- • สคร. (คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง) ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯ รฟท. ให้ตรวจสอบกรณีการสรรหา คัดเลือก และเห็นชอบผู้ว่าฯ รฟท. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการดำเนินการโดยมิชอบ
- • ข้อกล่าวหาคือ ผู้สมัครบางรายมีคุณสมบัติต้องห้าม
- • สคร. สั่งให้ผู้ว่าฯ รฟท. ชี้แจงกลับโดยเร็ว
- • จุดที่น่าสนใจคือ สคร. สั่งให้ผู้ถูกร้องตรวจสอบตัวเอง ซึ่งดูแปลกประหลาด
- สรุปเป็นข้อๆ:
- 1. สคร. ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯ รฟท. เรื่องตรวจสอบการสรรหา คัดเลือก ผู้ว่าฯ รฟท.
- 2. ข้อกล่าวหาคือมีการดำเนินการโดยมิชอบ และผู้สมัครบางรายมีคุณสมบัติต้องห้าม
- 3. สคร. สั่งให้ผู้ว่าฯ รฟท. ชี้แจงกลับโดยเร็ว
- 4. สคร. สั่งให้ผู้ถูกร้องตรวจสอบตัวเอง
ยังไม่จบ สคร.ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ รฟท.ให้ตรวจสอบกรณีปฏิบัติและดำเนินการโดยมิชอบ การสรรหา คัดเลือก และเห็นชอบผู้ว่าฯ รฟท. ปมถูกร้องเรียนผู้สมัครมีคุณสมบัติต้องห้าม และให้ชี้แจงกลับโดยเร็ว สุดงง สคร.สั่งให้ผู้ถูกร้องเรียนตรวจสอบตัวเอง ด้าน รฟท.ยังเงียบ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ได้มีหนังสือ ที่ กค 0817.1/ ล.1381 ถึงผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติและดำเนินการโดยมิชอบของหน่วยงานรัฐ กรณีสรรหา คัดเลือก และเห็นชอบผู้สมัครผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย
เนื่องด้วยนายอาคม อุปแก้ว (ผู้ร้อง) รองประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ ได้มีหนังสือลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ถึงปลัดกระทรวงการคลัง ร้องเรียนและขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติและดำเนินการโดยมิชอบของหน่วยงานรัฐ กรณีสรรหา คัดเลือกและเห็นชอบผู้สมัครผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งได้มีรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังขอเรียนว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาผู้บริหารของ รฟท.ซึ่งเป็นการบริหารจัดการภายในโดยอยู่ภายใต้หน้าที่และอำนาจของ รฟท. ดังนั้น จึงขอให้ รฟท.พิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบโดยตรง พร้อมทั้งแจ้งผลการพิจารณาให้ สคร.ทราบโดยเร็วต่อไปด้วย
ทั้งนี้ โปรดพิจารณาให้ความคุ้มครองผู้ร้อง ผู้ให้ข้อมูล และผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่าให้ต้องรับภัย หรือความไม่ชอบธรรมอันเนื่องมาจากการร้องเรียนครั้งนี้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจาก สคร.แล้ว เครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ และดำเนินการโดยมิชอบของคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (การรถไฟฯ) และคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฯ ในการดำเนินการสรรหาผู้ว่าฯ รฟท. มีปัญหาด้านคุณสมบัติที่ขัดกับประกาศ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม กรณีการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.นั้น เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน ได้เห็นชอบผลการสรรหาตามที่คณะกรรมการสรรหา ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย เป็นประธานกรรมการสรรหาฯ เสนอชื่อ นายวีริศ อัมระปาล ซึ่งในขณะที่เข้ารับการสรรหา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ว่าเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่ และผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 โดยบอร์ดรฟท.มีการลงนามสัญญาว่าจ้าง นายวีริศ อัมระปาล เป็นผู้ว่าฯ รฟท.คนที่ 20 ไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 และเริ่มทำงานทันที
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ผู้ว่าฯ รฟท.รับทราบหนังสือ สคร.แล้ว ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป เพราะกรณีที่ สคร.ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ รฟท. ซึ่งปัจจุบันคือ นายวีริศ อัมระปาล ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับข้อร้องเรียนให้เป็นผู้ตอบชี้แจง จะมีการดำเนินการอย่างไร รฟท.จะตอบกลับสคร.อย่างไร และเมื่อใด และจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท.ในปัจจุบันหรือไม่