- • MizuMi แบรนด์สกินแคร์ไทย ยืนหนึ่งใน Top 5
- • เติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอด 10 ปี
- • พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ
- • สร้างแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ “คอนเทนต์ที่จริงใจ”
- • มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
มิซึมิ ‘MizuMi’ เตรียมบุกต่างประเทศ หลังขึ้นสู่ Top 5 แบรนด์สกินแคร์ไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอด10 ปี พร้อมสร้างแบรนด์ทัชใจคนรุ่นใหม่ด้วยกลยุทธ์ “คอนเทนต์ที่จริงใจ”
คุณวริษฐา สืบพันธ์วงษ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดแบรนด์สกินแคร์ มิซึมิ ‘MizuMi’ เล่าถึงที่มาผลิตภัณฑ์แบรนด์มิซึมี เกิดขึ้นเมื่อราว 10 ปีก่อน ด้วยจุดเริ่มต้นอยากมีธุรกิจของตัวเอง บวกกับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มครีมกันแดดที่เข้ามาตอบโจทย์ผิวแพ้ง่าย ที่ต่อมาได้พัฒนาสินค้ากันแดดตัวแรกของแบรนด์มิซึมิ (MizuMi) หลอดสีฟ้า ในฐานะฮีโร่ โปรดักต์ ที่ยังได้รับความนิยมในตลาดมาถึงในปัจจุบัน
จากการออกสตาร์ทธุรกิจในครั้งนั้น ยังทำให้ MizuMi ได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมิซึมิ มีสินค้ามากกว่า 50 รายการ (SKU) พร้อมวางตำแหน่งสินค้าในการทำตลาดเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ระดับ ‘Premium Mass’ ด้วยสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง
คุณวริษฐา กล่าวว่า “จุดเด่นแบรนด์มิซึมิ เราได้นำผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มารองรับร่วมในการพัฒนาสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคซึ่งการเข้ามาของมิซึมีในตลาดพรีเมี่ยมแมสในขณะนั้นยังมีสินค้าไม่มากนัก แต่เมื่อเราเข้ามาแล้วกลับพบว่ายังมี ดีมานด์ในตลาดกลุ่มนี้อยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งมองเป็นโอกาสในการทำตลาดสินค้าที่มีคุณภาพดีถึงดีมากในราคาไม่เป็นภาระของผู้บริโภคมากนัก”
โดยปัจจุบันมิซึมิ มีไอเทม ‘Top 3’ ที่ได้รับความนิยม คือ MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++ และอีก 2 รายการในตลาด คือ ผลิตภัณฑ์กันแดด MizuMi UV Jelly Aqua Fresh สีชมพู ตัวใหม่ให้ความบางเบา สบายผิว และ ครีมกันแดดสำหรับผิวกาย MizuMi UV Jelly Aqua Fresh
คอนเทนต์ มาร์เกตติง ที่จริงใจ
คุณวริษฐา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการทำตลาดผลิตภัณฑ์แบรนด์มิซึมิในช่วงที่ผ่านมา ถึงในปัจจุบันมีสินค้าครอบคลุมในทุกช่องทางขายครอบคลุมทั้ง Traditional Trade และ Modern Trade อาทิ ร้านค้าปลีกความงาม (Beauty Store) และ ร้านค้าสะดวกซื้อ (CVS) เป็นต้น รวมไปถึงบนช่องทางขายออนไลน์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ด้วย
สำหรับการเข้ามาเปิดร้านมิซึมิอย่างเป็นทางการ (MizuMi Official Store) บน TikTok Shop Mall นั้น เป็นการต่อยอดจากการทำตลาดผ่านคอนเทนต์ของมิซึมิบนช่องTikTok มาก่อนหน้านี้ ซึ่งมิซึมิ มีความสนใจที่จะนำแบรนด์เข้าไปอยู่บนแพลตฟอร์มนี้เช่นกัน ด้วยมองเห็นโอกาสจากการสร้างยอดขายที่มีอยู่สูง
“ด้วยประสบการณ์การทำตลาดมิซึมิ ที่มองเห็นการเพิ่มมูลค่า หรือ Value Added บน TikTok Shop Mall ซึ่งแตกต่างไปจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นย่างชัดเจน ด้วยมีความครบถ้วนทั้งจากกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้เสพคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงอยู่แล้ว ทำให้มิซึมิมีโอกาสได้สร้างคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และนำไปสู่การปิดยอดขายได้มากขึ้น และมีส่วนช่วยการทำตลาดแบบเต็ม funnel ในการซื้อขายของกลุ่มลูกค้าอีกด้วย” คุณวริษฐา กล่าว
พร้อมเสริมว่า การทำตลาดอีคอมเมิร์ซใน TikTok Shop Mall นั้นยังเป็นการแคปเจอร์ ความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยมีเส้นทางผู้บริโภค (Customer Journey) ตั้งแต่ต้นไปจนถึงการปิดการขายได้ในที่สุด เช่น ผู้ชมที่เข้ามารับชมความบันเทิงจากคอนเทนต์ที่แบรนด์สื่อสารออกไป จนได้พบกับลูกค้าที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ซึ่งเมื่อเกิดความชอบคอนเทนต์ก็สามารถเข้าไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด เป็นวิธีสร้างยอดขายในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจากแพลตฟอร์มอื่น อย่างสิ้นเชิง
ขณะที่ แนวทางการพัฒนาคอนเทนต์บน TikTok Shop Mall ของมิซึมิ นั้น คุณวริษฐา บอกว่า “หากเป็นส่วนของการทำคอนเทนต์เพื่อต้องการขายสินค้านั้น มิซึมิจะนำเสนอเนื้อหาแสดงถึงจุดขาย หรือ ข้อดีผลิตภัณฑ์ มีการสาธิตวิธีการใช้สินค้า ด้วยเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญเพื่อผักดันยอดขายได้โดยตรง”
สำหรับการไลฟ์สินค้านั้น รูปแบบของเนื้อหาจะเน้นความบันเทิงเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโมเดลของมิซึมิ ที่นำมาทำตลาดร่วมกับโปรโมชันสินค้าต่างๆ หรือเพื่อสร้างให้เกิดการทดลองใช้สินค้า ซึ่งแบรนด์จะเปิดกว้างให้กับครีเอเตอร์ต่างๆ ได้มีโอกาสเข้ามาสร้างสรรค์เนื้อหาในรูปแบบที่เป็นของตัวเอง ทั้งการรีวิว การแนะนำสินค้ามิซึมิ ได้อย่างตรงไปตรงมาให้สามารถพูดได้ทั้งข้อดี หรือ ข้อเสีย จากผู้ใช้งานจริงที่มาไลฟ์สินค้า
พร้อมเสริมต่อถึงคอนเซปต์การทำคอนเทนต์ร่วมครีเอเตอร์นั้น มิซึมิจะไม่เข้าไปจำกัดกรอบไอเดีย หรือใช้บรีฟกำกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์มากนัก ด้วยเชื่อในฝีมือของเหล่าครีเอเตอร์ในปัจจุบัน ที่มีความสนใจและติดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ที่สามารถนำมาต่อยอดทำคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี
รวมไปถึงการ Tie-in ผลิตภัณฑ์เพื่อให้คอนเทนต์มีความหลากหลายได้มากขึ้น ซึ่งตรงทั้งกับพฤติกรรมออเดียนซ์ในฐานะผู้บริโภคที่ไม่ชอบดูคอนเทนต์ซ้ำๆ อยากเห็นเนื้อหาใหม่ๆ และ สอดคล้องกับตัวแพลตฟอร์มฯ เองที่จะแสดงคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้แสดงผลอยู่เสมอ
คุณวริษฐา กล่าวว่า “ในจุดนี้เองที่มิซึมิยังได้ทำงานร่วมกับคีย์ แอคเคานท์ TikTok Shop Mall ในด้านต่างๆ ทั้งการจะนำสินค้าขึ้นไปเพื่อแสดงให้คนเห็นได้มากขึ้น การร่วมทำแคมเปญโปรโมชัน การทำ flash sale ต่างๆ ไปจนถึงการทำไลฟ์สินค้า ฯลฯ เพื่อรองรับความต้องการผู้ชมในฐานะลูกค้าให้ได้มากที่สุด ด้วยเช่นกัน”
โดยผลลัพธ์หลังจากที่มิซึมิ ได้เข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok Shop Mall แล้วนั้น พบว่ามีความพึงพอใจในด้านต่างๆ ทั้งการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awarness) ในกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผู้หญิงอายุ 18-35 ปี ที่มีพฤติกรรมคุ้นเคยการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างดี ชอบดูคอนเทนต์ วิดีโอสั้น มีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าจากการรับชมไลฟ์ หรือ คอนเทนต์ และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทั้งจากตระกร้า หรือหน้าร้านได้ในที่สุด
พร้อมกล่าว ทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะ TikTok Shop Mall เป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำตลาดที่ไม่เข้ามาไม่ได้แล้ว ด้วยไม่ได้เป็นเพียงแต่แพลตฟอร์มขายของเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดสำคัญทั้งเพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้แบรนด์ร่วมกับผู้บริโภคยุคใหม่ ไปพร้อมกับการรับชมคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง และนำไปสู่การปิดการขายได้บนแพลตฟอร์มฯเดียว ที่แตกต่างไปจากช่องทางอื่นอย่างชัดเจน
บุกตลาดต่างประเทศปี 2568
คุณวริษฐา กล่าวว่า จากความสำเร็จของมิซึมิ ในตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน MizuMi ได้พาตัวเองขึ้นมาสู่การเป็นหนึ่งในห้า ‘Top5’ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ไทยไปแล้ว ท่ามกลางการแข่งขันสูงในตลาดสกินแคร์ที่มีมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วมีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 40-50% ในตลาดรวมสกินแคร์ จากเดิมมีสัดส่วนราว 30-40% ด้วยคนไทยหันมาใส่ใจการดูแลผิวพรรณและใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดมากขึ้น ที่มีส่วนผลักดันให้ตลาดนี้ เติบโตขึ้นมาก
ทั้งนี้เพื่อขยายการเติบโตธุรกิจ MizuMi ยังได้วางแผนนำสินค้าทำตลาดต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อย่างจริงจัง คาดเห็นความชัดเจนในปี 2568 จากก่อนหน้า MizuMi ได้เข้าไปทำตลาดในประเทศเวียดนามไปแล้ว
ขณะที่กลยุทธ์การทำตลาดในต่างประเทศนั้น MizuMi จะใช้ส่วนผสมทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ทั้งกลุ่มสินค้ากันแดดสูตรต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในไทยเข้าไปทำตลาด พร้อมใช้ตัวแทนสินค้าที่มีฐานแฟนคลับกระจายอยู่ในภูมิภาคนี้ อย่าง ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก’ นักแสดงสาวชาวไทยที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์กันแดด MizuMi ควบคู่ไปกับการทำตลาดร่วมกับผู้บริโภคในตลาดท้องถิ่นประเทศนั้นๆ
“แนวทางดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายแบรนด์ MizuMi ในระยะสั้นเพื่อทำตลาดในต่างประเทศ เพื่อสร้างตัวตนแบรนด์ขึ้นมาให้เด่นชัดในตลาดอาเซียน ด้วยความตั้งใจสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแรงและอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืนในอนาคต” คุณวริษฐา กล่าวทิ้งท้าย