- • มูจิ ญี่ปุ่น มุ่งเน้นไทยเป็นตลาดหลักในอาเซียน: พัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางศึกษาและพัฒนาสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนเพื่อป้อนตลาดอาเซียน
- • ตั้งเป้าขยายสาขา 70 แห่งภายใน 3 ปี: เตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเพื่อขยายตลาดในไทย
- • เปิดตัว "มูจิ วัน แบงคอก": คอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่พร้อมโซนใหม่ เพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า
ผู้จัดการรายวัน 360 – มูจิ ญี่ปุ่น ดันไทยตลาดยุทธศาสตร์หลักในอาเซียน ชูไทยเป็นฮับศึกษาพัฒนาสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนป้อนอาเซียน พร้อมเร่งเครื่องผุดสาขาเป็น 70 แห่งในอีก 3 ปี ล่าสุดเปิด คอนเซ็ปท์สโตร์ มูจิ วัน แบงคอก พร้อมโซนใหม่บริการใหม่
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว “มูจิ วัน แบงค็อก” บนทำเลที่ดีมีศักยภาพ และความมุ่งมั่นของโครงการ “วัน แบงค็อก” ที่ต้องการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวระดับเมกะโปรเจคท์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นเดสทิเนชั่นใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่โครงการอย่างมหาศาล สาขานี้เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์พื้นที่ 3,040 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน ทำให้ “มูจิ วัน แบงค็อก” มีพื้นที่ในการแสดงสินค้าที่หลากหลายครบ ทุกประเภทผลิตภัณฑ์ไม่แตกต่างจากสาขาหลักในประเทศญี่ปุ่น
โดยกลยุทธ์ขยายสาขาทั่วทุกภูมิภาค รวมเป็น 38 สาขาในไทยในปัจจุบัน โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รุกเปิดสาขาใหม่กว่า 14 แห่ง แบ่งเป็น 4 สาขาในปี 2565 และ 3 สาขาในปี 2566 และปีนี้มีการเปิดสาขาใหม่ 7 สาขา แบ่งสัดส่วนการเปิดตัวสาขาใหม่ทั้งหมดตามพื้นที่ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถแบ่งออกเป็นสาขาในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 7 สาขา และในต่างจังหวัดอีก 7 สาขา ทำให้ปัจจุบัน เรามีร้านมูจิสโตร์ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย
นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า บริษัทแม่มองเห็นโอกาสของประเทศไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจาก เป็นตลาดที่ใหญ่ มียอดขายและการเติบโตสูงที่สุดไ่ต่ำกา 20% จึงวางนโยบายที่จะขยายสาขาในไทยให้ครบเป็น 70 สาขาภายในช่วง 3 ปีจากนี้ ขณะนี้มีเปิดแล้ว 38 สาขา อีกทั้งยังวางให้ไทยเป็นฐานธุรกิจด้วยการขยายทีมงานมากขึ้นทั้งทีมปฎิบัติการ ทีมพัฒนาสินค้าเมอร์ชันไดซ์ และอื่นๆเพื่อให้ไทยเป็นฐานในการศึกษาและพัฒนาสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ขนาดเล็ก ที่จะป้อนตลาดอาเซียนเป็นหลัก
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มูจิไทยรุกขยายสาขาหนักมาก รวม 14 สาขา กรุงเทพ 7 สาขา และต่างจังหวัด 7 สาขา เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ศรีราชา นครสวรรค์ เป็นต้น และเดือนหน้าจะเปิดที่เซ็นทรัลโคราชอีกเป็นสาขาที่ 39 ล่าสุดก็คือการเปิดสาขาที่วันแบงคอกที่เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ใหญ่ที่สุด
ขณะเดียวกันได้มีการปรับราคาสินค้าลงหลายระดับราคาทีผ่านมา ไม่ต่ำกว่า 20% เพื่อให้สินค้ามูจิสามารถเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้มากขึ้น และเน้นสร้างแบรนด์มากขึ้นใช้ช่องทางและวิธีการสื่อสารหลากหลายรูปแบบทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ใช้สื่อนอกบ้าน (Out of home) ทั้งยังมีการใช้อินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และโบว์-เมลดา สุศรี มาร่วมงานเปิดตัวสาขาวันแบงคอกและเป็นครั้งแรกที่มูจิไทยใช้ดารามาร่วมเปิดงาน
นอกจากนั้น ที่ผ่านมามูจิไทยได้พยายามปรับฐานกลุ่มลูกค้า ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ กลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้นคืออายุ 25-34 ปี ถือเป็นกลุ่มที่มีมากและเติบโตมาก ขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2565 กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ อายุ 40 ปีขึ้นไป ขณะเดียวกันกล่มุที่มีมากรองลงมาคือ อายุ 35 – 44 ปี ส่วนกลุ่มอายุ 18 – 24 ปีก็เริ่มมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอดขายหลักยังคงมาจากกลุ่มอายุ40 ปีขึ้นไป
ส่วนสินค้าที่ขายดีที่สุด ก็ยังคงเป็น กลุ่มเสื้อผ้า แฟชั่น รองเท้า หมอนมัลติวิชั่น ที่ดัดขนตา เครื่องเขียน
ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่ขายในไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้าที่มาจากญี่ปุ่นมากกว่า 80% ส่วนอีก 20% มาจากซัพพลายเออร์ในไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายที่จะให้สินค้ากลุ่มเฮ้าส์โฮลด์มีสัดส่วน 30% ในไทย จากเดิมที่มีประมาณ 10% เท่านั้น
สำหรับมูจิ วันแบงคอก มีหลายโซน และมีความพิเศษหลากหลาย เช่น โซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่มีสัดส่วนยอดขายรวมกว่า 50% โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ที่มียอดขายรวมกว่า 47% พิเศษกว่าสาขาอื่นๆ ยังมีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ทำความสะอาด และจัดระเบียบบ้าน
โซนขนมและอาหารสำเร็จรูป ครั้งแรกของการเปิดตัวโซนอาหารท้องถิ่นที่ผลิตในประเทศไทย ผ่านการคัดสรรและเพิ่มมูลค่าในสไตล์มูจิ โดยปราศจากสารกันบูดและถนอมอาหาร นอกจากนี้ยังคัดสรรขนมขบเคี้ยวกว่าหลายร้อยรายการ และมีมื้ออาหารพร้อมรับประทานที่นำเข้าจากหลากหลายแหล่งในญี่ปุ่น โซนอุปกรณ์เครื่องเขียนและสำนักงานหนึ่งในประเภทสินค้ายอดนิยมของมูจิและ โซนอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง รวมถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนสินค้าและบริการใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่นี่ที่เดียว เช่น การเปิดตัวสเปซ “Open MUJI” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นพื้นที่เปิดตัวและจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ คอลเลคชั่นพิเศษ รวมถึงใช้จัดแสดงนิทรรศการ กิจกรรมเวิร์กช้อป และกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ นำเสนอรูปแบบของการช้อปปิ้งที่แปลกใหม่ ในสไตล์ญี่ปุ่นมาผสานเข้ากับ วัฒนธรรม และความชื่นชอบในแบบของคนไทย อาทิ โซน Grab & Go พื้นที่สะดวกซื้อ โซน Green& Outdoor Goods สินค้าต้นไม้หลากหลายประเภท ของประดับตกแต่งสวน และเฟอร์นิเจอร์แบบกลางแจ้ง โซน PET Products เอาใจคนรักสัตว์ โซน Services ต่างๆ ที่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ “มูจิ วัน แบงค็อก” ที่เดียว เช่นบริการปักผ้า