- • ซูเปอร์สปอร์ต มุ่งสู่ผู้นำในตลาดกีฬาเซาท์อีสต์เอเซีย
- • ใช้กลยุทธ์ Specialty Sports Retail มุ่งเน้นสินค้าเฉพาะทาง
- • เทคโอเวอร์ ซื้อกิจการ หรือร่วมมือกับพาร์ทเนอร์
- • นำร่องซื้อหุ้นใหญ่ใน "เรฟ อีดิชั่น" เจาะตลาดวิ่งโดยเฉพาะ
- • ขยายธุรกิจ สู่ตลาดใหม่และเติบโตในภูมิภาค
การตลาด – เปิดทางโต “ซูเปอร์สปอร์ต” กรุยทางสู่ผู้นำเชนร้านกีฬาตลาดเซาท์อีสต์เอเซียรุกโมเดล สเปเชียลตี้สปอร์ตรีเทล ชูกลยุทธ์เทคโอเวอร์ ซื้อกิจการ หรือร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ นำร่อง ซื้อหุ้นใหญ่ใน “เรฟ อีดิชั่น” เจาะตลาดวิ่งโดยเฉพาะ แย้มเล็งสเปเชียลตี้สปอร์ตอื่น ด้วย ทั้งกลุ่มแร็กเก็ต กลุ่มฟุตบอล กลุ่มกอล์ฟ เปิดแผนหลังซื้อ เรฟ อีดิชั่น ทั้งในไทยและเซาท์อีสต์เอเซีย
ซูเปอร์สปอร์ต” ของค่าย เซ็นทรัลกรุ๊ป กำลังเดินเกมรุกครั้งใหม่ที่ท้าทายอีกขั้น ด้วยกลยุทธ์การขยายสู่การเปฺ็นผู้นำด้านกีฬาแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละเซ็กเมนต์กีฬาหรือสเปเชียลตี้สปอร์ต (Specialty Sports) ในแง่ของโมเดลเพอร์ฟอร์มานซ์ที่่มากกว่าการเป็นเพียงแฟชั่นไลฟ์สไตล์เหมือนที่่ทำอยู่
ปฐมบทเริ่มแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อบริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้านซูเปอร์สปอร์ตในเครือเซ็นทรัล รีเทล (ซีอาร์ซี) ลงทุนมากถึง 468 ล้านบาท ในการเข้าซื้อหุ้นจำนวนมากและกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 75% ในบริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เมื่อเร็วๆนี้
เรฟ อีดิชั่น เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์สินค้ากลุ่ม Sports Performance & Lifestyle และสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์แฟชั่น ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ในฐานะผู้บริหารร้านไนกี้ แฟลกชิปสโตร์ แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นผู้บุกเบิกและบริหารร้านกีฬา REV RUNNR ซึ่งเป็นร้านอุปกรณ์กีฬาสำหรับผู้ที่รักการวิ่งโดยเฉพาะ
นายเล็น เลิศสุมิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ยอมรับว่า ทางซูเปอร์สปอร์ต มีแผนที่จะขยายการเป็นสเปเชียลตี้สสปอร์ตโมเดลนี้ในกลุ่มกีฬาอื่นด้วยเช่นกันซึ่งเป็นร้านกีฬาเฉพาะเจาะจงประเภททั้งในแง่เพอร์ฟอร์มานซ์และไลฟ์สไตล์แฟชั่น แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อาจจะเป็นการร่วมมือกับทางพาร์ทเนอร์ หรือแนวทางใดก็ได้ แล้วแต่จังหวะและโอกาส ซึ่งกลุ่มกีฬาที่เรามองว่าจะทำแบบเพอร์ฟอร์มานซ์หรือจับกลุ่มผู้ที่เล่นกีฬานั้นแบบจริงจังแบบตลาดวิ่งโดยเฉพาะก็เช่น ตลาดกีฬากลุ่มฟุตบอล ฟุตซอลล์ กลุ่มแร็คเก็ต กลุ่มกอล์ฟ เป็นต้น
“ปีนี้ถือว่าวงการกีฬามีแรงผลักดันแรงส่งอย่างมาก ทั้งโอลิมปิก เฉพาะกีฬาที่ไทยได้เหรียญทำให้ตลาดคึกคักมาก เช่น แบดมินตันในกลุ่มแร็กเก็ต ส่งผลให้สินค้ากลุ่มแร็คเก็ตเดือนสิงหาคมเติบโตสูงที่สุดในรอบ 27 ปีของซูเปอร์สปอร์ต หรือฟุตซอลที่ไทยเราเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตอนนี้ก็คึกคัก”
อย่างไรก็ตาม ตลาดวิ่ง เป็นเซ็กเมนต์แรกที่รุกเข้าไป เนื่องจาก ตลาดรองเท้าวิ่ง เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดมากกว่า 5,000 ล้านบาท จากตลาดรวมอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดที่มีประมาณ 35,000 ล้านบาท และกลุ่มรองเท้าวิ่งทำรายได้ให้กับซูเปอร์สปอร์ตสัดส่วน 25-30% ด้วย ซึ่งไม่ใช่น้อยๆเลย
เช่นเดียวกับ ทางเรฟ อีดิชั่น ที่มีรายได้จากกลุ่มรองเท้าวิ่งมากถึง 40% โดยมาจาก 3 แบรนด์หลักมากกว่า 50% คือ Hoka, Saucony, Kailas
ขณะที่ นักวิ่งหรือผู้ที่เล่นกีฬาวิ่งอย่างจริงจังในไทยมีมากกว่า 15 ล้านคนหรืออาจจะเพิ่มไปถึงใกล้ 20 ล้านคนแล้วก็ได้ เพิ่มจากเมื่อ ช่วง 3 ปีก่อนที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประเมินว่ามีประมาณ 13 ล้านคน
ผู้จัดการรายวัน360 มีรายงานจากทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ด้วยว่า เมื่อปี 2565 มีกีฬา 4 ชนิดที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดในไทย ซึ่ง กีฬาวิ่ง ติดอันดับที่2 โดยระบุว่า กีฬาวิ่ง รายได้ส่วนใหญ่มาจากการจัดอีเวนท์ ในปี 2566 สสส. ระบุว่า ไทยมีนักวิ่งประมาณ 20 ล้านคน ส่งผลให้เกิดอีเวนท์วิ่งเฉลี่ย 1,400 – 1,600 งาน/ปี มูลค่ารวมราว 6 พันล้านบาท แต่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 2.05 แสนล้านบาท หรือ 19.39% ของมูลค่ารวมอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศ
ขณะที่่อันดับที่ 1 คือ ฟุตบอล ซึ่งในปี 2565 กีฬาฟุตบอลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 5.39 แสนล้านบาท หรือราว 35.21% ของมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศ
นางสุฑาทิพย์ มนูญผล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ และพันธมิตร กลุ่มเซ็นทรัล แบรนด์แอนด์สเปเชียลตี้ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า การเข้าซื้อธุรกิจ โดยถือหุ้นใหญ่บริษัท เรฟ อีดิชั่น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และภารกิจของกลุ่มเซ็นทรัลแบรนด์แอนด์สเปเชียลตี้ ที่มุ่งมั่นในการสรรหาผลิตภัณฑ์ แบรนด์และคอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการให้ครอบคลุมผู้บริโภคที่หลากหลาย ทั้งสินค้ากลุ่มแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ รวมถึงกีฬา
“กีฬาและสุขภาพไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่สำคัญของผู้บริโภค และยังคงขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ซี อาร์ ซี สปอร์ต เป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการร้านค้าปลีกกีฬาร้านแรกในตลาดอย่างร้านซูเปอร์สปอร์ต รวมถึงเป็น Exclusive Distributor and Licensee แบรนด์กีฬาชั้นนำระดับโลก ทำให้เราเป็นผู้นำเจ้าตลาดค้าปลีกกีฬาอันดับ 1 มาตลอดกว่า 27 ปี และจะก้าวไปอีกขั้นหลังการเข้าซื้อธุรกิจ บริษัท เรฟ อีดิชั่น”
นายอเล็กซองต์ อัมเบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า การเข้าซื้อธุรกิจ โดยถือหุ้นใหญ่บริษัทเรฟ อีดิชั่น เป็นกุญแจสำคัญที่ต่อยอดความสำเร็จขั้นต่อไปของซีอาร์ซี สปอร์ต ในแง่ของการเติบโตทางธุรกิจ การขยายฐานลูกค้า และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่จะเสริมความแข็งแกร่งของ ซีอาร์ซี สปอร์ตในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกกีฬาอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นผ่านการขยายสาขาทั้งร้านมัลติแบรนด์อย่าง Supersports และ REV RUNNR รวมถึงแบรนด์สโตร์ เป็น 2 เท่าในประเทศไทย และขยายสาขาไปยังมาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ พร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เรามองหาโอกาสและพื้นที่ในการเติบโตภายนอกด้วยต่อเนื่อง การซื้อหุ้น เรฟ อีดิชั่น เพราะเขามีความแข็งแกร่งอยู่แล้วโดยเฉพาะในเรื่องตลาดรองเท้าวิ่ง และยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์รองท้าแบรนด์ดังระดับโลกอีกมากมาย”
นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครือเซ็นทรัลในครั้งนี้ ภายใต้การถือหุ้นของ ซีอาร์ซี ซูเปอร์สปอร์ตครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะติดปีกเรฟ อีดิชั่น และแบรนด์ในเครือ ให้เติบโตยิ่งขึ้นอีกในอนาคต สอดรับแผนกลยุทธ์ของเรฟ อีดิชั่น
“เรฟ อีดิชั่น มีประสบการณ์ในวงการธุรกิจกีฬากว่า 24 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า ประสิทธิภาพและความสำเร็จในการเล่นกีฬาของทุกคน นอกเหนือจากการทุ่มเทฝึกซ้อมแล้ว ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ เราจึงให้ความสำคัญในการคัดเลือกอุปกรณ์กีฬาที่มีคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการออกกำลังกายอย่างดีที่สุด สอดคล้องกับปณิธานการเป็นผู้นำ Performance Sports Retail ของซี อาร์ ซี สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัล รีเทล”
เขากล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน เทรนด์กีฬายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขยายกลุ่มผู้สนใจไปสู่วงกว้าง และมีแนวโน้มไปในทิศทางของการเพิ่มศักยภาพร่างกายให้แข็งแกร่ง มีพฤติกรรมของลูกค้าที่มีแนวโน้มในการจับจ่ายสินค้ากีฬาแนว Performance Sports เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อครั้งสูงขึ้นประมาณ 15% เทียบจากปี 2566 ซึ่งอ้างอิงจากฐานข้อมูลสมาชิกของ REV RUNNR ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 3.3 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ เมื่อท้ังสองผนึกรวมกันแล้วย่อมตอกย้ำให้ให้กลุ่มนี้ครองความเป็นผู้ํนำในตลาดที่ชัดเจน ทั้งในแง่ จำนวนสาขา จำนวนแบรนดฺ์ลิขสิทธิ์ จำนวนสัดส่วนครองตลาด ทิ้งห่างคู่แข่งออกไปอีก
โดยทางซูเปอร์สปอร์ตมีแบรนด์ในมืออยู่แล้วจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบของการเป็น ตัวแทนจำหน่ายและตัวแทนร้านค้าปลีกสินค้ากีฬาใน 2 ส่วนหลักคือ 1. ธุรกิจร้านค้ามัลติแบรนด์อุปกรณ์กีฬา ภายใต้ชื่อซูเปอร์สปอร์ต และ2. ธุรกิจจัดจำหน่ายและลิขสิทธิ์แบรนด์ (Distributor and Licensee) โดยถือแบรนด์กีฬาชั้นนำระดับโลก ประกอบด้วยแบรนด์ Reebok, Columbia, LFC, Merrell, Speedo, Wilson, Umbro
ขณะที่ทางด้านเรฟอีดิชั่นนั้น มีหลากหลายแบรนด์ที่ถือลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายรายเดียวในไทย เช่น Hoka, Saucony, Goodr, 2XU, CEP, Qiaodan, XTEP, Kailas, Champion, Aonijie, National Geographic, Teva, Oakley และยังมีการเจรจาเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดต้นปีหน้าก็เตรียมเปิดตัวใหม่อีก 1 แบรนด์
แน่นอนว่า ย่อมทำให้ซี อาร์ ซี สปอร์ต ขยายพอร์ทสิทธิ์การจัดจำหน่ายในประเทศไทย (Official distributor and licensee) รวมมากกว่า 20 แบรนด์ช่วยเสริมพลังให้ซี อาร์ ซี สปอร์ต เป็นผู้นำตลาดในไทย
