- • ทอท.รายงานผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20%
- • ช่วงไฮซีซั่น ปี 67 ตารางบินฤดูหนาวเต็ม ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23%
- • คาดการณ์ผู้โดยสารปีงบ 68 จะทะลุ 130 ล้านคน
ทอท.โชว์ตัวเลขผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น20% ช่วงไฮซีซั่น ปี67 ตารางบินฤดูหนาวเที่ยวบินแน่น ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% คาดปีงบ 68 ผู้โดยสารทะลุ 130 ล้านคน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือทอท. กล่าวว่า ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% โดยเป็นผู้โดยสารต่างชาติถึง 40 ล้านคน สะท้อนว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการเดินทางได้ตามเป้าหมาย และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
โดยเฉพาะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วน สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47%
ด้าน สนามบินเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับ สนามบินเชียงราย
มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% ขณะที่ สนามบินภูเก็ตมีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และ สนามบินหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ รัสเซีย และญี่ปุ่น
@ไฮซีซั่น เที่ยวบินแน่นผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23%
จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025)
ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024 ) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ และ ฮ่องกง
นายกีรติกล่าวว่า ในช่วงไฮซีซั่น ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นนั้น เมื่อมีการใช้ระบบ Biometric และ ตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ หรือ Auto Gate ทำให้ลดแถวคอยผู้โดยสารของผู้โดยสารต่างชาติจากเดิม30นาที ลดเหลือไม่เกิน3นาที และทำให้กระบวนการตังแต่ลงเครื่องบินจนถึงรับกระเป๋า จากเดิมนานสุด 50 นาทีเหลือนานสุไม่เกิน30 นาที เพราะเมื่อลดแถวคอยที่ ตม. ก็จะทำให้กระบวนการเร็วขึ้น จะเหลือเพียงคอขวดตรงจุดรับกระเป๋าเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมหาผู้ให้บริการรายที่3
@คาดปี69 ผู้โดยสารรวม แตะ130 ล้านคน
สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% โดยเฉพาะที่ ทสภ.คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วน ทดม.มีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%
สำหรับโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท การออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว เพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้อีก 81,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างปรับปรุงTOR คาดเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบ การปรับปรุงแบบ คาดจะเปิดประมูลในเดือน ธ.ค.2567และเปิดประมูลเดือนม.ค.2568
ส่วนการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับ 150 ล้านคน/ปี อยู่ระหว่างเตรียมจ้างที่ปรึกษา คาดว่าจะศึกษาภาพรวมแล้วเสร็จในเดือนเม.ย.2568 จากนั้นจะเป็นการออกแบบรายละเอียด อีกประมาณ 1 ปี