xs
xsm
sm
md
lg

“เอกนัฏ”ชี้สายไฟฟ้าติด มอก.ไม่ได้มาตรฐานเพียบ สั่งดำเนินคดีผู้ทำผิดเด็ดขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • เอกนัฏ ระดมโมเดิร์นเทรดชั้นนำกว่า 40 ราย ร่วมตรวจสอบสินค้าขายในห้าง
  • • เหตุผลคือ สุ่มตรวจสายไฟฟ้าที่มีเครื่องหมาย มอก. 78 ราย พบผ่านมาตรฐานเพียง 20 กว่าราย
  • • เอกนัฏ เกรงโรงงานตั้งใจลดคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขัน
  • • สั่งการตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้บริโภคได้สินค้าที่มีคุณภาพ


“เอกนัฏ”ระดมโมเดิร์นเทรดชั้นนำกว่า40ราย ช่วยตรวจสอบขายสินค้า ต้องได้มาตรฐาน หลังสุ่มตรวจสายไฟฟ้าที่มีเครื่องหมาย มอก. 78ราย พบว่าผ่านมาตรฐานเพียงแค่ 20กว่ารายเท่านั้น หวั่นโรงงานตั้งใจผลิตลดคุณภาพลงเพื่อให้แข่งขันได้ พร้อมสั่งตรวจเข้มและดำเนินคดีผู้กระทำผิดเด็ดขาด

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีสินค้าประเภทสายไฟฟ้า ที่มีเครื่องหมาย มอก. แต่พบว่ามีสายทองแดงภายในสายไฟฟ้ามีขนาดไม่ได้มาตรฐาน มีวางจำหน่ายในร้านค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าออนไลน์ จึงได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สุ่มตรวจสอบสินค้าสายไฟตามร้านค้า โมเดิร์นเทรดและร้านออนไลน์ ผลการตรวจสอบสินค้าสายไฟ 78 รายพบว่า มีสินค้าสายไฟฟ้าที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเพียง20กว่ารายเท่านั้น

จากการสุ่มตรวจสินค้าสายไฟฟ้าพบว่าอัตราส่วนสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานสูงมากนั้น ปัญหาอาจจะไม่ใช่เกิดจากความผิดพลาด หรือบังเอิญพลาดแต่อาจเป็นกระบวนการที่เกิดจากโรงงานผลิตสายไฟฟ้าที่ปรับลดสเปกสายทองแดงลง เพื่อให้มีต้นทุนต่ำแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูกหรือคู่แข่งได้

ดังนั้นตนจึงอยากเรียกร้องให้ร้านค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าออนไลน์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าต้องได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานโดยเฉพาะสายไฟฟ้า ปลั๊กไฟ เหล็ก ยางรถ ฯลฯ หากมีข้อสงสัยสามารถส่งสินค้ามาตรวจสอบได้ที่กระทรวงอุตสาหกรรม หรือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)ได้ ขณะเดียวกันกระทรวงฯยังคงเข้มงวดตรวจสินค้าที่ต้องมีความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะสินค้าควบคุมทั้ง 144 มาตรฐานหากพบว่าไม่ได้มาตรฐานจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง

นายเอกนัฏ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้ามาตรการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ภายใต้นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมไทย สร้างความเท่าเทียม และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับ SMEs โดยมีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ต้องมีความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะสินค้าควบคุมทั้ง 144 มาตรฐาน ครอบคลุมสินค้า 308 ผลิตภัณฑ์ ที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าออนไลน์ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด รวมทั้งยกระดับการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน โดยเพิ่มจำนวนสินค้าควบคุมให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อประชาสัมพันธ์ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น


สำหรับบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ทำ นำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตแต่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนผู้โฆษณาและผู้จำหน่าย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าสินค้าไม่แสดงรายละเอียดสินค้า เครื่องหมายมาตรฐาน และ QR code จะเอาผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้โฆษณา และผู้จำหน่ายขั้นเด็ดขาด

“ ในวันนี้ (11พ.ย.)ที่ได้เชิญผู้ประกอบการห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย ในฐานะผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ และผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาเพื่อรับทราบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะในช่วงเดือนนี้ ห้างโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง ได้ออกแคมเปญ 11.11 เพื่อส่งเสริมการขายทั้งที่จำหน่ายหน้าร้านและในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ขอความร่วมมือให้ทุกท่านตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ หากเป็นสินค้าควบคุม ต้องเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. และมี QR Code ที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบรายละเอียดของสินค้า และข้อมูลของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งเป็นช่องทางในการร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้ด้วย” นายเอกนัฏกล่าว

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในรอบปีที่ผ่านมาระหว่างเดือนกันยายน 2566 - เดือนกันยายน 2567 สมอ.ได้ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 517 ราย ยึดอายัดสินค้ารวมมูลค่ากว่า 395 ล้านบาท

“ การสัมมนาในครั้งนี้มีห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย อาทิ แมคโคร เทสโก้โลตัส เซเว่น-อิเลฟเว่น ไทวัสดุ ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ โฮมโปร บุญถาวร เซ็นทรัล เทอร์มินอลทเวนตี้วัน คิงเพาเวอร์ อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์ บิ๊กซี อีเกีย และค็อกพิท เป็นต้น มาให้ความรู้ในการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าควบคุม เช่น ปลั๊กพ่วง สายไฟฟ้า พาวเวอร์แบงค์ ของเล่น และหมวกกันน็อค เป็นต้น ที่จำหน่ายอยู่ในห้างโมเดิร์นเทรด และรับทราบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน โดยขอความร่วมมือห้างโมเดิร์นเทรดให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งตรวจสอบร้านค้ารายย่อยที่เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในห้างให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมายด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น