สสว. ผนึกกำลัง ส.อ.ท. จัดงาน SME Soft Power ทั่วไทย คาดสร้างรายได้ 180 ล้านบาท

สสว. ร่วมกับส.อ.ท. เปิดตัวโครงการ SME SOFT POWER : เสริมเสน่ห์ SME อย่างสร้างสรรค์ ด้วยสินค้าไทย ภายใต้ การส่งเสริมและพัฒนาการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ SME ด้วย Soft Power ทั่วประเทศ กว่า 740 รายเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจและอยู่รอดได้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดงานนี้ สร้างรายได้ กว่า 180 ล้านบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนซอฟท์ พาวเวอร์ (Soft Power) ของประเทศ เพื่อยกระดับและพัฒนาความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำมาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่มซึ่งนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) และรัฐบาล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการผลักดันซอฟท์ พาวเวอร์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย (Creative Economy) ให้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และขยายศักยภาพสู่การส่งออกในระดับสากล สำหรับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ สสว. มุ่งส่งเสริม ซึ่งได้แก่ อาหาร ออกแบบแฟชั่น ท่องเที่ยว และภาพยนตร์ นั้น รัฐบาลก็มีนโยบายสนับสนุนในมิติต่างๆ อาทิ เร่งผลักดันการท่องเที่ยวศักยภาพสูง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวทางน้ำ และอุตสาหกรรมการจัดแสดงและประชุม หรือธุรกิจไมซ์ (MICE) เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงมาเที่ยวในไทย รวมถึงผลักดันเทศกาลไทยให้ใหญ่ระดับโลก สร้างคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาการออกแบบและบ่มเพาะดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ การขยายตลาดภาพยนตร์ไทย รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนการขยายร้านอาหารไทยและสร้างเครือข่ายร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เพิ่มเร่งการส่งออกและวัตถุดิบจากไทย

โครงการส่งเสริมและพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการ SME ด้วย Soft Power ของ สสว. ในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ภาครัฐตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่ในอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ให้สามารถเติบโตและแข็งแกร่งได้ในอนาคต ซึ่งจะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยต่อไป

นายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า ช่วงการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง 3 ปีแรก เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจและอยู่รอดได้ ดังนั้นการสร้างกลไกต่าง ๆ ในการต่อยอดธุรกิจ การหาช่องทางตลาด การเข้าถึงแหล่งเงินทุนล้วนมีความสำคัญสำหรับผู้ประกอบการใหม่ และเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

รอง ผอ.สสว. เผยอีกว่า จากปัจจัยดังกล่าว สสว. จึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ SME ด้วย Soft Power ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมผลักดันซอฟท์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก เป็นการพัฒนากลไกในการช่วยเหลือผู้ประกอบการระยะเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งจะช่วยผู้ที่ต้องการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ กลุ่มอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มออกแบบแฟชั่น กลุ่มภาพยนตร์ สามารถสร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และสร้างคุณภาพชีวิต เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง เติบโต และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการดำเนินไปบ้างแล้ว และคาดว่า งานดังกล่าว จะสามารถสร้างรายได้กว่า 180 ล้านบาท

“การดำเนินกิจกรรม SME SOFT POWER ในครั้งนี้ มุ่งหวังเพื่อยกระดับผู้ประกอบการใหม่ โดยเติมคนเก่งเข้าสู่ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน เพื่อเข้ามารับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตต่อไป”

สำหรับการดำเนินงานในครั้งนี้ สสว.ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระจายการดำเนินงานไป 18 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการได้มากที่สุด ซึ่ง สสว. ได้มองเห็นถึงศักยภาพและจุดแข็งของ ส.อ.ท. ที่มีเครือข่ายของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการใหม่ในพื้นที่ สามารถค้นหาสินค้าซอฟท์ พาวเวอร์ที่มีอัตลักษณ์ของแต่ละกลุ่มจังหวัด ใช้องค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจในกลุ่มจังหวัดมาช่วยขับเคลื่อนผู้ประกอบการเพื่อขยายมุมมองในการทำธุรกิจที่กว้างขึ้น

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ที่ bit.ly/smeSP หรือสอบถามไปยัง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดได้ทุกจังหวัดตามพื้นที่ ที่ท่านดำเนินการอยู่ “สสว. เคียงข้าง SME คู่คิดที่ดีผู้ประกอบการไทย”