- • ยอดขายและโอนที่ดินในนิคมฯ ปี 67 สูงกว่าเป้า : ปิ่นทอง ตั้งเป้าขายและโอนที่ดินในนิคมฯ ปี 67 ที่ 750 ไร่ แต่คาดการณ์ว่าจะสามารถทำได้ถึง 850 ไร่
- • เตรียมเปิดนิคมฯ ใหม่ (โครงการ 7) : ปิ่นทอง เตรียมเปิดนิคมฯ ใหม่ ในชลบุรี พื้นที่ 1,059 ไร่
- • เริ่มก่อสร้างกลางปี 68 และเริ่มขายต้นปี 69 : นิคมฯ ใหม่ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างกลางปี 68 และเริ่มขายพื้นที่ต้นปี 69
- • มั่นใจขายหมดภายใน 1 ปี : ปิ่นทอง มั่นใจว่าพื้นที่ในนิคมฯ ใหม่ จะขายหมดภายใน 1 ปี หลังจากเปิดขาย
“ปิ่นทอง” ลั่นปี67ยอดขายและโอนที่ดินในนิคมฯราว850ไร่ โตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 750ไร่ เตรียมผุดโครงการนิคมฯ ปิ่นทอง (โครงการ 7) ที่ชลบุรี พื้นที่ 1,059ไร่ เตรียมก่อสร้างกลางปีหน้า และเริ่มขายพื้นที่ต้นปี69 มั่นใจขายเกลี้ยงภายใน 1ปี เตรียมขึ้นโครงการนิคมฯปิ่นทอง(โครงการ 8)ต่อ
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) (PIN)ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 7) บนพื้นที่กว่า 1,059 ไร่ ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2567 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท และการจ้างงานเพิ่ม 10,560 คน
นายสุจินต์ เรียนวิริยะกิจ กรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) (PIN) เปิดเผยว่า ขณะนี้การพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 7) อยู่ระหว่างยื่นการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) และจะเริ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคในช่วงกลางปี2568 ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,205 ล้านบาทในช่วงกลางปี2568 คาดว่าจะขายที่ดินให้นักลงทุนได้ในช่วงต้นปี2569 ใช้เวลาขายที่ดินได้ทั้งหมดภายใน 1ปีพร้อมเตรียมพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง(โครงการ8) ที่จังหวัดชลบุรีอีก 1 พันกว่าไร่ต่อ เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตมาไทย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนานิคมฯปิ่นทอง (โครงการ 9และ10) บนพื้นที่3,000ไร่ จังหวัดระยอง คาดว่าจะเริ่มพัฒนาหลังปี 2570
บริษัทมีแผนลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงขนาดกำลังผลิต 120เมกะวัตต์ รวมทั้งพัฒนาพลังงานสะอาดทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) และโซลาร์ ลอยน้ำ เพื่อป้อนให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้พลังงานสีเขียวแต่ด้วยข้อจำกัดพื้นที่ทำให้การลงทุนโซลาร์ลอยน้ำทำได้ไม่มาก เบื้องต้นบริษัทจะลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯในนิคมฯปิ่นทอง(โครงการ5)ก่อน คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3 ปี ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างหว่างหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมทุนด้วย
นายสุรัช พัฒนวงศ์ยืนยง กรรมการบริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี2567บริษัทคาดว่ามียอดขายและโอนที่ดินในนิคมฯปิ่นทองประมาณ 850 ไร่ สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 750ไร่ เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้านักลงทุนต่างชาติทั้งจีน และไต้หวันย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนญี่ปุ่นไม่ขยายการลงทุนใหม่ แต่ภาพรวมสัดส่วนการลงทุนในนิคมฯปิ่นทองมาจากประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 70% จีน 21%
ทั้งนี้นักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในนิคมฯปิ่นทอง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โลจิสติกส์ เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ การเข้ามาของนักลงทุนจีนในไทย ส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่EECปรับตัวเพิ่มขึ้น 30%
การพัฒนาโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 7) จะเป็นโครงการที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของภาคการผลิตอุตสาหกรรมบนฐานของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และนวัตกรรม โดยรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, โลจิสติกส์, อุตสาหกรรมสะอาด รวมถึงอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI และ EEC ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ช่วยสร้างมูลค่าการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ประมาณ 42,360 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 10,560 คน
ปัจจุบันบริษัทฯมีนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองร่วมดำเนินงานกับกนอ.แล้ว 6 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวม 1 หมื่นไร่
