- • โลกกำลังเข้าสู่ยุค Industry 5.0 ที่เน้นการผสมผสานระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี
- • Swift Dynamics นำ AI และ Machine Learning มาใช้ในแพลตฟอร์ม Sitearound Industry Tech Platform
- • แพลตฟอร์มนี้มีจุดเด่นคือ การใช้ AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี
- • Industry 5.0 เป็นยุคแห่งการผสานรวม เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความเชี่ยวชาญของมนุษย์
- • Sitearound Industry Tech Platform เป็นตัวอย่างของการนำเทรนด์ Industry 5.0 ไปใช้จริง
ในขณะที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 หรือ Industry 5.0 ที่เน้นการผสมผสานระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี Swift Dynamics ได้นำ AI และ Machine Learning เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญใน Sitearound Industry Tech Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยบริษัทเอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ
นายนที สิงหพุทธางกูร ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท กล่าวว่า "ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มได้รับโจทย์ใหม่ๆ จากลูกค้าที่ต้องการนำข้อมูลจากหลายส่วนในโรงงานและอาคารมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์ที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น คาดการณ์ว่าจะเครื่องจักรแต่ละตัวมีเครื่องใดบ้างที่กำลังจะเสีย หรือเครื่องจักรตัวใดมีโอกาสเกิดความผิดปกติในอีก 30 วันข้างหน้า เพื่อจะได้จัดเตรียมทีมซ่อมบำรุงและอุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนได้อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถวางแผนซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์ในการพัฒนา AI และ Machine Learning ใน Sitearound ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ โดย Sitearound จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเต็มที่”
Sitearound ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการซ่อมบำรุงโดยใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ผ่านฟีเจอร์หลัก เช่น ระบบ Machine Efficiency Management ที่แสดงค่า OEE และการตรวจวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรเพื่อลด downtime, ระบบ ESG Implementation ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการตามมาตรฐาน ESG และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, ระบบ Smart Energy Management ควบคุมการใช้พลังงานอัตโนมัติ, ระบบ Water and Wastewater Management ตรวจสอบการใช้น้ำและน้ำเสีย, ระบบ Automation and Control ช่วยควบคุมระบบอัตโนมัติในโรงงาน และระบบ Condition-based Maintenance ที่ช่วยเปิดใบงานซ่อมบำรุงแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษา
ที่สำคัญ Sitearound ยังสามารถช่วยคาดการณ์และแนะนำสิ่งที่จะต้องทำในอนาคต (Predictive and Prescriptive) ควบคู่กันไปได้อีกด้วย โดยผ่าน Features ต่างๆ ใน Platform ได้แก่ Anomaly Detection ที่ใช้ AI และ Machine Learning ในการตรวจสอบความผิดปกติของกระบวนการและเครื่องจักรเพื่อลดความเสี่ยง, Fault Diagnostics ที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาและแนะนำแนวทางการแก้ไขอย่างรวดเร็ว, Probability to Failure ที่คำนวณความน่าจะเป็นของความเสียหาย และ Remaining Useful Life ที่ประเมินอายุการใช้งานที่เหลือของเครื่องจักร นอกจากนี้ยังมี Video Analytics ที่ใช้ AI วิเคราะห์ภาพวิดีโอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในกระบวนการทำงาน
นายนิกม์ เจริญสวัสดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท กล่าวว่า "เรามีเป้าหมายให้ Sitearound เป็น All-in-one Predictive Intelligence System ที่สามารถเชื่อมโยงและบริหารจัดการข้อมูลได้จากทุกแหล่ง และสามารถทำงานร่วมกับ AI และ Machine Learning ได้ภายในแพลตฟอร์มเดียวและรองรับทุกภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มรูปแบบผ่าน AI Algorithms ที่เรากำลังการพัฒนา”
Sitearound มุ่งหวังให้ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมในไทยสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในยุค Industry 5.0 ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เข้ากับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่อนาคตที่เทคโนโลยีและมนุษย์ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Website: www.swiftdynamics.co.th หรือ www.sitearound.com , Facebook: SwiftDynamics หรือ Sitearound โทร 097-020-5923 หรือ 089-662-1933