- • ลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท: เน้นขยายปั๊มน้ำมัน, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และธุรกิจอื่นๆ
- • เป้ารายได้ปีหน้า: เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตตามเป้า 10-15%
- • ร่วมมือกับพันธมิตร: ผนึกมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ, กรมป่าไม้ และ ธ.ก.ส. เพื่อส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้า
PTG อัดงบลงทุนปี 68 ราว 6,000-7,000 ล้านบาท เน้นขยายปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้เติบโตตามเป้า 10-15% ล่าสุดผนึกมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กรมป่าไม้ ธ.ก.ส.ส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิกา และพืชเศรษฐกิจยั่งยืน หนุนเกษตรกรมีชีวิตอยู่ดีมีสุข ส่งตรง “กาแฟพันธุ์ไทย”
นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและความยั่งยืนบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)(PTG) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปี 2568 ประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายสถานีบริการน้ำมันพีที และร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทน เน้นการผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF การบริหารคาร์บอน และการขยายสาขาร้านอาหาร Subway เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีใหม่ในปีหน้าเพิ่มขึ้นอีก 60 แห่ง รวมทั้งรีโนเวตปั๊มน้ำมันพีทีเดิมราว 100 แห่งจากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 2,250 แห่งทั่วประเทศ ส่วนร้านกาแฟพันธุ์ไทยจะขยายเพิ่มขึ้นอีก 900-1,000 สาขาจากสิ้นปี 2567 มีจำนวน 1,300-1,400 สาขาเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงเน้นการทำแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทลงทุนเองเป็นส่วนใหญ่ราว 60% ของจำนวนร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยบริษัทวางเป้า 3 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2570) จะมีร้านกาแฟพันธุ์ไทยครบ 5,000 สาขา โดยปัจจุบันยอดขายสาขาเดิมเติบโต 30% หรืออยู่ที่ 100-120 แก้วต่อวันต่อสาขา
นายรังสรรค์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน มาจากการขยายสาขาสถานีบริการทำให้ยอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น รวมทั้งรายได้จากธุรกิจ Non oil จากร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีการเพิ่มขึ้นของสาขาในแต่ละปี
ในปี 2567 บริษัทมั่นใจมีรายได้เติบโตตามเป้า 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ช่วงไตรมาส 3/2567 จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน ยอดขายยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่ในไตรมาส 4 นี้คาดว่ายอดขายน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันและบริษัทได้มีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันโฉมใหม่ และการบริการเสริมต่างๆในสถานีบริการน้ำมันพีที
สำหรับความคืบหน้าในการนำ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงไตรมาส 1/2568 ส่วนร้านกาแฟพันธุ์ไทยคาดยื่นไฟลิ่งได้ภายในปี 2569
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมป่าไม้ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินโครงการการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิกาและพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทางสภาพแวดล้อมและชุมชนในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟมีรายได้และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นส่งตรงร้าน “กาแฟพันธุ์ไทย”
การลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรดังกล่าวเพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ป่าและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิกาและพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อรักษาป่าเดิม เพิ่มป่าใหม่ เพื่อให้ประเทศได้มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เกษตรกรมีรายได้และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยกรมป่าไม้จะจัดหาพื้นที่ป่าชุมชนหรือป่าหัวโล้น เพื่อให้มีการปลูกต้นกาแฟควบคู่กับป่าไม้ ซึ่งต้นกาแฟใช้เวลาปลูกนาน 3 ปีจึงจะเก็บเมล็ดกาแฟได้ โดยวางเป้าระยะ 5 ปีแรกจะส่งเสริมไม่ต่ำกว่า 30,000 ไร่
ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคกาแฟอะราบิการาว 90,000 ตันต่อปี แต่มีการผลิตภายในไทยเพียง 10,000 ตันต่อปี จำเป็นต้องนำเข้าจากลาว เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยลดการนำเข้ากาแฟได้เพียงบางส่วน