- • เครือข่ายองค์กรครู 4 ภูมิภาค ร่วมยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการศึกษา
- • เรียกร้องรัฐบาลให้ดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพของครูและนักเรียน
- • เหตุผล: เกิดเหตุไฟไหม้รถโดยสารโรงเรียนวัดเขาสังฆาราม จ.อุทัยธานี
- • ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้รถโดยสารนำคณะครู นักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานีเดินทางไปทัศนศึกษา มีครูเสียชีวิตจำนวน 3 คนและนักเรียน 2 คน ซึ่งนำไปสู่ความเสียใจคนไทยทั้งประเทศ หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ซี่งหน่วยงานรัฐได้ดำเนินการสู่การแก้ไขปัญหาและเยียวยาที่มีต่อผู้เสียชีวิต โดยมีครู ได้รับการเยียวยา คนละ 2,400,000 บาท นักเรียน 2,320,000 บาท พร้อมสวัสดิการอื่นๆที่ยังไม่ปรากฏอย่างชัดเจน
นายประทุม เรืองฤทธิ์ ตัวแทน เครือข่ายองค์กรครู 4 ภูมิภาคและคณะ พร้อมด้วย สส.อมรเทพ สมหมาย อดีตผู้บริหารโรงเรียน บ้านหนองขนาน ต. โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ร่วมสนับสนุน เป็นองค์กรทางวิชาชีพครู เรียกร้องภาครัฐที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. สนับสนุนการเลื่อนขั้นเงินเดือนให้กับครูผู้เสียชีวิต 7 ขั้น ตามที่เสนอ อันเป็นแนวปฏิบัติเดียวกันของข้าราชการที่เสียสละชีวิตในหน้าที่
2. ขอเรียกร้องให้ทางภาครัฐ เห็นความสำคัญของทุกชีวิตในการเยียวยาให้เทียบเท่ากับ บุคคลที่เสียชีวิตมาแล้วในประวัติศาสตร์เช่น ทหาร ตำรวจ หรือ กลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่างทางประวัติศาสตร์และการเมือง ขอเสนอให้เยียวยาชีวิต รายละ 7,500,000 บาท
3. การปฏิบัติตนของครูผู้เสียสละคือความยิ่งใหญ่ในวิชาชีพ แต่เป็นการจากพรากที่มีผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอเรียกร้องให้ภาครัฐ จัดสวัสดิการให้กับบุคคลในครอบครัวตามความเหมาะสมการใช้ชีวิตในภายภาคหน้า เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาลหรือค่าตอบแทนอื่นใดเท่าที่มีการบรรจุดบาท.
ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรครู 4 ภูมิภาค มั่นใจว่าการเรียกร้องในครั้งนี้มิใช่เป็นการเรียกร้องที่เกินเลยไปจากความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง แต่หากเป็นร่วมกันสร้างความ มั่นใจในการขับเคลื่อนต่อสถานะทางวิชาชีพที่พึงปฏิบัติเท่าเทียมกัน
ก่อนหน้านี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้เรียกผู้ประกอบการรายดังกล่าวให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่ายจำนวน 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี แต่ผู้ประกอบการรายดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็วกรมการขนส่งทางบก จึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่ารถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน
สำหรับการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ และยังมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไ
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน
นายประทุม เรืองฤทธิ์ ตัวแทน เครือข่ายองค์กรครู 4 ภูมิภาคและคณะ พร้อมด้วย สส.อมรเทพ สมหมาย อดีตผู้บริหารโรงเรียน บ้านหนองขนาน ต. โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ร่วมสนับสนุน เป็นองค์กรทางวิชาชีพครู เรียกร้องภาครัฐที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. สนับสนุนการเลื่อนขั้นเงินเดือนให้กับครูผู้เสียชีวิต 7 ขั้น ตามที่เสนอ อันเป็นแนวปฏิบัติเดียวกันของข้าราชการที่เสียสละชีวิตในหน้าที่
2. ขอเรียกร้องให้ทางภาครัฐ เห็นความสำคัญของทุกชีวิตในการเยียวยาให้เทียบเท่ากับ บุคคลที่เสียชีวิตมาแล้วในประวัติศาสตร์เช่น ทหาร ตำรวจ หรือ กลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่างทางประวัติศาสตร์และการเมือง ขอเสนอให้เยียวยาชีวิต รายละ 7,500,000 บาท
3. การปฏิบัติตนของครูผู้เสียสละคือความยิ่งใหญ่ในวิชาชีพ แต่เป็นการจากพรากที่มีผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอเรียกร้องให้ภาครัฐ จัดสวัสดิการให้กับบุคคลในครอบครัวตามความเหมาะสมการใช้ชีวิตในภายภาคหน้า เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาลหรือค่าตอบแทนอื่นใดเท่าที่มีการบรรจุดบาท.
ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรครู 4 ภูมิภาค มั่นใจว่าการเรียกร้องในครั้งนี้มิใช่เป็นการเรียกร้องที่เกินเลยไปจากความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง แต่หากเป็นร่วมกันสร้างความ มั่นใจในการขับเคลื่อนต่อสถานะทางวิชาชีพที่พึงปฏิบัติเท่าเทียมกัน
ก่อนหน้านี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้เรียกผู้ประกอบการรายดังกล่าวให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่ายจำนวน 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี แต่ผู้ประกอบการรายดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็วกรมการขนส่งทางบก จึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่ารถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน
สำหรับการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ และยังมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไ
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน