- • SCG Smart Living ผ่านแบรนด์ ONNEX มุ่งเน้นตลาดโซลาร์
- • ตอบโจทย์ทั้ง ธุรกิจ และ นักลงทุน ที่สนใจธุรกิจพลังงานสะอาด
- • วางเป้าขยายกำลังผลิตติดตั้ง 1,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปี
- • คาด รายได้ ONNEX ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
SCG Smart Living ชูความพร้อม “ONNEX” รุกตลาดโซลาร์ ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มธุรกิจและนักลงทุนที่หันมาลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น วางเป้าขยายกำลังผลิตติดตั้งโซลาร์รวม 1 พันเมกะวัตต์ใน 5ปีข้างหน้า แย้มONNEX ปีนี้มีรายได้ราว 1 พันล้านบาท ลุ้นปี68 รายได้โตไม่ต่ำกว่า20%
นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทยที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดช่วง2-3ปีนี้ เป็นโอกาสดีของ ONNEX by SCG Smart Living ในการรุกตลาดพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) โดยอาศัยประสบการณ์และความพร้อมด้าน EPC (Engineering Procurement and Construction) ทั้งการออกแบบทางวิศวกรรม การขออนุญาตโครงการ รวมถึงการติดตั้งโครงสร้างระบบแบบครบวงจร
ทั้งนี้ ONNEXเน้นนวัตกรรมและบริการด้านระบบโซลาร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 เริ่มต้นจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองภายในโรงงานต่างๆในเครือเอสซีจีทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากสุดถึง 40% ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างกว่าสิบปี ONNEX มีความพร้อมในการรุกตลาดโซลาร์ทุกรูปแบบทั้งSolar Roof, Solar Floating, Solar Farm และ Solar Carport สอดรับกระแสการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและยังช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากการติดตั้งระบบโซลาร์ปัจจุบันมีราคาที่ถูกลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ายังคงมีราคาสูง
นายวชิระชัย กล่าวว่า ONNEX ตั้งเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตติดตั้งระบบพลังงานโซลาร์เพิ่มขึ้นเป็น 1,000เมกะวัตต์ภายใน5ปีข้างหน้า(ปี2568-2572) โดยปีนี้คาดว่าติดตั้งโซลาร์เพิ่ม 60 เมกะวัตต์รวมเป็น 200 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างดำเนินการ(pipeline)อีก 400-500เมกะวัตต์
เนื่องจากรายได้หลักของONNEXมาจากธุรกิจโซลาร์ โดยปีนี้คาดว่าทำรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าปีก่อนประมาณ 40-50% และปี2568 ONNEXน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% หรือราว 1,200 ล้านบาทเป็นผลจากการขยายการติดตั้งโซลาร์ที่เพิ่มขึ้น
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้1,000เมกะวัตต์ใน5ปีข้างหน้า ONNEX ได้วางกลยุทธ์ EPC+ Business Model ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้เกี่ยวข้องแต่ละกลุ่มในระบบโซลาร์ ช่วยสร้าง ecosystem ตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ส่งผลดีให้กับกลุ่มผู้บริโภค ช่วยลดภาวะโลกร้อนและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
สำหรับ EPC+ Business Model เบื้องต้นมี 5 รูปแบบ คือ 1. EPC+F (Finance) เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปลี่ยนจากการใช้ไฟฟ้าพื้นฐานมาติดตั้งระบบโซลาร์แทน ช่วยให้ผู้ประกอบการมีการพลังงานสะอาดแล้วยังส่วนลดค่าไฟสูงสุดถึง 40% โดยไม่ต้องลงทุนเองเพราะทาง ONNEX จะดำเนินการหาผู้ลงทุนให้
2.EPC+D (Project Development) เหมาะสำหรับนักลงทุน ที่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ สถาบัน กองทุนที่สนใจลงทุนในโครงการโซลาร์ แต่ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่สามารถหาโครงการที่เหมาะสมได้ ทาง ONNEX จะทำหน้าที่คัดสรรโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนที่มีผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ลงทุน
3.EPC+ O&M (Operations & Maintenance) เหมาะสำหรับเจ้าของโครงการที่ติดตั้งโซลาร์ในหลายโครงการ และเริ่มมีปัญหาในการบริหารจัดการแบบองค์รวม (Centralized monitoring & maintenance) ทาง ONNEX มีบริการทำ Centralized Dashboard ตลอดจนการดูแลระบบให้สามารถผลิตไฟได้ตามเป้าหมาย โดยมี Performance Warrantyเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางแผนไว้
4.EPC+Alliance รูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตร EPC ด้วยกันช่วยบริหารต้นทุนในระบบการจัดซื้อ (Cost effectiveness) โดย ONNEX มีแผนงานลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาแผงและอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบโซลาร์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว และ5.EPC+Authorized Referral เหมาะสำหรับตัวแทนอิสระ ที่มีเครือข่ายลูกค้าที่มีศักยภาพในธุรกิจโซลาร์ สามารถเข้ามาเป็น Authorized Referral ได้ เพื่อร่วมธุรกิจและรับผลตอบแทนจากโครงการ
นายดุสิต ชัยรัตน์ Smart Home Living Solution Director ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนไป ทั้งด้วยนโยบายจากภาครัฐที่จะยกเว้นการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อปไม่เกิน 1เมกะวัตต์ไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 และจากความต้องการของลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมต้องการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นทำให้ในระยะหลังมีนักลงทุนที่สนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ONNEX และบริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ (SCG Cleanergy) เป็นเหมือนพี่น้องช่วยเหลือกันและอยู่ภายใต้เครือเอสซีจีเหมือนกัน แต่เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ เป็นInvestor ลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด และพลังงานทางเลือก โดยมีเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,500เมกะวัตต์ในปี2573 ขณะที่ONNEXเน้นEPC หากพบว่ามีผู้ประกอบการต้องการหาผู้ร่วมทุนโครงการผลิตโซลาร์ฟาร์มหรือโซลาร์ลอยน้ำ ก็จะเสนอให้เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่เข้าร่วมทุนโครงการ หรือหากเอสซีจี คลีนเนอร์ยี่มีโครงการลงทุนโซลาร์ ONNEX ก็จะเข้าไปร่วมแข่งขันEPC เป็นต้น