- • ทางหลวง 4 เลน ทล.202 สายบ.น้ำปลีก - บ.หนองผือ จ.อำนาจเจริญ ยาว 52.9 กม. สร้างเสร็จแล้ว
- • โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของ สุริยะ ที่มุ่งสนับสนุนเศรษฐกิจในภาคอีสาน
- • ทางหลวงสายนี้ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด
- • เชื่อมต่อ 4 จังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม, สปป.ลาว, ไทย, เมียนมา
ทางหลวงสร้าง 4 เลน ทล.202 สาย บ.น้ำปลีก-บ.หนองผือ จ.อำนาจเจริญ 52.9 กม. แล้วเสร็จ ขานรับนโยบาย "สุริยะ" หนุนเศรษฐกิจอีสาน แก้ปัญหารถติด-เชื่อม 4 จังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน เวียดนาม-สปป.ลาว-ไทย-เมียนมา
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทล. โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 202 สายบ้านน้ำปลีก-บ้านหนองผือ จังหวัดอำนาจเจริญ ระยะทาง 52.937 กิโลเมตร (กม.) จนแล้วเสร็จและเปิดให้ประชาชนสัญจรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มอบให้ ทล.เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง พร้อมกับดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนเส้นทางที่เชื่อมโยงสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)
ทั้งนี้ โครงการฯ แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ระหว่าง กม.ที่ 300+423 - 309+830 และ กม.ที่ 323+580 - 339+500 และตอนที่ 2 ระหว่าง กม.ที่ 339+500 - 367+100 รวมระยะทาง 52.937 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอปทุมราชวงศา ก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ผิวจราจรแบบแอสฟัสต์คอนกรีตและผิวคอนกรีต แบ่งทิศทางจราจรด้วยเกาะกลางแบบยกและแบบกําแพงคอนกรีต พร้อมระบบระบายน้ำ ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย
สำหรับทางหลวงสายดังกล่าวจะเป็นเส้นทางที่เสริมศักยภาพ "โครงข่ายเศรษฐกิจอีสาน" ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมโยง 4 จังหวัดในภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่ง ทล.เล็งเห็นว่าการขนส่งสินค้าในเส้นทางสู่ภาคอีสานนับเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางหลวง Asian Highways เชื่อมโยงเวียดนาม-สปป.ลาว-ไทย-เมียนมา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ทล.มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศอย่างต่อเนื่อง ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการเดินทางเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างอำเภอ จังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในทุกๆ ด้าน ทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว