpao, ร้านอาหารสมใจฟาร์ม ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี ลด 25%, ลานกางเต็นท์ เจมส์ 500 ซิตี้แคมป์ ลด 25% ไปจนถึงกิจกรรมบอร์ดเกม ลานละเล่น ลด 20% และส่วนลดอาร์ตทอยในร้าน BAM BAM TOYS เป็นต้น
โดยตั้งเป้าหมายผลักดันยอดสมาชิกบัตร HOP Card จากปัจจุบันที่ราว 60,000 คน/วัน ให้ขยายตัวแตะระดับ 100,000 คน/วัน คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 25% ของผู้เดินทางที่ใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเครือไทย สมายล์ บัส ด้วยอัตราค่าเดินทางเหมาที่ 40 บาทต่อวันไม่จำกัดเที่ยว
ขณะเดียวกัน ไทย สมายล์ บัสได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการสร้างการรับรู้ เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวทางน้ำผ่านเรือโดยสารไฟฟ้า ไทย สมายล์ โบ้ท, การร่วมกับศูนย์กิจการสร้างสุข (SOOK) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เยาวชน รู้ทันภัย.. สร้างความปลอดภัยในชีวิต และรณรงค์เด็กไทยขึ้นรถขนส่งสาธารณะไฟฟ้า
เรียกร้องรัฐสนับสนุนให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเชื่อมต่อบัตร HOP Card สามารถใช้บริการรถเอกชนที่สะอาด และปลอดภัย เพื่อทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้บริการ ซึ่งรัฐอาจมองว่าบัตร HOP Card เป็นเรื่องการตลาด และทราบว่ายังมีประเด็นเรื่องเทคโนโลยีและเทคนิครวมถึงข้อกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ TSB ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล กรมการขนส่งทางบก และกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ปรับปรุงระบบการให้บริการ การแชร์ข้อมูลการให้บริการอย่างใกล้ชิด ด้วยแนวคิด “We can do the better together” เพื่อเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ว่า “ธุรกิจที่ยั่งยืน คือธุรกิจที่มองทุกอย่างระยะยาว และเริ่มจากการเป็นผู้ให้ ให้ประเทศ ให้สิ่งแวดล้อม ให้ผู้ใช้บริการ ให้พันธมิตร ให้พนักงาน”
@ตั้งเป้าเพิ่มการใช้บัตร HOP Card จาก 12% เป็น 25%
นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ ไทยสมายล์บัส กล่าวว่า ปัจจุบันมียอดการใช้บัตร HOP Card ที่ประมาณ 12% (เกือบ 100,000 คนต่อวัน) ตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้บัตร HOP Card เป็น 25% หรือยอดใช้ประมาณ 150,000 คนต่อวัน ซึ่งจะทำให้รายได้จะเติบโตไปด้วย โดยจะขยายความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์เอกชนมากขึ้นเพื่อดึงผู้โดยสารเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บัตรร่วมกับการใช้ชีวิตที่สะดวกมากขึ้น ซึ่งจะมุ่งทั้งกลุ่มนักศึกษา คนทำงาน และผู้สูงอายุ
ปัจจุบันมีรถจำนวน 2,350 คันแล้ว บรรจุรถในระบบครบตามใบอนุญาตที่ทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้แล้ว โดยนำออกวิ่งให้บริการประมาณ 1,600 คัน ตามจำนวนเที่ยวและความถี่ ในการให้บริการจำนวน 124 เส้นทาง มีผู้ใช้บริการประมาณ 400,000 คนต่อวัน มีรายได้รวมประมาณ 7 ล้านบาทต่อวัน วางแผนจะเพิ่มการนำรถออกมาวิ่งเป็น 2,000 คันในไตรมาส 1 ปี 2568
สำหรับแผนในปี 2568 จะหาโอกาสในการเพิ่มเส้นทางใหม่ และทำระบบรถโดยสารในต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทจะเป็น Service Provider ควบคุมคุณภาพการให้บริการ เพื่อเพิ่มโอกาสเติบโต รวมถึงพัฒนาฟังก์ชัน เพื่อที่จะตอบสนองเรื่องสมาร์ทซิตี้มากขึ้น
@ ออกบัตร HOP Travelling Card เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว
ภายในปี 2567 นี้ไทยสมายล์บัสจะเปิดตัว บัตรโดยสารรูปแบบใหม่ HOP Travelling Card ที่มาในคอนเซ็ปต์ “One Card One Price Around BKK” ที่จะเป็นมิติใหม่ของความคุ้มค่าในการเดินทางด้วยรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้า รองรับการโดยสารได้ถึง 20 เที่ยวต่อบัตรในราคา 450 บาท ตกราคาต่อเที่ยวเพียง 22.5 บาทเท่านั้น ซึ่งจำนวนจำกัดเพียง 5,000 ใบ ผลิตครั้งเดียวเท่านั้น โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ จำกัดเพียง 5,000 ใบเท่านั้น
“ผู้โดยสารต่างชาติของไทยสมายล์บัสที่เป็นนักท่องเที่ยว พบว่ามีประมาณ 70% ที่ใช้เรือท่องเที่ยว เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบสนองพฤติกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบัน เรือโดยสารสร้างรายได้ให้ไทยสมายล์บัสประมาณ 160,000-200,000 บาทต่อวัน คาดหมายว่าจะเติบโตเป็น 250,000-300,000 บาทต่อวัน