- • เหตุการณ์: มีผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินไทย เวียตเจ็ท
- • การจัดการ: สนามบินสุวรรณภูมิใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบินในการคลี่คลายสถานการณ์
- • ผลลัพธ์: สถานการณ์คลี่คลายอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย
- • ผลกระทบต่อสนามบิน: ไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน
"สุวรรณภูมิ"ใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบินคลี่คลายสถานการณ์ กรณีมีผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินไทย เวียตเจ็ท ด้วยความรวดเร็วและเรียบร้อย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ ที่มีการข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานของสายการบินไทย เวียตเจ็ท เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 โดยเวลา 14.18 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า มีการข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานของสายการบินไทย เวียตเจ็ท เที่ยวบิน VZ961 จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้โดยสาร 121 คน เป็นทารก 1 คน มีนักบินและลูกเรือ รวม 6 คน โดย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประเมิน
สถานการณ์ร่วมกับสายการบินและได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน บทที่ 3 เรื่องการขู่วางระเบิด และได้ประสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ทีมแพทย์และพยาบาล ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการตามแผนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยทันที
เบื้องต้นได้นำอากาศยานดังกล่าวเข้าหลุมจอด Isolate Aircraft Parking Position ฝั่งทางทิศตะวันออกของอากาศยาน และได้ลำเลียงผู้โดยสารพร้อมลูกเรือออกจากอากาศยานโดยทันที หลังจากนั้นนำผู้โดยสารไปพักรอที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง
ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวัตถุต้องสงสัยเป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนเผชิญเหตุในเวลา 16.31 น.
โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้นำผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดไปส่งยังขั้นตอนผู้โดยสารขาเข้าปกติต่อไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการให้บริการของสนามบินแต่อย่างใด
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากผู้โดยสาร เพศหญิง สัญชาติโปรแลนด์ ข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานขณะทำการบิน ซึ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้นำตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จและการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท (สองแสนบาท) ถึง 600,000 บาท (หกแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงสุดพร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการอย่างดีที่สุด