นอกเหนือจากนั้น เรฟ อีดิชั่น ที่เป็นเจ้าตลาดเชนร้านค้าปลีกรองเท้าวิ่งอยู่แล้ว ในเซาท์อีสต์เอเชียด้วยจุดขายรวมกันมากกว่า 159 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยและสาขาในมาเลเซีย ขณะที่อันดับ2 ในภูมิภาคนี้คือทุนจากสิงคโปร์ มีประมาณ 8-10 สาขาเท่านั้นเอง ในสิงคโปร์และมาเลซีย
แต่แผนขยายสาขาของเรฟอีดิชั่นก็มีต่อเนื่องเช่นกัน
อเล็กซ์ ย่้ำว่า เราจะขยายธุรกิจของ เรฟ อีดิชั่น ทั้งตลาดในไทยและในตลาดเอเชียตะวัันออกเฉียงใต้ ที่มีอยู่แล้วและเปิดตลาดประเทศใหม่ๆด้วย เรามีแผนจะปักธง เรฟ ในเว่ียดนาม รวมทั้งในมาเลเซีย ที่กลุ่มเซ็นทรัลมีฐานธุรกิจอยู่แล้ว และในสิงคโปร์ด้วย
ส่วนซูเปอร์สปอร์ต มีแผนเปิดร้านเฉลี่ยปีละ 1-2 สาขา จากปัจจุบันมีเครือข่ายร้านค้ารวม 93 สาขา ส่วนร้านแบบโมโนช้อป หรือแบรนด์ช้อป ก็มีแผนเพิ่มอีก เช่น ร้านรีบอค ร้านสปีโด ปีหน้าเปิด 5-10 สาขา
นอกจากน้้นก็ยังมีการปรับโฉมร้านเดิมและเปิดร้านโฉใหม่ ให้ตรงกับอินไซต์ความต้องการของลูกค้า โดยที่ผ่านมาทำไปแล้วนำร่อง 4 สาขาใหญ่ ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, เซ็นทรัล นครสวรรค์, เซ็นทรัล นครปฐม และเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ และในปี 2567 จะใช้งบประมาณอีก 250 ล้านบาท สำหรับการปรับโฉมสาขาอื่นๆ สู่ 3.0 ได้แก่ เซ็นทรัลชิดลม, เมกะบางนา และเซ็นทรัลเวสต์เกต ซึ่งจากการปรับโฉมสโตร์ ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า
ทางด้าน นายเล็น กล่าวว่า ปัจจุบันแพลตฟอร์มหน้าร้านในเครือเรฟ อีดิชั่น มีจำนวนรวม 159 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยและสาขาในมาเลเซีย ทั้งในรูปแบบ ร้าน REV RUNNR, แบรนด์ชอป, เคาน์เตอร์ในสโตร์ (shop in shop) รวมถึงในร้านมัลติแบรนด์ต่างๆ และหน้าร้านออนไลน์ ซึ่งแพลตฟอร์มต่างๆ จะเติบโตทั้งแง่การขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับ ซี อาร์ ซี สปอร์ต มีเป้าหมายที่จะขยายหน้าร้านอีก 8 สาขา โดยเป็นร้าน Supersports 1 สาขา และร้านแบรนด์ LFC, Columbia, Merrel,และ Reebok รวมอีก 7 สาขา ส่วนร้านในการบริหารของเรฟ อีดิชั่น ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 จะขยายหน้าร้านในเครืออีก 19 สาขา รวมถึงร้าน NATIONAL GEOGRAPHIC LIFESTYLE STORE สาขาแรกของประเทศไทย และมีแผนจะขยายสาขาทั้งร้านมัลติแบรนด์และแบรนด์สโตร์อีกมากกว่า 20 สาขา ซึ่งรวมถึงสาขาในมาเลเซีย ภายในปี 2568
ในแง่ CRM เรฟ อีดิชั่น จะสามารถใช้ฐานข้อมูล The1 เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การชอปปิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรฟ อีดิชั่น จะเข้าถึง Ecosystem ของเซ็นทรัล รีเทล ที่ทำให้การจัดการสินค้าและการบริหารหน้าร้านเติบโตไปได้อย่างไร้รอยต่อ
นอกจากนั้น ในสิงคโปร์มีแผนรุกในไตรมาสสองปีหน้า(2568) เปิดช้อปบนถนน Orchard หรือ VivoCity ที่เป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่าน HarbourFront ตรงข้ามกับเซ็นโตซ่า และวางแผนจะเปิด ร้านRev Runner ในมาเลเซีย 20 แห่งใน 3-5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมีสาขาในโมเดลต่างๆ เปิดบริการแล้วกว่า 40 แห่ง