- • โตเกียว SME จัดสัมมนา เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
- • เสริมแกร่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ให้ยั่งยืน
- • จุดประสงค์สัมมนา: ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปญี่ปุ่น
ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo Metropolitan Small and Medium Enterprise Support Center) ร่วมกับพันธมิตรผู้ประกอบการจากกรุงโตเกียว ประกาศความสำเร็จของงาน “Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar” กิจกรรมสัมมนาเชิงธุรกิจที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจลงทุน มองหาพันธมิตร หรือต้องการขยายธุรกิจไปประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีการจัดงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ และเพิ่มช่องทางการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs นักลงทุน ตลอดจนนักธุรกิจไทยในสาขาต่างๆ ที่สนใจ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ตรงมาร่วมแชร์ความคิดเห็น ประสบการณ์ พร้อมแนะนำแนวทางในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักลงทุนไทย – ญี่ปุ่น ตลอดจนมุ่งเน้นการเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างกันอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทยให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมงานในรูปแบบ Hybrid ทั้ง Onsite และ Online ผ่านระบบ ZOOM กว่า 100 ราย
นายมาซายูกิ คิมุระ (Mr. Masayuki Kimura) General Manager, Professional Career Development Support Section, Globalization Support Desk (Organization & HR) ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “Tokyo Metropolitan Small and Medium Enterprise Support Center หรือ ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกรุงโตเกียว ซึ่งมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในเขตพื้นที่กรุงโตเกียวมานานกว่า 50 ปี และนับตั้งแต่เปิดสำนักงานกรุงเทพฯ เมื่อปี 2015 เราได้ทำงานเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างธุรกิจในประเทศไทยและกรุงโตเกียว โดยในปี 2019 เราได้เริ่มจัดกิจกรรมสัมมนาขึ้นที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการสนับสนุนบริษัทในเอเชียฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานสัมมนา Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar ขึ้นสองครั้งที่กรุงเทพฯ และได้รับการตอบรับที่ดีและมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากในปีนี้ด้วยเช่นกัน”
ในขณะเดียวกัน กรุงโตเกียวถือเป็นมหานครขนาดใหญ่ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุน ด้วย GDP ที่ติดอันดับ 2 ของโลกในปี 2023 (จัดอันดับโดย The Organization of Global Financial City Tokyo) และเป็นเมืองมหาอำนาจ Global Power City อันดับที่ 3 ในปี 2023 (จัดอันดับโดย Institute for Urban Strategies of the Mori Memorial Foundation) เป็นศูนย์รวมของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 1,000 ล้านเยน กว่า 3,000 แห่ง (คิดเป็นครึ่งหนึ่งของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น) นอกจากนี้ยังมีสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้อต่อการเลือกลงทุน ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่ทันสมัย ตลอดจนประสิทธิภาพของบริการรถไฟและความมั่นคงของเมืองสูง จึงสร้างความได้เปรียบจากการเป็นทำเลทองของการลงทุน เพื่อช่วยสร้างโอกาสการแข่งขันในภูมิภาค และช่วยให้การเข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับชั้นนำของโลก ทั้งฐานการวิจัย R&D ซึ่งมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาใน GDP สูง, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี, มีบุคลากรแรงงานทักษะสูง, มีสัดส่วนของวิศวกรสูงที่สุดในโลก, มีพันธมิตรร่วมค้นคว้าวิจัย และมีกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญารองรับ จึงเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการลงทุน แม้จะมีต้นทุนการดำเนินงาน ปัญหาแรงงาน และภาระภาษีเข้ามาเป็นอุปสรรค แต่ด้วยค่าเงินเยนที่อ่อนลงในขณะนี้ ประกอบกับค่าครองชีพในกรุงโตเกียวที่ไม่สูงขึ้น ตลอดจนรัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการส่งเสริมผลักดันนโยบายเกี่ยวกับบุคลากรที่มีทักษะจากต่างประเทศให้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อหวังช่วยแก้ปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิต จึงยังส่งผลบวกต่อการเลือกลงทุนในโตเกียวของผู้ประกอบการต่างชาติอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้พื้นที่ของเมืองชิบูย่าในกรุงโตเกียวยังสามารถดึงดูดความสนใจจากทั่วทุกมุมโลกในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมวัยรุ่น (Youth Culture) ไม่ว่าจะเป็นด้านอนิเมะ แฟชั่น ฯลฯ ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีบริการด้านการลงทุนครบวงจรที่ได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายองค์กรในประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งผลต่อโอกาสทางการลงทุน อาทิ Business Development Center TOKYO (BDCT) ซึ่งให้บริการด้านธุรกิจครบวงจรสำหรับบริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว ตั้งแต่เรื่องธุรกิจไปจนถึงการใช้ชีวิต ซึ่งมีกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนของการระดมทุน ไปจนถึงการขยายช่องทางการจำหน่าย รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นต่อการจัดตั้งบริษัทในญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขยายกิจการในมหานครโตเกียวได้อย่างรวดเร็ว
Tokyo One-Stop Business Establishment Center (TOSBEC) ที่พร้อมให้คำปรึกษารายบุคคลโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทแก่ธุรกิจต่างชาติหรือธุรกิจร่วมทุน เพื่อให้สามารถดำเนินขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การรับรองหนังสือบริคณห์สนธิ, การแจ้งจดทะเบียนบริษัท, การจัดการด้านภาษี, การยื่นประกันสังคม และการจัดการด้านเอกสาร การตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น รวมถึงส่งเสริมด้านการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งพร้อมรับฟังความต้องการต่างๆ ของบริษัทต่างชาติ เพื่อดำเนินการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ให้กับผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจในกรุงโตเกียว โดยจะดำเนินการค้นหาคู่ค้า, ซัพพลายเออร์ หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อแนะนำพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมเชิญคุณเข้าร่วมงานต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยกรุงโตเกียว เพื่อขยายโอกาสในการพบปะคู่ค้าที่มีศักยภาพต่อไป
และ Startup Ecosystem Tokyo Consortium ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ บริษัท, หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ, มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย, กิจการร่วมค้า และภาคการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือในวงกว้าง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้กรุงโตเกียวกลายเป็นมหานครแห่งสตาร์ทอัพอันดับ 1 ของโลก โดยพร้อมให้บริการคำปรึกษาฟรีแก่ธุรกิจต่างชาติในสาขาอุตสาหกรรม 4.0 และธุรกิจด้านการเงินที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ต้องการขยายกิจการสู่เขตมหานครโตเกียว อาทิ การวิเคราะห์และการวางกลยุทธ์ด้านการตลาด และการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ พร้อมสนับสนุนการจับคู่เจรจาทางการค้าระหว่างบริษัทต่างชาติและบริษัทในโตเกียวผ่านโครงการต่างๆ รวมถึงการบริหารงานเงินการลงทุน ซึ่งทางกรุงโตเกียวมีโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับจัดตั้งสำนักงานใหม่ในเขตโตเกียวอีกด้วย
ภายในกิจกรรมสัมมนา Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีตัวแทนจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งทั้งทาง Onsite และ Online เพื่อร่วมรับฟังการบรรยาย และกิจกรรมสัมมนาต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจ เช่น การบรรยายในหัวข้อ “Business Environment and Industrial Trends in Tokyo” โดยนายยูจิ อิเคะดะ (Mr. Yuji Ikeda) Head of Southeast Asia Office, Deloitte Tohmatsu Venture Support Co., Ltd. Access to Tokyo, Singapore Representative และนายเก็มเป อะสะมะ (Mr. Gempei Asama) Global Division Deloitte Tohmatsu Venture Support Co., Ltd. Access to Tokyo, General Manager, การเสวนาในหัวข้อ “บอกเล่าประสบการณ์ความสำเร็จในการขยายตลาดธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว” โดยนายวงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้สำเร็จ ตลอดจนกิจกรรมการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลจาก Tokyo SME Support Center สำหรับผู้ที่สนใจหรือมีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนหรือขยายโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงรับฟังคำแนะนำดีๆ จาก Business Concierge Tokyo เกี่ยวกับการสนับสนุนบริษัทต่างชาติในการขยายธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว นอกจากนี้ในช่วงสุดท้ายของงานสัมมนาได้จัดให้มีช่วง Networking โดยมีคุณวงศ์วิวัฒน์เข้าร่วมด้วย ซึ่งผู้ร่วมงานทุกท่านต่างให้ความสนใจ สอบถามข้อสงสัย และเต็มไปด้วยความต้องการที่จะขยายธุรกิจไปสู่กรุงโตเกียวเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นจากการเข้าร่วมงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะได้รับสิ่งที่ประโยชน์ในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจของท่านในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tokyo SME Support Center ทางเว็บไซต์ https://www.tokyo-kosha.or.jp/english/index.html ช่องทางการติดต่อเพื่อปรึกษาด้านธุรกิจ